PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562

ไม่ขาดทุน

ครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ประสบความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน

แพ้ทั้งจำนวน ส.ส. แพ้ทั้งฐานคะแนน แพ้แบบเสียรูปมวย

เก้าอี้ ส.ส.ภาคใต้ 50 เขต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เคยผูกขาดตลอดกาล

โดนพรรคอื่นรุมเจาะไข่แดงไปถึง 28 เขต

สนามปักษ์ใต้ไม่ใช่ “ของตาย” ของพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป

ที่ปวดตับหนักมากคือ สนามกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นฐานกำลังหลักของพรรคประชาธิปัตย์มาช้านาน

พรรคประชาธิปัตย์ สอบตกหมดเกลี้ยง ไม่เหลือทำยาแม้แต่คนเดียว

เก้าอี้ ส.ส. กทม. 30 เขต โดนพรรคพลังประชารัฐสะง่อมไป 12 เขต โดนพรรคเพื่อไทยซิวไปอีก 9 เขต และโดนพรรคอนาคตใหม่สอยไปอีก 9 เขต

แพ้พลิกล็อกยิ่งกว่ารถไฟเหาะตีลังกา

“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าความพ่ายแพ้ครั้งนี้ เป็นโอกาสดีที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้สำรวจจุดอ่อนจุดด้อยของตัวเองอย่างจริงจัง

ยังไม่สายเกินเพลที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเก่าแก่ที่สุดในสนามการเมืองไทยจะฟื้นกลับมาแข็งแกร่งอย่างเดิม

แต่ปัญหาสำคัญเร่งด่วนที่สุดที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องชั่งใจให้ดีๆ มี 2 ประเด็น

1, การเฟ้นหาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ แทนอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะนำทัพประชาธิปัตย์จากความตกต่ำกลับสู่ความยิ่งใหญ่โดยเร็ว

2, การตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลขั้วไหน ที่จะสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาให้พี่น้องประชาชนกลับมาหนุนหลังพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

นี่คือ 2 ย่างก้าวสำคัญ ที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบรัดกุม

เพราะหากเดินผิดทิศ ก้าวผิดทาง พรรคประชาธิปัตย์จะเสียรังวัดหนักขึ้นเป็นทวีคูณ

“แม่ลูกจันทร์” ขอเริ่มประเด็นแรก จะเฟ้นหาใครมาเป็นแม่ทัพใหญ่คนใหม่ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีความเป็นผู้นำเข้มแข็งเท่ากับ หรือดีกว่าแม่ทัพคนเก่าที่แพ้สงคราม

นายกรณ์ จาติกวณิช ตัวเก็งเบอร์หนึ่ง แม้มีคุณสมบัติเหมาะสมกว่าใครในพรรคก็จริง

แต่ยังไม่ใช่คนที่มั่นใจว่าจะกอบกู้พรรคประชาธิปัตย์ช่วงขาลงให้กลับมาเป็นขาขึ้นรวดเร็วทันใจ

พูดกันตามตรง นายกรณ์ ยังไม่โดดเด่นแหลมคมเท่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญในสนามการเมือง

“แม่ลูกจันทร์” ข้ามไปถึงประเด็นการตัดสินใจเลือกจับขั้วเป็นรัฐบาลกับขั้วพรรคพลังประชารัฐ? หรือขั้วพรรคเพื่อไทย?

นี่คือก้าวย่างสำคัญที่จะมีผลถึงอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ในระยะยาว

ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะตัดสินใจจับขั้วไหนเป็นรัฐบาลก็มีแต่ “ขาดทุน”

“แม่ลูกจันทร์” จึงขอเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ได้กำไร แต่ไม่ขาดทุน

คือยืนโด่เป็นขั้วอิสระ ไม่เลี้ยวซ้ายไม่เลี้ยวขวา ไม่ร่วมรัฐบาลกับขั้วใด

เพราะพรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศตัวเป็นขั้วที่ 3 ก็ต้องยืนหยัดเป็นขั้วที่ 3 อย่างมั่นคง

ใครจะดึงไปทางไหน ก็ไม่รับนิมนต์

ใครจะเสนอตำแหน่งอะไรให้ ก็ไม่รับประเคน

ไม่เป็นฝ่ายรัฐบาล ไม่เป็นฝ่ายค้าน ขอเป็นขั้วที่ 3 ในสภาฯ

แบบนี้เข้าท่ามั้ยโยม.

“แม่ลูกจันทร์”


ไม่มีความคิดเห็น: