PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เปิดบัญชี "ด๊อกเตอร์กิตติมศักดิ์ มจร." ปี 52ชีทศพรติดอันดับท็อปทเวนตี้

เปิดบัญชี "ด๊อกเตอร์กิตติมศักดิ์ มจร." ปี 52

ชีทศพรติดอันดับท็อปทเวนตี้
ขณะที่คนเด่นคนดังทั่วฟ้าเมืองไทยล้วนต้องตามก้นชีทศพร
เห็นหรือยังว่าอานุภาพเงินทรงพลังเพียงใด




ภาพแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม วัดพิชัยญาติ เข้ารับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ด๊อกเตอร์) จากมหาวิทยาลัยสงฆ์ มจร. วันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2552 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ประสาทปริญญาบัตร ซึ่งอันดับของแม่ชีทศพรนั้นคือ หมายเลข 17





พิธีเดียวกัน

นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในสมัยนั้น เข้ารับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เป็นอันดับที่ 23 ตามหลังแม่ชีทศพรไปถึง 6 อันดับ ทั้งๆ ที่นางจุฬารัตน์เป็นถึง ผอ.สำนักพุทธ ควบคุมดูแลกิจการงานพระพุทธศาสนาทั่วประเทศไทย แต่เพราะมีแต่ตำแหน่ง ไม่มีเงินให้ ได้ขนาดนี้ก็บุญโขแล้ว
















MONEY TALK


"เมื่อเงินพูด ทุกอย่างเงียบ" ดูอย่างกรณีแม่ชีทศพรในวันเข้ารับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยสงฆ์ มจร. เมื่อ พ.ศ.2552 ที่ผ่านมา สามารถฝ่าด่านอรหันต์ข้ามหัวบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีอำนาจทั่วประเทศไทยเข้าไปรับในอันดับที่ 17 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้ว

ลองสำรวจดูรายชื่อตามบัญชีที่มหาวิทยาลัยสงฆ์จัดทำไว้นี้ดูเถิด ยกเว้นแต่พระสงฆ์ทรงศักดิ์ขั้นเอกอุและแขกสำคัญจากต่างประเทศเสีย ก็มีชื่อแม่ชีทศพรรั้งอันดับ 1 หรือหัวขบวนของบรรดาดุษฎีบัณฑิตในปีนั้น เช่น

ศาสตราจารย์ ดร. วิจิตร ศรีสอ้าน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตปลัดทบวงมหาวิทยาลัย อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นายกสภามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ต้องเข้าแถวตามก้นแม่ชีทศพร อดีตแม่ค้า ซึ่งไม่เคยมีประวัติด้านการศึกษามาก่อน (จบแค่ ป .7) อาศัยแต่เพียงวิชาแก้กรรมหลอกลวงชาวบ้านได้เงินมาซื้อปริญญาเท่านั้น

ผู้ช่วยศาสตราจารย์รุ่งเรือง บุญโญรส ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ มจร. วิทยาเขตเชียงใหม่ ก็ได้อันดับ 22 ไปครอง แบบว่าผู้ก่อตั้ง มจร. น่ะ กระจอกกว่าแม่ชีวัดพิชัยญาติ

นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้หญิงเก่งคนเดียวที่ได้ครองตำแหน่งอันอาถรรพ์นี้ แต่ก็สู้อิทธิพลของแม่ชีทศพลไม่ได้ ต้องทิ้งห่างไปถึง 7 อันดับ

ปีนั้น นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา และนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติคนปัจจุบัน  ได้แค่เข็มเกียรติคุณไปครอง สมค่ากับชีวิตที่อุทิศเพื่อพุทธศาสน์โดยแท้

จึงอยากจะเรียนถามไปยัง ท่านศาสตราจารย์ ดร.พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.9) อธิการบดีมหาวทิยาลัยสงฆ์ มจร. ว่ากล้ากล่าวหรือไม่ล่ะ ว่ามหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้ได้พิจารณาอันดับของแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม อย่างเหมาะสมแก่ภูมิปัญญาและกรณียกิจ โดยไม่มีอามิสสินจ้างเข้ามาเกี่ยวข้อง พูดอีกนัยหนึ่งก็คือว่า กล้าปฏิเสธหรือไม่ว่า มจร. มิได้ขายปริญญาดุษฎีบัณฑิตให้แก่แม่ชีทศพร เพราะถ้า มจร. ไม่ขายปริญญาให้แก่แม่ชีทศพร ก็ต้องอธิบายให้สังคมไทยเข้าใจให้ถ่องแท้ ว่าสภามหาวิทยาลัยสงฆ์มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติปริญญาบัตรอย่างไร แม่ชีทศพรได้อันดับต้นๆ ของบุคคลสำคัญระดับประเทศด้วยสาเหตุอันใด ลำพังการดูกรรมแก้กรรมทำให้สภามหาวิทยาลัยสงฆ์ มจร. ยกย่องเชิดชูถึงระดับดูษฎีปัณฑิตกิตติมศักดิ์ หรือด๊อกเตอร์ ทีเดียวเชียวหรือ เพราะความจริงแล้ว ให้แค่ปริญญาตรีก็ดีถมเถ แถมการได้พาสชั้นขึ้นไปรับในอันดับต้นๆ จึงเป็นที่ฉงนใจเป็นอย่างมาก 

อย่างกรณี ผู้ช่วยศาสตราจารย์รุ่งเรือง บุญโญรส ซึ่งเป็นถึงผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ มจร. วิทยาเขตเชียงใหม่ มีผลงานมากมาย ซึ่งน่าจะได้อันดับต้นๆ นั้น ถามว่าสภามหาวิทยาลัยให้ค่าเป็นอันดับรั้งท้ายแม่ชีทศพรได้อย่างไร ? กรณีนี้จะมองเห็นเป็นอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากจะเป็นการดูถูกบุคคลากรของมหาวิทยาลัยเอง เพราะขนาดผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ยังได้อันดับนี้ ต่อไปคงไม่มีบุคคลากรของมหาวิทยาลัยคนใดเข้ารับปริญญาของ มจร. เพราะไม่สมเกียรติ

วันนี้ มีข่าวกระทรวงศึกษาธิการสั่งสอบมหาวิทยาลัยหลายแห่งในข้อหา "ขายปริญญาบัตร" ก็อยากให้หันมาสอบมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งดูบ้าง ว่าโปร่งใสหรือไม่อย่างไร โดยยกแม่ชีทศพร เทวาพิทักษ์ธรรม เป็นกรณีแรก



ะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน
28 เมษายน 2554


ไม่มีความคิดเห็น: