PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561

คลุมเครือแต่ไปต่อแน่!

คลุมเครือแต่ไปต่อแน่!



ยังไม่ถึงเวลาปล่อยผีเต็มตัว
ซีนที่ “กูรูกฎหมายรัฐบาล” วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้รอคิว “ปลดล็อก” เป็นทางการอีกพักใหญ่
ดึงจังหวะลากยาวไปถึงเดือน ธ.ค.ก่อนเปิดให้ตะลุมบอนหาเสียงอย่างเต็มที่ ขีดเส้นให้ซ่าได้ 70 วัน พอดีๆ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
ตามสถานการณ์ที่ท็อปบูตยังไม่ผลีผลามสร้างแรงกระเพื่อม
ให้ได้แค่ช็อต “คลายล็อก” ผ่อนปรนให้นักการเมืองขยับแข้งขยับขาไปตามโปรแกรมกลางเดือน ก.ย.ที่ร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้ายคือ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.จะประกาศบังคับใช้
เว้นวรรคความต้องการสูงสุดของนักการเมืองไว้ก่อน เลี่ยงเผชิญแรงเสียดทาน หากยังไม่ถึงเวลาเหมาะสม
อย่างที่เห็นๆภาวะฝุ่นตลบตั้งเค้า รอรับรายการคลายล็อกในบรรยากาศความวุ่นวายสนามเมืองย่าโม จ.นครราชสีมา ที่แนวร่วมกลุ่มสามมิตรเปิดศึกฟ้อง กกต.ให้ยุบพรรคภูมิใจไทย
ดวลเดือดปะทะฝีปากกันไปมา จ่อไล่ฟ้องกันอุตลุด
กรณีไล่กว้านเก็บบัตรประชาชนในพื้นที่ไปสมัครสมาชิกพรรคการเมือง ประโคมข่าวแจกมัดจำกันล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนไก่โห่
2 ขั้ว ที่มีชื่อสนับสนุน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. หันมาตะลุมบอนกันเอง เพื่อช่วงชิงฐานที่มั่นสำคัญ หัวเมืองเอกภาคอีสาน
และยังไม่รู้จะมีปรากฏการณ์ทำนองเดียวกันเกิดขึ้นซ้ำรอยในพื้นที่อื่นอีกหรือไม่
ยังไม่นับคิวการแย่งถือธงนำทัพลงเลือกตั้งของ 2 ขั้วใหญ่ “เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์” ที่เริ่มแบ่งก๊กชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคกันให้เห็น
ศึกแย่งเก้าอี้ผู้นำ 2 พรรคใหญ่ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
เช่นเดียวกับการขยับโหมโรงลงพื้นที่พบชาวบ้านของ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย และการเปิดตัวพรรคประชาชาติของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อดีตประธานรัฐสภา
บรรยากาศสมรภูมิเลือกตั้งส่อเค้าระอุ แต่ละค่ายการเมืองเปิดตัวลงสนาม ขับเคี่ยวต่อสู้ทั้งภายในพรรคและนอกพรรคกันชุลมุน
เนื้อตัวมอมแมมตั้งแต่ยังไม่เป่านกหวีดเริ่มการแข่งขัน
ผิดกับทาง “ลุงตู่” ที่ยังเด้งเชือก เก็บอาการถึงนาทีสุดท้าย รอประเมินสถานการณ์หลังการคลายล็อก จึงจะให้คำตอบพร้อมกระโจนลงคลุกฝุ่นการเมืองหรือไม่
แต่ตามรูปการณ์ “ลุงตู่” ตีตั๋วไปต่อแน่ จ่อคุมเกมอำนาจต่อในช่วงเปลี่ยนผ่าน
แค่รอชี้ขาดยุทธวิธีเข้าสู่อำนาจ จะมาด้วยวิธีอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคการเมืองตามกลไกปกติ หรือมาด้วยวิธีพิเศษ เป็นนายกฯคนนอก
ตามความจำเป็นต้องเช็กยอดให้ชัวร์ที่สุด พรรคนั่งร้านหลัก “พลังประชารัฐ” จะไม่แผ่วปลาย ผลิตยอดผู้แทนฯได้เข้าเป้าตามที่วางไว้
หากยังไม่ชัวร์ก็มีโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์จะดึงเวลาให้คำตอบเรื่องการลงสนามออกไปอีก
เพราะถึงตอนนี้ “บิ๊กตู่” กุมปัจจัยความได้เปรียบไว้ในมือเกือบทั้งหมด
ต้นทุนสะสม กระแส กระสุนตุนเต็มหน้าตัก มีกลไก ส.ว. 250 เสียง เป็นของตาย โดยมีพรรคขนาดกลางและเล็กพร้อมเกาะขบวนร่วมรัฐบาลผสมสมัยหน้า
ประสบการณ์ ชั่วโมงบินเพาะบ่มมา 4 ปีกว่าๆ ถึงนาทีนี้ภูมิต้านทาน “ลุงตู่” แกร่งพอที่จะรับสภาพมอมแมม ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักภายหลังการเลือกตั้งได้
แม้การเปิดตัวพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 15 ก.ย.จะยังไม่มีชื่อ อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นั่งแท่นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคน้องใหม่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ในภาวะที่ท่าที “บิ๊กตู่” ยังคลุมเครือ แต่พลังกองหนุนหนาแน่นเหลือเฟือ
จึงไม่จำเป็นต้องรีบเปิดตัวให้ช้ำเร็ว!!!
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: