PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ที่ประชุม กก.บห.ปชป.อัด "จ้อน" ปมทวิต หลังถกนานกว่า 4 ชม.มีมติเพิ่มอำนาจ "มาร์ค" เด็ดขาดขึ้น

วันที่ 07 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20:45:06 น.

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิจารณาการปฏิรูปโครงสร้างพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรค เป็นประธาน มีกรรมการบริหารเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขาดเพียงนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง และนายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.พิจิตร โดยใช้เวลาในการประชุมนาน 4
ชั่วโมงกว่า

จากนั้นเวลา 18.45 น. นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานคณะทำงานปรับโครงสร้างการปฏิรูปพรรค แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนการปฏิรูปปรับโครงสร้างพรรค โดยมีการปรับแก้บางอย่าง เช่นจากเดิมคณะทำงานเสนอให้เปลี่ยนสภาที่ปรึกษาพรรค มาเป็นคณะกรรมการพรรคเป็นประธานพรรค มีอดีตเลขาธิการพรรค อดีตหัวหน้าพรรค และผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นคณะกรรมการ แต่ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคครั้งนี้ มีมติกลับไปให้มีสภาที่ปรึกษาพรรคเหมือนเดิม เพราะกลัวจะเกิดการซ้ำซ้อน และทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าพรรคมีคณะกรรมการบริหาร 2 ชุด

นอกจากนี้ ยังมีการปรับจำนวนคณะกรรมการบริหารพรรค จากเดิมที่มี 19 คน แต่คณะทำงานเสนอให้มี 15 คน
              
เมื่อถามว่าสิ่งที่เสนอไปมีการพิจารณาเทียบกับพิมพ์เขียวของนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ภาคกลางหรือไม่ นายอัศวิน กล่าวว่า ตอนที่นายอลงกรณ์ เสนอมานั้น ได้เสนอมายังคณะทำงานจัดทำโครงสร้างอยู่แล้ว ซึ่งเราพิจารณาไปตั้งแต่ต้น และวันนี้นายอลงกรณ์ ก็เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนเกือบทั้งหมด ส่วนรองหัวหน้าพรรค ที่เป็นโควต้าให้หัวหน้าพรรคแต่งตั้งนั้น ได้เพิ่มจากเดิม 3 คน เป็น 5 คน ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรค ยังคงให้หัวหน้าพรรคเป็นนคนเสนอ ข้อสรุปครั้งนี้ถือว่าที่ประชุมอนุมัติให้แก้ข้อบังคับพรรค โดยจะนำข้อสรุปเหล่านี้แจ้งให้ที่ประชุมส.ส.รับทราบในสัปดาห์หน้า และคณะกรรมการบริหารพรรคจะเรียกประชุมใหญ่วิสามัญอีกครั้งเพื่ออนุมัติข้อบังคับพรรคใหม่

ส่วนปัญหาที่นายอลงกรณ์ มักทวิตเตอร์ในเรื่องนี้นั้น นายอัศวิน กล่าวว่า มีการคุยกัน โดยกรรมการบริหารพรรคบางคนตำหนิว่านายอลงกรณ์ ไม่ควรไปโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ทุกคนต่างพูดว่ามีอะไรก็ให้พูดกันภายในพรรค แต่ไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไรกัน เพราะนายอลงกรณ์ ชี้แจงให้ทุกฝ่ายเข้าใจว่าไม่มีเจตนาตำหนิใคร ซึ่งไม่มีใครติดใจสามารถปรับความเข้าใจกันได้ โดยเชื่อว่าต่อไป

นายอลงกรณ์ คงไม่ทวิตข้อความในเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะวันนี้นายอลงกรณ์ ก็มีความสุข และรับที่จะนำไปปฏิบัติ ในการประชุมครั้งนี้ยืนยันไม่มีใครลาออกจากพรรค เพราะเข้าใจไปในทางเดียวกันหมดแล้ว และรับรองได้ว่าการเสนอปฏิรูปพรรคไม่ใช่เกมเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ตอนนี้ทุกคนแฮปปี้ พอใจที่จะให้นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรค
               
เมื่อถามว่าข้อสรุปที่ออกมาดูเหมือนไม่แตกต่างไปจากเดิมจะทำให้ชนะการเลือกตั้งได้อย่างไร นายอัศวิน กล่าวว่า ที่แตกต่างคือเรามีประธานเขตพื้นที่ในการเข้าไปรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ ส่วนนโยบายจะอยู่ในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ คณะกรรมการกฎหมายและสำนักงานด้านต่างๆที่จะทำงานเป็นสต๊าฟของพรรค ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ชัดเจน ต่อไปนี้ก็จะชัดเจนมากยิ่งขึ้น
               
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ปรับเปลี่ยนข้อเสนอบางประการที่คณะทำงานเสนอมา แต่ก็เป็นไปตามข้อเสนอในการออกแบบให้หัวหน้าพรรคและผู้นำพรรคมีบทบาทในการติดตามและนำพรรคอย่างเด็ดขาดมากขึ้น มั่นใจว่าจะทำให้พื้นที่ที่พรรคไม่มีส.ส.หรือในพื้นที่ที่ไม่เข้มแข็งสามารถทำงานในแบบรวมศูนย์มากขึ้น ตอบโจทย์การชนะการเลือกตั้ง สามารถเพิ่มจำนวนส.ส.ในภาคอีสานและภาคกลางได้มากขึ้น เพราะเปิดกว้างให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมมากขึ้น จึงถือว่าผลการประชุมครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ และจะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาการปฏิรูปการบริหารจัดการองค์กรและบุคลากร ทั้งนี้ในช่วงแรกของการประชุมได้มีการปรับความเข่าใจสนทนาธรรม ในประเด็นที่ตนโพสต์ข้อความทวิตเตอร์ ซึ่งตนก็ยืนยันไปว่าการทวิตเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของการเปิดพรรคให้กว้างขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น: