PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2562

แค่มเกมชิงรัฐบาลลม

ลิเกแข่งเปิดวิกแย่งคนดู

ตามฉากออกแขก โหมโรงก่อนโดยคณะดูไบ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคประชาชาติ พรรคพลังปวงชนไทย จับมือโหนประชาธิปไตย จัดรัฐบาลผสมเสียงเกิน 250 ที่นั่ง

ตั้ง “รัฐบาลลม” จากตัวเลขคร่าวๆตามสื่อมวลชน

ก่อนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการวันที่ 9 พฤษภาคม

อารมณ์แบบที่มวยเก๋าเกมการเมืองระดับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ อ่านไต๋แค่เกมจิตวิทยา เพราะกว่า กกต.จะประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ กระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรีจะทำได้ก็ปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน

ในมุมแบบที่เบอร์หนึ่งฝ่ายความมั่นคง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม แตะเบรกเกมโหมโรงแย่งตั้งรัฐบาลของทีมดูไบ ต้องรอ กกต.ประกาศผลเป็นทางการ

โดยความเหมาะสม ควรรอหลังพระราชพิธีสำคัญ

ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยปรากฏการณ์มันสะท้อนหน้าไพ่ “ทักษิณ” เกหมดหน้าตัก งานนี้ยอมไม่เอาเก้าอี้นายกฯ ไม่สนโควตารัฐมนตรี โยนผลประโยชน์ให้พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแลกกับยุทธการหัก คสช. ล้มขั้วอำนาจ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้ได้

ประตูสุดท้ายที่จะนิรโทษกรรม เปิดเส้นทางกลับประเทศไทย

แต่ฉากลิเกดูไบก็ขาดตัวเอกตามท้องเรื่องนัดไว้ไม่มา คิวของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ส่งแค่คำสัญญาลอยๆมาร่วมแถลงจับมือมัดข้าวต้ม แต่ตัวล่องหน ไม่แน่ใจเพราะปัญหาทางเทคนิค หรือเพิ่งหวนรำลึกอดีตที่เคยโดน “นายใหญ่” สั่งดองเค็มจนหมดอนาคตในพรรคเพื่อไทย

งานนี้ “มิ่งขวัญ” โชว์ความเก๋า ไม่รีบทิ้งไพ่ หักมุมกับโคตรเซียนการตลาดขวัญใจ

“เจนอัลฟา” อย่าง “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่แสดงความเป็นมือใหม่หัดขับทางการเมือง เป็นแค่หมากในกระดานเดินตามเกมแห่กระแสของทีมดูไบ

หงายไพ่ โชว์แต้มล่อนจ้อนตั้งแต่เริ่มกระดาน

แค่หวังสร้างกระแสกดดัน 250 ส.ว. ในขั้นตอนโหวตหนุน “นายกฯลุงตู่”

ทั้งๆที่รู้กันอยู่ ว่ากันตามกติการัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 272 ตามเงื่อนไขสถานการณ์ทางกฎหมายมันต้องวนมาเข้าทางฝั่งหนุน “นายกฯลุงตู่” ตีตั๋วต่อ

ตัวเลข 250 ส.ว.บวกกับแต้มของพลังประชารัฐและพรรคแนวร่วม เกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภาคือ 376 เสียง

ไม่นับปรากฏการณ์ใบแดง ใบเหลือง ใบดำ ที่ กกต.จะแจกพวกตุกติกเลือกตั้ง ตามข้อมูลลึกไม่ต่ำกว่า 20 ใบ ทำให้แต้ม ส.ส.ของแต่ละพรรคสมการตัวเลขรัฐบาลเปลี่ยนอีกเยอะ

นั่นจึงไม่แปลกที่จับทางฝั่งหนุน “ลุงตู่” เน้นสงบสยบความเคลื่อนไหว

เพราะคนกำหนดเกมไม่ใช่ดูไบ แต่เป็นฝั่งคุมเกมอำนาจในเมืองไทย

เอาเป็นว่า เช็กข่าววงในปมซีเรียสของฝั่งหนุน “นายกฯลุงตู่”

ติดอยู่แค่คนชื่อ “ชวน หลีกภัย” ผู้คุมกฎของค่ายประชาธิปัตย์ ที่กำลังอารมณ์ค้างผิดหวังกับผลการเลือกตั้ง

ยังไม่เซย์เยส เซย์โน ในการร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์

ถ้าถึงจุดนายชวนเล่นบทเฮี้ยว ไม่ออกซ้าย ออกขวา นั่นเท่ากับลากบ้านเมืองไปติดล็อก

เสียงในสภาผู้แทนราษฎรที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์จะก้ำกึ่งมาก เพิ่มโจทย์ยากให้ทีมหนุน “นายกฯลุงตู่” ต้องออกแรงไล่จับไล่ต้อน “งูเห่า” มาเติมสมการ

ตามรูปการณ์ ประชาธิปัตย์นั้นมีแน่ๆจากจำนวน ส.ส.ที่สอบได้ ส่วนใหญ่เป็นสายที่อิงอยู่กับ “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย

ไม่ต่ำกว่า 30 คน ที่พร้อมโหวตให้ “นายกฯลุงตู่”

และจากปรากฏการณ์ในอดีตที่มีการฉีก “เนวิน ชิดชอบ” ออกจาก “ทักษิณ” ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ กับ “มิสชันอิมพอสซิเบิล” การไล่จับงูเห่าในฝั่งของทีมดูไบในพรรคเพื่อไทย ไม่เว้นทีมอนาคตใหม่

ที่เต็มไปด้วย ส.ส.โนเนม มาเพราะกระแส เป็นแค่รอบเดียวจบ

หรือถึงที่สุดกับไพ่ใบสุดท้ายที่ทีม “ลุงตู่” ถืออยู่ในมือ ยอมเป็นนายกฯรัฐบาลเสียงข้างน้อย

ถึงจังหวะไปต่อไม่ได้ ยุบสภา ล้มกระดานเลือกตั้งกันใหม่

ในเครื่องหมายคำถาม วัดใจพวกที่ลุยกันยังไม่หายเหนื่อยใครอยากเลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่แค่ฝั่งตรงข้าม แต่มันยังเป็นหมากกระตุกพรรคร่วมรัฐบาลที่จ้องกดดันต่อรองในสถานการณ์เสียงปริ่มน้ำ

ตามเงื่อนไข “นายกฯลุงตู่” ต้องยึดพระบรมราโชวาท ร.9 ส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง

ล็อกสเปกรัฐมนตรีต้องมีมืออาชีพผสมกับนักการเมืองน้ำดีให้รัฐบาลดูหล่อสมกับรัฐบาลเปลี่ยนผ่าน

ตามรอยยุครัฐบาล “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: