PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ดื่มแล้วติดแพทย์ : สคบ.สั่งแบนโฆษณา"เปปทีน"ทำเข้าใจผิด

สคบ.สั่งแบนโฆษณา"เปปทีน"ทำเข้าใจผิด

  • 30 กรกฎาคม 2556 เวลา 14:48 น.โพสต์ทูเดย์
สคบ.สั่งแบนโฆษณา"เปปทีน"ทำเข้าใจผิด

เลขาฯ สคบ. ส่งหนังสือขอความร่วมมืองดโฆษณา “เปปทีน” หลังพบประเด็นที่อาจทำให้เข้าใจผิด 4 เรื่อง เตรียมเชิญ บ.โอสถสภาฯ เข้าชี้แจง
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า จากกรณีที่ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี (สพท.) เคลื่อนไหวเรียกร้องให้ บริษัท โอสถสภา จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม “เปปทีน” ให้ละเว้นการนำนิสิตนักศึกษาแพทย์ มารับหน้าที่พรีเซ็นเตอร์โฆษณาเครื่องดื่ม “เปปทีน” เพราะก่อให้เกิดภายลักษณ์ที่ไม่เหมาะสม และอาจเป็นการละเมิดหลักจรรยาบรรณนิสิตนักศึกษาแพทย์บางประการ
ขณะที่มีการตรวจสอบพบว่า บริษัท โอสถสภาฯ เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปรียบเทียบปรับ เป็นจำนวน 5 ครั้งด้วยกัน เนื่องจากไม่ปฎิบัติตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ในความผิดฐานโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารเพื่อประโยชน์ในทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน อย.
ล่าสุด ในวันที่ 29 ก.ค. 2556 นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ทำหนังสือถึงกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัทโอสถสภาฯ เพื่อขอความร่วมมืองดแพร่ภาพการโฆษณาเครื่องดื่ม “เปปทีน” โดยอ้างเหตุผลว่า สำนักงาน สคบ. ได้รับหนังสือจากแพทยสภาขอหารือเกี่ยวกับการโฆษณาเครื่องดื่ม “เปปทีน” ที่มีการโฆษณาเกี่ยวกับโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบและอื่นๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภคได้
สำนักงาน สคบ. จึงได้หารือเรื่องดังกล่าวร่วมกับ แพทยสภาและสำนักงาน อย. ในวันที่ 29 ก.ค.2556 และพบประเด็นการโฆษณาที่อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ดังนี้
1.การโฆษณาเกี่ยวกับสรรพคุณของเครื่องดื่มที่มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสมอง เช่น ทำให้สมองปลอดโปร่ง ช่วยจัดระบบความจำ เติมความรู้ที่ขาด รวมทั้งการสื่อให้เข้าใจว่าเมื่อดื่มแล้วจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์
2.การโฆษณาที่สื่อให้เข้าใจว่าเมื่อเข้าร่วมโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบจะสอบติดทั่วประเทศ
3.ความเหมาะสมของการนำนักศึกษาที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างๆ มาโฆษณา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง
4.การสื่อให้เข้าใจว่าหากเข้าร่วมโครงการเตรียมสมองพร้อมสอบจะทำให้ได้เป็นแพทย์เกี่ยวกับสมองหรือแพทย์เกี่ยวกับตา ซึ่งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดังกล่าวเป็นเพียงสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรีเท่านั้น การที่จะเป็นแพทย์ซึ่งเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสมองหรือตา หรืออื่นๆ จะต้องเรียนต่อโดยสอบเข้าเฉพาะด้านที่สูงกว่าปริญญาตรี และการเข้ามหาวิทยาลัยตามปกติ
“สำนักงาน สคบ.จึงขอความร่วมมือท่านงดแพร่ภาพการโฆษณาในประเด็นดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อผู้บริโภคได้ จนกว่าจะมีการพิจารณาการใช้ข้อความดังกล่าว ทั้งนี้ สำนักงาน สคบ.จะเชิญบริษัท โอสถสภาฯ ชี้แจงต่อคณะอนุกรรมการติดตามสอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณาต่อไป” หนังสือดังกล่าวระบุ

ไม่มีความคิดเห็น: