PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

"ศิษย์เอกเณรคำ" เตรียมซวย! กกต.จ่อสอบใช้ปริญญาเท็จสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. ด้าน"สงกรานต์"เร่งป.ออกหมายจับ "เณรคำ".

กกต.จ่อสอบประธานเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม ใช้ปริญญาบัตรดุษฎีบัณฑิต ม.สันติภาพโลก สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หากพบตั้งมหาวิทยาลัยมิชอบด้วยกฏหมาย ด้าน"สงกรานต์"ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์นำหลักฐานเพิ่มเติมให้กองปราบเร่งออกหมายจับ "เณรคำ" เชื่อหลักฐานเพียงพอแล้วไม่รต้องรอออกหมายเรียก นอกจากนี้ยังแจ้งความเอาผิดผู้เกี่ยววข้องฐานรับยของโจรด้วย ชี้โทษคุก 5 ปี!

วันนี้ (5 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รายงานข่าวจากกกต. แจ้งว่า จากกรณีที่นายสุขุม วงประสิทธิ์ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม และ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ครั้งที่ผ่านมา ได้ใช้ปริญญาบัตร ระดับด๊อกเตอร์ จากมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก มาใช้เป็นเอกสารประกอบการสมัครผู้ว่าฯกทม. นั้น ทางกกต.เตรียมนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณา ว่า หากมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกจัดตั้งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปริญญาบัตรย่อมต้องไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยเช่นกัน และการนำหลักฐานดังกล่าวมายื่นสมัครต่อเจ้าพนักงานตามกฎหมายจะถือว่า เข้าข่ายแจ้งเท็จต่อเจ้าพนักงานที่เป็นความผิดทางอาญาซึ่งกกต.ในฐานะเจ้าพนักงานการเลือกตั้ง หรือสำนักงานปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะผู้เสียหาย ต้องดำเนินการส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีได้ แม้ว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะเสร็จสิ้นไปแล้วและนายสุขุมไม่ได้เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งก็ตาม

เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (5 ก.ค.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป.โดยนำหลักฐานเพิ่มเติมมามอบให้พนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดีกับ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก หรือพระวิรพล สุขผล อายุ 34 ปี ประธานสำนักสงฆ์ป่าขันติธรรม ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ภายหลังได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้วก่อนหน้านี้

นายสงกรานต์ กล่าวว่าได้มายื่นเอกสารเพิ่มเติมเพื่อให้ทางพนักงานสอบสวนใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการขออนุมัติศาลออกหมายจับหลวงปู่เณรคำ หรือพระวิรพล ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเนื่องจากน่าจะมีพยานหลักฐานต่างๆ เพียงพอแล้ว โดยไม่ต้องออกหมายเรียก นอกจากนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ได้รับทรัพย์สินจากหลวงปู่เณรคำในข้อหารับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายสงกรานต์ กล่าวต่อว่า หลังจากมีกรณีของหญิงสาวและเด็ก 3-4 คน ที่เข้ามาเกี่ยวพันกับหลวงปู่เณรคำ นั้น ตนได้ประสานไปยัง นางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อช่วยเหลือและให้ความคุ้มครองหญิงสาวที่ออกมาเปิดเผยข้อมูล ว่ามีความสัมพันธ์กับหลวงปู่เณรคำรวมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ให้การดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย

“ส่วนการตรวจสอบเรื่องเงินที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนั้นมีการส่งเรื่องให้กับทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ได้ร่วมพิจารณาแล้วโดยภายในสัปดาห์หน้า ตนพร้อมด้วย พนักงานสอบสวน บก.ป.และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) จะเข้าพบ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ปปส.ซึ่งในรายละเอียดต่างๆ ขอข้อมูลที่จะประสาน ปปส.นั้น ยังไม่สามารถแถลงให้ทราบในขณะนี้"นายสงกรานต์ ระบุ

ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า เนื่องจากกรณีของหลวงปุ่เณรคำ มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องมีการประสานข้อมูลในการทำงานร่วมกันในชั้นนี้ตนได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนจากทั้ง กก.1 กก.3 และ กก.4 บก.ป.ขึ้นมารับผิดชอบเพื่อให้เกิดความครอบคลุมในทุกพื้นที่ และเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับต่อไป

ภาพ ซ้าย นายสุขุม วงประสิทธิ์ ประธานเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม(เสื้อขาว)
ขวา สงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ (เสื้อดำ)
http://astv.mobi/AowWoqW และ http://astv.mobi/Azm4mA1

ไม่มีความคิดเห็น: