PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ศึกในชวนเวียนหัวกว่า

ภูมิต้านทานยังแกร่ง
4 รมต.น้องใหม่ค่ายพลังประชารัฐยังนิ่ง ไม่แกว่งไปตามกระแสกดดันให้ไขก๊อกลุกจากเก้าอี้รัฐมนตรีที่โดนกระหน่ำต่อเนื่องมาร่วมสัปดาห์ตามสัญญาณที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม รวมถึงนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประสานเสียงไปทางเดียวกัน 4 รมต.ไม่จำเป็นต้องลาออก
สวมหมวก 2 ใบ ไม่ใช่เรื่องผิดกติกา หากจัดสรรเวลาอย่างเหมาะสม
กระแสเรียกร้องธรรมาภิบาลของคู่แข่งจุดไม่ติด กำลังภายในทีมน้องใหม่ยังไม่แผ่ว
ซ้ำยังเดินหน้าสเต็ปต่อไป ตามฉากที่ นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปยื่นขอจัดตั้งพรรคต่อ กกต.อย่างเป็นทางการ
รับกับจังหวะของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตร ส่งสัญญาณคอนเฟิร์มยกขบวนมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐแน่นอน เตรียมเปิดตัวกันในสัปดาห์หน้า
ดับกระแสข่าวลือกลุ่มสามมิตรเตรียมชิ่งไปอยู่พรรคอื่น ไม่ลงเรือลำเดียวกับพรรคพลังประชารัฐเคลียร์กันให้ชัด จะไม่มีรายการทิ้งกันกลางทางเกิดขึ้น
เติมความมั่นใจให้ 4 รมต.เดินหน้าต่อ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ประเมินรูปการณ์แล้ว น้องใหม่สามารถแบกรับแรงเสียดทาน ยืนระยะสู้ต่อได้ยาวๆ นอกจากไม่ยุบ ไม่แกว่งแล้ว ยังมีชั้นเชิงเป็นมวยมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างที่เห็นชัดๆจากการที่ 4 รมต.ค่ายพลังประชารัฐไม่ร่วมลงพื้นที่กับ “บิ๊กตู่”ไปตรวจราชการที่ จ.ลำพูน กันข้อครหาใช้กลไกอำนาจรัฐแฝงหาเสียงทางการเมือง เอาเปรียบคู่แข่ง
ระวังตัวทุกฝีก้าว เลี่ยงแม้กระทั่งการให้สัมภาษณ์ประเด็นการเมืองในเวลาราชการ
ยกการ์ดสูง ถนอมเนื้อถนอมตัวไม่ให้เป็นเป้าถูกถล่มได้ง่ายๆ
ปล่อยให้ “ลุงตู่” ตระเวนเก็บคะแนนตามพื้นที่ต่างๆ รุกทั้งภาคเหนือถิ่นพรรคเพื่อไทยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ล่าสุดโผล่มาเซอร์ไพรส์กลางสวนลุมพินี ร่วมวิ่งออกกำลังกาย รำไท้เก๊ก เต้นบาสโลบ ร่วมกับชาวบ้าน
ประกาศตัวชัดพร้อมคลุกโคลนการเมือง ไม่กลัวการขุดคุ้ยประวัติใดๆ
ซุ่มหาเสียง เช็กเรตติ้งกันเนียนๆ ลีลาลูกล่อลูกชนเทียบชั้นนักการเมืองอาชีพเข้าไปทุกขณะ
ปิดทริปด้วยการตรวจสภาพการจราจร ลุยเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้า-รถไฟ-เรือ แก้วิกฤติเรื้อรังให้คน กทม.
เปิดเกมรุกโซนภาคเหนือและเมืองกรุง ขอแชร์ส่วนแบ่งการตลาดจากเจ้าถิ่น “เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์”
ย่อมเป็นอะไรที่ 2 พรรคใหญ่นั่งไม่ติด จ้องรุมกินโต๊ะบั่นทอนเครดิต “ลุงตู่” และพรรคน้องใหม่ต่อเนื่อง แฝงอาการหวั่นไหว กลัวพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งอยู่ลึกๆ
แต่ศึกนอกที่เห็นยังไม่น่าห่วงเท่าแรงกระเพื่อมภายใน ตามร่องรอยจากการปล่อยข่าวกดดันปรับ ครม.อยู่เป็นระลอก
อย่างที่เห็น นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่กระบอกเสียงพรรคพลังประชารัฐต้องรีบเปิดห้องทำงานโชว์ ยังไม่มีการเก็บข้าวของหนีไปไหน กางตารางงานยังแน่นเอี้ยด
กลบข่าวถอดใจเก็บข้าวเก็บของออกจากห้องทำงานตึกบัญชาการ 1 เตรียมลาออกจากตำแหน่งเร็วๆนี้
ของแบบนี้อ่านเกมกันออก เป็นเกมปล่อยของจากคนในด้วยกันเอง
หวังกระตุกกระแสปรับ ครม. เพื่อนำโควตาที่ว่างลงมาเฉลี่ยสัดส่วนให้พวกพ้องตัวเองที่ไม่ได้เกาะขบวนไปต่อกับ พล.อ.ประยุทธ์ในเที่ยวหน้า
อย่างที่รู้กันอยู่ ที่นั่งในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เผื่อที่ว่างให้ “ท็อปบูต” ก็ย่อมมีการทิ้งทวนของระดับ “บิ๊กเนม” รุมแย่งขุมทรัพย์เก้าอี้รัฐมนตรีเป็นการส่งท้าย
รู้ทั้งรู้ทีมงาน 4 รมต.ประกาศจุดยืนกันล่วงหน้า จะเหลือหมวกใบเดียว เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมที่คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปี แต่ก็ยังมีเกมป่วนคอยหวังแซะเก้าอี้
คนเหนื่อยหนักก็คือ “ลุงตู่-ลุงป้อม” ที่ต้องคอยแก้ข่าวให้วุ่นวาย
ทำไปทำมาคนในนี่แหละ ทำ “บิ๊กตู่” เวียนหัวกว่าคนนอกเยอะ.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: