PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ภารกิจพิชิตฝัน ผลิตคนทันยุค 4.0

ภารกิจพิชิตฝัน ผลิตคนทันยุค 4.0



ภาคอุตสาหกรรมโลกกำลังมุ่งไปสู่ยุค 4.0 มีระบบ “ออโตเมชัน” เชื่อมโยงคำสั่งผ่าน “ดิจิทัล” เป็นหัวใจสำคัญ เป้าหมายขับเคลื่อน “การผลิต” เต็มรูปแบบ...ยกระดับสู่การเป็น “โรงงานอัจฉริยะ”
ทว่า...กลับสวนทางภาคอุตสาหกรรมไทยในวันนี้ที่ร้อยละ 75 โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลาง...เอสเอ็มอี ยังคงใช้เทคโนโลยีในระดับที่ต่ำกว่า 2.5 ด้วยข้อจำกัดด้านเงินทุนและขาดแคลนช่างเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ การเร่งผลิต...พัฒนาคุณภาพกำลังคนอาชีวะในช่วง 5-10 ปีข้างหน้านี้จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วน
จากการที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ใน 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ให้มีการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เมื่อช่วงต้นปี 2560 และต่อมามีการประกาศ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2561
“ปฏิรูปการศึกษา”...พัฒนาคนให้ทันยุค 4.0 ยิ่งต้องเดินหน้าเต็มกำลัง กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หัวเรือใหญ่ต้องเร่งขับเคลื่อนการบูรณาการการศึกษาภาคตะวันออก และการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่อีอีซีกำหนดแผนงาน...จัดหลักสูตรที่สอดคล้องกันทุกระดับการศึกษา ทั้งในระดับพื้นที่ พร้อมเปิดกว้างความร่วมมือพัฒนากับมิตรประเทศชั้นนำระดับโลก เพื่อสร้างบุคลากรรองรับนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศธ. ผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดการศึกษาในพื้นที่ EEC มีคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนการบูรณาการการศึกษาภาคตะวันออกและการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ของกระทรวงศึกษาธิการ” เพื่อรับผิดชอบจัดทำแผนงานบูรณาการ
เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ได้มีการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ เป็นครั้งที่ 2 ที่ชลบุรี พุ่งเป้าไปที่แนวทางการพัฒนาบุคลากร การศึกษา การวิจัย เทคโนโลยี ในการผลิตบุคลากร...งานวิจัยให้ตรงความต้องการของอุตสาหกรรม เพราะแนวทางดังกล่าวเป็น 1 ใน 6 ด้าน ตามแผนพัฒนา เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.)
“เพื่อให้งานเกิดความต่อเนื่องจากทุกกระบวนการ ได้มอบให้ศึกษาธิการภาค 3 กับภาค 9 รับผิดชอบจัดทำและขับเคลื่อน ซึ่งจะกำกับติดตามการขับเคลื่อนแผนทั้ง 8 จังหวัดในภาคตะวันออก คือ นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด”
ศึกษาธิการระดับพื้นที่จะเน้นไปที่การเพิ่ม “โอกาส” ทางการศึกษาให้ผู้เรียนมี “ทางเลือก” ที่หลากหลาย โดยเฉพาะ “สายอาชีพ” ที่มีการพัฒนาหลักสูตรต่อเนื่องเชื่อมโยงการศึกษาขั้นพื้นฐาน กับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา กว่า 35 หลักสูตร โดยหวังให้นักเรียนขั้นพื้นฐานมีทักษะ เจตคติที่ดีต่อการศึกษาสายอาชีพ
ขณะที่นักศึกษาอาชีวะสามารถเข้าสู่เส้นทางอุดมศึกษา และมีการจัดการเรียนการสอนสอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรม Thailand 4.0 เช่น หลักสูตร ปวส.ต่อเนื่อง 5 ปี...ตามมาตรฐาน KOSEN โดยวิทยาลัย อาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี), หลักสูตรวิศวกรรมระบบอัจฉริยะ (Smart System Engineering) วิศวกรรมเมืองอัจฉริยะ (Smart Urban Engineering) โดย มศว องครักษ์ ฯลฯ
งาน “เปิดบ้านการศึกษาในเขต EEC” ที่ผ่านมาเป็นอีกเวทีเชื่อมโยงการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา อุดมศึกษา รวมถึง กศน. เป็นการสร้างความรับรู้ให้สังคมวงกว้าง เป็นโอกาสที่สถาบันการศึกษาทุกฝ่ายนำผลงาน...นำนักเรียนมาแสดงฝีมือ ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครอง สถานศึกษา ชุมชน
นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับต่างประเทศส่งเสริมด้านการศึกษาในพื้นที่อีอีซี เช่น พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษานานาชาติ รวมทั้งความร่วมมือกับญี่ปุ่นในการจัดตั้งสถาบัน Thai-KOSEN และส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศเข้ามาร่วมจัดการศึกษา ตามนโยบายเปิดรับความรู้ทันสมัยจากต่างประเทศ
เบนเข็มไปดูการปฏิรูปการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กันบ้าง...นับเป็นเวลากว่า 8 เดือนที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยศูนย์ประสาน งานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือกระทรวงศึกษาธิการ (ส่วนหน้า) ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานการศึกษาทุกสังกัด เพื่อแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษา
เช่นเดียวกับที่ต้องทำงานเชิงรุกสร้างการรับรู้ไปสู่ “ผู้ปกครอง” และ “ชุมชน” ทั่วพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง ติดตามเด็กตกหล่นคืนสู่ระบบการศึกษา...
“เด็ก” ทุกคนจะต้องกลับเข้าสู่ระบบ “การศึกษา” หรือ...ให้มากที่สุด
โจทย์ที่ท้าทายคือตัวเลขเด็กกว่า 2.7 หมื่นคนที่จะกลับเข้ามาสู่ “ระบบการศึกษา” คณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ลงพื้นที่สำรวจข้อมูล เพื่อให้เห็นสถานภาพปัจจุบัน ตรวจสอบข้อมูลกลุ่มเป้าหมายครบถ้วนแล้ว เป็นหน้าที่ของแต่ละพื้นที่จะจัดหาที่เรียนให้อย่างเหมาะสมกับสภาพของผู้เรียนแต่ละคน
พล.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า การแก้ปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหนึ่งในงานที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีคุณภาพ พร้อมสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างทั่วถึง
“การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอันดีงามตามประเพณี ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจนเท่าทันต่อวิทยาการ...เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป”
ภารกิจในครั้งนี้ คือ การให้ความช่วยเหลือประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้รับการศึกษาครบทุกคน ซึ่งเป็นการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ม.6 หรือ ปวช. ที่มีระยะเวลาการศึกษา 15 ปี
อิชิโร มิยาซาวา ผู้เชี่ยวชาญด้านการรู้หนังสือและการเรียนรู้ตลอดชีวิต องค์การยูเนสโก เสริมว่า ปัจจุบันจำนวนประชากรตกหล่นทางการศึกษาในภูมิภาคอาเซียน มีมากถึง 4.1 ล้านคน ซึ่งเป็นเพียงการประมาณการของรัฐบาลเท่านั้น เชื่อว่า...หากสำรวจอย่างจริงจังคงมีจำนวนสูงกว่านี้...
มีความจำเป็นที่ทุกประเทศต้องมีความร่วมมือในการให้การศึกษาแก่เด็กตกหล่นร่วมกัน
ความพยายามแก้ปัญหาเด็กตกหล่นของไทยตลอดช่วงที่ผ่านมา สอดคล้องและเป็นไปตามปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการสร้างเสริมความเข้มแข็งด้านการศึกษาให้กับเด็ก...เยาวชนตกหล่น ควรที่จะเผยแพร่ผลความสำเร็จให้ทั่วโลกรับรู้ และหวังว่า...จะมีการขยายผลการดำเนินงานไปยังจังหวัดอื่นทั่วประเทศไทย
ความสำเร็จที่เกิดจากความพยายามครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น สิ่งที่สำคัญกว่าต่อจากนี้ คือการช่วยให้เด็กคงอยู่ในระบบการศึกษาจนสำเร็จการศึกษาได้ ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันสนับสนุนเด็ก
สิ่งสำคัญอยู่ที่ “ครู”...ที่ได้รับความไว้วางใจและเชื่อถือจากทุกภาคส่วน หากจะมองย้อนกลับไปในอดีตกว่า 40 ปี เมื่อเราอยู่ในโรงเรียน หากไม่ชอบครู...เราก็จะไม่มีความสนใจที่จะเรียน ดังนั้น ความไว้วางใจต่อครูจึงเป็นสิ่งสำคัญ อาทิ ครู กศน.ที่เข้าถึงประชาชนทุกตำบลทุกหมู่บ้าน เพราะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน
ส่วนครูของ สพฐ. และหน่วยงานด้านการศึกษา ก็มีความเข้าใจดีถึงบทบาทในการช่วยผลักดันเด็ก ทำให้เด็กมีกำลังใจที่จะเรียนในระบบจนจบการศึกษาได้
“ปฏิรูปการศึกษา”...ต้องดูกันยาวๆ ผลปรากฏกับ “ครู” และ “เด็ก” จะค่อยๆเกิดชัดเจนขึ้น.

ไม่มีความคิดเห็น: