PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เพื่อไทยวางยุทธศาสตร์ผ่าทางตันเลือกตั้ง : จับ "ขั้ว" ประชาธิปไตย

ทันทีที่ปรับโครงสร้างพรรครองรับระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน โดยมี ส.ส.เขต 350 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน
ภายใต้กติกาใหม่ พรรคการเมืองขนาดใหญ่จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวนน้อยนิดหรือปิดประตูไม่ได้เลย เป็นไปตามทฤษฎีแห่งตัวเลข เมื่อพรรคใหญ่ได้ ส.ส.เขตเกินเพดาน ย่อมไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ยุทธวิธีแตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อยก็ผุดขึ้น
แต่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยบอกกับ ทีมข่าวการเมืองว่า ขอยืนยันไม่มียุทธวิธีดังกล่าว
เราเน้นทำพรรคโดยมุ่งหน้าแก้ไขปัญหาความทับซ้อนของผู้ที่จะลงสมัครจำนวนมากให้ดีที่สุด
คนที่ไม่ได้ลงก็เป็นธรรมดาจะต้องย้ายไปอยู่พรรคอื่น ก็ไม่ว่าอะไรกัน
ตามรัฐธรรมนูญเอื้อให้ตั้งพรรคใหม่ 7 หมื่นเสียง ได้ ส.ส. 1 คน ไม่ต้องมี ส.ส.เขตก็ได้

ถ้าเขามองว่าการเลือกตั้งระบบจัดสรรปันส่วน โอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อแทบไม่เหลือหรืออาจจะไม่ได้เลย
ก็เป็นสิทธิที่จะไปตั้งพรรคใหม่ เราไม่สามารถตอบสนองทุกคน ทุกคนต้องไปมีอนาคตของตัวเอง
ฉะนั้นขอพูดในนามพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าคนล้นก็จะเขย่าให้ลงตัวมากที่สุด ใครไม่มีที่ลง จะขยับขยายไปไหนก็ตามอัธยาศัย เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรในเมื่อรัฐธรรมนูญออกแบบให้พรรคใหญ่ลำบาก
ที่ผ่านมาได้ประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งไป 1 รอบ การคัดสรรผู้สมัครเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเขตเลือกตั้งยังไม่ชัดเจน บุคลากรของพรรคมีมาก และจะต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกพรรคการเมืองไปหารืออีกครั้งถึงหลักเกณฑ์การคัดสรรผู้สมัคร
ทำไมถูกมองว่าบุคลากรจากพรรคเพื่อไทยแตกหน่อไปพรรคไทยรักษาชาติ ตั้งเป้าเอา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และพรรคเพื่อไทยเน้น ส.ส.เขต คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า พูดอย่างนี้คนที่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยจะหมดกำลังใจ
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทยเท่าไหร่ ไม่มีใครบอกได้ว่าจะได้เฉพาะ ส.ส.เขต ไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ฉะนั้นมีทางเดียวที่จะทำให้ได้ทั้ง ส.ส.เขตและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยถล่มทลาย
พวกเราไม่เคยพูดโอ้อวดว่าจะได้ ส.ส.จำนวนเท่าไหร่ จะพยายามทำอย่างดีที่สุดโดยเสนอนโยบาย ต้องแข่งกับตัวเองเพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนตัดสินใจเลือก แน่นอนทุกคนมีเป้าหมายต้องการชนะเลือกตั้ง ชัยชนะไม่ได้มาด้วยความฟลุก แต่ต้องได้มาจากการทำงานอย่างหนัก
ผลลัพธ์ออกมาอย่างไรก็เคารพการตัดสินใจของประชาชน จะไม่ไปประท้วงไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง
ขอย้ำว่าบุคลากรในพรรคมันล้น ถ้าอยู่ที่เดิมลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อาจจะไม่ได้เป็น ส.ส. เมื่อไปอยู่ที่อื่น จะไปดึงกางเกงเขาไว้ได้อย่างไร นักการเมืองอาวุโสก็มีโอกาสไปตั้งพรรค เข้าใจเพื่อนๆที่ไหลออกไป
ยินดีด้วยที่มีทางลง ทุกคนต้องมีอนาคต ตราบใดที่ยังเดินอยู่แนวทางระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ
วันนี้พูดได้เพียงว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ประชาธิปไตยเป็นโอกาสของคนไทยจะมีความสุข เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
ในฐานะเป็นประธานคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง จะเป็นหนึ่งในสามบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือสมัคร ส.ส.เขต คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า กำลังเขย่าส่วนเกินในพรรคให้ลงตัว ก่อนถึงวันที่ 26 พ.ย.นี้ทุกอย่างจะชัดเจน

ทีมข่าวการเมือง ถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดูแลพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ดูแลให้คำปรึกษาพรรคไทยรักษาชาติ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ ขอตอบเฉพาะพรรคเพื่อไทยในฐานะที่รับผิดชอบด้านยุทธศาสตร์การเลือกตั้งว่า ไม่เป็นความจริง
เพราะทั้งสองท่านทราบข้อกฎหมายดี ห้ามผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเข้ามายุ่งเกี่ยว โดยเฉพาะนายทักษิณ วันนี้ท่านเป็นผู้ใหญ่ กำหนดบทบาทของตัวเองไม่มายุ่งเกี่ยว ไม่ทำอะไรให้เกิดความเสียหายแก่องค์กร
แต่ขณะนี้เรากำลังเผชิญมรสุมหลายลูก มรสุมลูกแรกเขตเลือกตั้งลดลง พรรคเพื่อไทยได้รับผลกระทบกระเทือนมากที่สุด บุคลากรมีมากกว่าเขตเลือกตั้ง
มรสุมลูกที่สองเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วน ทำให้ ส.ส.บัญชีรายชื่อและ ส.ส.เขตขัดแย้งกัน เป็นการดีไซน์กติกาให้พรรคเพื่อไทยมีปัญหา ในฐานะดูแลด้านยุทธศาสตร์การเลือกตั้งก็ต้องทำให้ดีที่สุด และเรายังเผชิญมรสุมลูกที่สามพลังดูด มรสุมสามลูกเป็นปัจจัยทำให้เรามีปัญหา
ตามกติกาใหม่ยังกำหนดให้มีพรรควุฒิสภามี 250 เสียงตุนอยู่ในกระเป๋า เพื่อเตรียมโหวตนายกรัฐมนตรี
แบบนี้ประชาชนมองออกว่าทำตามโรดแม็ปให้ทหารคืนสู่อำนาจต่อไป
ปัญหาเหล่านี้จะต้องบริหารจัดการอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด โดยไม่ขอพูดถึงพรรคอื่น ไม่ได้ร่วมมือร่วมใจกับพรรคอื่นในการจัดการเลือกตั้ง
แต่หลังการเลือกตั้งยืนยันจะร่วมกับพรรคที่มั่นคง เห็นความสำคัญของประชาธิปไตย สนับสนุนและปกป้องการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ขณะนี้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยมีพรรคการเมืองไหนบ้าง คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า พรรคนี้ยืนอยู่ในวิถีของการรักษาประชาธิปไตย เพื่อโอกาสของคนไทย และหลังการเลือกตั้งก็จะเห็นพรรคที่ยืนเคียงข้างประชาธิปไตย
ถึงวันนั้นจะรู้ว่าจะต้องเข้าไปทำงานร่วมกับพรรคการเมืองไหนบ้าง
ส่วนเกณฑ์ชี้วัดพรรคไหนยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ขอให้เป็นบทบาทของสื่อมวลชนต้องทำหน้าที่ถามว่า พรรคการเมืองไหนจะสนับสนุนประชาธิปไตยหรือทหาร
วันนี้ยังมีปัจจัยอะไรที่ยังบั่นทอนพรรคเพื่อไทยอีก คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า ขณะนี้ชัดเจนโรดแม็ปเป็นไปตามแผนบันได 5 ขั้น กำลังเข้าสู่ขั้นที่ 4 มีการเลือกตั้ง เพื่อขยับขึ้นบันไดขั้นที่ 5 ให้ตัวเองกลับสู่อำนาจอีกครั้ง
ระหว่างที่บันไดขั้นที่ 3 ประชาชนทั่วประเทศคาดหวังเห็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม แต่แนวโน้มห่วงและกังวลมาก ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะใช้เงินซื้อเสียงและใช้อำนาจรัฐมากที่สุด ไม่บริสุทธิ์ ยุติธรรม
ขอให้ กกต.สร้างความมั่นใจและพิสูจน์ให้เห็นว่า จะจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรม เริ่มตั้งแต่การแบ่งเขตเลือกตั้ง ท่ามกลางกระแสว่า ผู้มีอำนาจสั่งการให้เปลี่ยนเขตเลือกตั้งจากเดิมมี 3 แบบ ก็จะให้มีแบบที่ 4
ใช้อำนาจรัฐตั้งแต่การแบ่งเขตเลือกตั้ง ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงกรรมการรับผิดชอบหน่วยเลือกตั้ง เดิมใช้ครู เปลี่ยนไปใช้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และยังไม่ถึงฤดูการเลือกตั้งก็เริ่มใช้อำนาจรัฐ ใช้งบประมาณแผ่นดินไปหาเสียง
แม้ถูกเอาเปรียบทุกประตู ก็ขอทำหน้าที่เต็มที่ เชื่อว่าสุดท้ายประชาชนจะตัดสินใจเลือกนโยบายต่างๆตอบโจทย์แก้ปัญหาของประชาชน ซึ่งเป็นจุดแข็งมาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย
ซึ่งทำสำเร็จ ไม่ได้ขายฝันเพ้อเจ้อ ทำให้ประชาชนรวยกระจาย จนกระจุก

ทีมข่าวการเมือง ถามว่า ความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทยยังไม่จบ ยังมีกระแสจะมีคนออกไปอยู่พรรคอื่นอีก คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า ไม่เป็นความจริง
ทั้งหมดเกิดจากกติกาใหม่ คนที่เดินออกจากพรรคไปก็อธิบายชัดเจน เมื่อบ้านหลังเดิมเล็ก จำนวนคนยังเท่าเดิมก็ต้องหาบ้านหลังใหม่ จากกันด้วยดี มีความเข้าใจกันและกัน
มาถึงวันนี้ขอเดินหน้าทำนโยบาย เพื่อคืนความสุขที่แท้จริง คืนเศรษฐกิจที่มั่นคง คืนโอกาส คืนรายได้ที่หายไปให้ประชาชน เป็นเวลาที่จะหยุดความทุกข์จากเศรษฐกิจแย่
แต่ปัญหาพรรคเพื่อไทยยังจ่อถูกยุบพรรคอยู่ เตรียมรับมืออย่างไรระหว่างนับถอยหลังใกล้เลือกตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า มั่นใจไม่ได้ทำผิด
ทุกอย่างปฏิบัติด้วยความระมัดระวังตามกรอบกฎหมาย เพราะรู้ดีว่าเป็นพรรคไร้เส้น
ถ้าสู้กันด้วยความยุติธรรมก็พร้อมพิสูจน์ เชื่อมั่นความยุติธรรมยังมีอยู่
แต่ถ้าใช้อำนาจด้วยความอยุติธรรม ทำถึงขั้นนั้นอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
พรรคเพื่อไทยขอเดินหน้าเต็มที่ ถูกยุบก็ไม่กลัว.
ทีมการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: