ปตท.ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มทวงคืนพลังงานเป็นเงิน 37 ล้านบาท

ปตท.ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกลุ่มทวงคืนพลังงานเป็นเงิน 37 ล้านบาท เป็นค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นและค่าขาดรายได้ นี่ยังไม่นับรวมค่าเสียโอกาสอีกมหาศาลที่ประเทศและ ปตท.ต้องสูญเสียไปในช่วงที่มีม็อบมาป่วนเมืองนะ

กลับมาถึงบ้านก็มีหมายศาลคดีแพ่งฟ้องเรียกค่าเสียหาย 37 ล้านบาทมารอแล้ว

ได้รับเกียรติจากบริษัท ปตท จำกัด(มหาชน) ผู้แสดงตนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัท มหาชนจำกัด (มิใช่รัฐวิสาหกิจอย่างที่เอามากล่าวอ้างบ่อยๆเวลาจะเอาประโยชน์จากประชาชน) เป็นโจทย์ยื่นฟ้องผม พร้อมคุณทศพล แก้วทิมา คุณหมอระวี มาศฉมาดล และ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ข้อหาละเมิด ขับไล่ เรียกค่าเสียหาย 37,060,000 ล้านบาท

โดย ปตท.กล่าวหาว่า เราทั้งสี่เป็นแกนนำหรือผู้นำการชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย(กคป.) ได้บุกรุกเข้ามาในบริเวณด้านหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ ปตท. เพื่อใช้เป็นสถานที่ชุมนุมตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2557

ปตท.กล่าวหาว่า เราทำให้ ปตท. ไม่สามารถเข้าใช้อาคารและพื้นที่ทั้งหมดในสำนักงานใหญ่เพื่อดำเนิงานตามปกติได้ เป็นเหตุให้ปตท. ต้องปิดอาคารสำนักงานใหญ่ เนื่องจากเกรงว่าเราจะบุกรุกเข้าไปในตัวอาคารที่ทำการของ ปตท. อันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน เครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ รวมทั้งข้อมูลทางการค้า (คิดไปเองทั้งนั้น ความจริงไม่มีใครเข้าไปทำอะไรให้เสียหายเลย)

ปตท. ยังกล่าวหาอีกว่า จนถึงขณะฟ้องคดีนี้ ปตท.ยังไม่สามารถเปิดใช้อาคารได้ และไม่ทราบว่าการชุมนุมจะสิ้นสุดลงเมื่อใด (ปตท.ยื่นฟ้องเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 57 กคป. ถูกตำรวจเข้าสลายเมื่อรุ่งเช้า 18 ก.พ.57 เป็นเหตุให้การชุมนุมต้องยุติลงทันที คนทั้งประเทศเขารู้แต่ ปตท. ดันไม่รู้ง่ะ)

ความเสียหายที่ ปตท. ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคนตัวเล็กๆอย่างเรา

1.ความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวม 5,370,000 บาท แบ่งเป็น
1.1 ค่าซ่อมแซมและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบพื้นที่สำนักงาน ปตท. 500,000 บาท
1.2 ค่าใช้จ่ายในการอบโอโซนฆ่าเชื้อทุกอาคาร 1,100,000 บาท
1.3 ค่าล้างบ่อน้ำพุ พร้อมเติมน้ำใหม่ 100,000 บาท
1.4 ค่าล้างตู้ปลาและซื้อปลาใหม่ 20,000 บาท
1.5 ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ พร้อมปรับสภาพน้ำของระบบบำบัด 100,000 บาท
1.6 ค่างานซ่อมแซมประตูรั้ว 50,000 บาท
1.7 ค่าซื้อตู้เย็นใหม่ทดแทนของเก่า 120 ตู้ รวม 1,800,000 บาท(ตู้ละ 15,000 บาท)
1.8 ค่าทำความสะอาดตู้กดน้ำเย็น 120 ตู้ รวมเป็นเงิน 150,000 บาท(ตู้ละ 1,250 บาท)
1.9 ค่าซ่อมแซมตู้ไฟฟ้าตามแนวรั้ว 300,000 บาท
1.10 ค่าซ่อมแซมกล้องวงจรปิด 100,000 บาท
1.11 ค่าตรวจสภาพอากาศ 450,000 บาท
1.12 ค่าต้นไม้ยืนต้นที่ได้รับความเสียหาย 700,000 บาท

(ต้นทุนต่างๆของ ปตท. สูงซะขนาดนี้ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งรึเปล่าที่ทำให้ ปตท. มีกำไรน้อยกว่าปิโตรนาส และรายการความเสียหายเกือบทั้งหมด เมื่อดูแล้วอยู่ในพื้นที่การควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหารนะน่ะ หากเกิดความเสียหายจริง ปตท. ควรฟ้องเอากับกองทัพบกด้วยครับ)

นอกจากนี้ ปตท. ยังฟ้องเรียกเอาความเสียหายจากการขาดรายได้ด้วย

ปตท. อ้างว่าขาดรายได้จากการปิดปั๊มน้ำมัน ปั๊ม LPG เสียโอกาสจากกิจการร้านกาแฟ คาเฟ่อเมซอน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านจิฟฟี่ นับแต่วันที่ 13 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 9 ก.พ.57(28 วัน) เป็นเงินรวม 19,930,000 บาท (เราไม่เคยไม่ไปปิดร้านห่าร้านเหวพวกนี้เลยสักร้าน)

จึงขอคิดค่าขาดรายได้วันละ 710,000 บาท (ตั้งแต่ 13 ม.ค.57 จนถึงวันฟ้องคือ 13 ก.พ. 57) เป็นเงินรวม 22,770,000 บาท

นอกจากนี้ ปตท. ยังอ้างว่ามีความเสียหายจากการที่ต้องจ่ายค่าเช่า ค่าใช้สถานที่อื่นแทน สนง.ใหญ่ ปตท. ค่าใช้จ่ายในการติดต่อเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานที่ ค่าเดินทางของพนักงาน ค่าอุปกรณ์สำนักงาน ค่าโรงแรมหรือที่พักพนักงาน ค่ารปภ.ที่เพิ่มขึ้น เป็นเงิน 7,800,000 บาท

จึงขอเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้เป็นเงินวันละ 280,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.จนถึงวันฟ้อง รวมเป็นเงิน 8,920,000 บาท

รวมค่าเสียหาย 3 รายการ คือ 8,920,000 + 22,770,000+ 5,370,000 = 37,060,000 บาท

ประเสริฐ แท้ ปตท. ที่ทำให้เราไม่น้อยหน้าลุงกำนันเลย