PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ปากีฯยึดคืนสนามบินการาจีสำเร็จ

ปากีฯยึดคืนสนามบินการาจีสำเร็จ

กองทัพปากีสถานยึดคืนสนามบินการาจีสำเร็จ และปลิดชีพคนร้ายได้ทั้งหมด หลังกลุ่มติดอาวุธบุกโจมตีสนามบิน ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมกว่า 20 คน

 
                      9 มิ.ย.57 โฆษกของกองทัพปากีสถาน แถลงว่า ปฏิบัติการทางทหารเพื่อยึดคืนสนามบินที่ถูกกลุ่มค้นร้ายพร้อมอาวุธหนักจำนวน 10 คน บุกเข้าไปก่อวินาศกรรมเมื่อค่ำวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น และมีการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนาน 6 ชั่วโมง ได้สิ้นสุดลงแล้วในเช้าวันนี้ และบอกด้วยว่า ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดแล้ว และไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นกับเครื่องบินแต่อย่างใด ส่วนไฟที่เห็นลุกไหม้ในตอนแรก เป็นไฟที่ไหม้ตัวอาคารไม่ใช่เครื่องบิน และตอนนี้ดับหมดแล้ว ส่วนคนร้ายที่มีทั้งหมด 10 คน ถูกสังหารในระหว่างการปะทะกับเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง และเจ้าหน้าที่พบหลักฐานที่มีทั้งกระสุนปืน จรวด และระเบิดขับเคลื่้อนด้วยจรวด หรือ อาร์พีจี จากตัวคนร้ายที่แต่ละคนสะพายกระเป๋าขนาดใหญ่
 
                      เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลจินนาห์ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 คน รวมทั้งคนร้าย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบิน 8 คน , พนักงาน 2 คน ของสายการบินนานาชาติปากีสถาน และทหารพราน 1 นาย ส่วนผู้บาดเจ็บมีประมาณ 15 คน
 
                      ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า กลุ่มมือปืนติดอาวุธ ปลอมตัวเป็นตำรวจรักษาความปลอดภัยและสวมเสื้อกั๊กติดระเบิด บุกเข้าโจมตีสนามบินนานาชาติจินนาห์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดของปากีสถาน และตั้งอยู่ในนครการาจี ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการพาณิชย์ เมื่อเวลา 23.30 น. ตามเวลาในท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงได้เข้าปิดล้อมสนามบิน พร้อมกับเรียกหน่วยคอมมานโดของกองทัพเข้าไปเสริม ท่ามกลางเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การปฏิบัติงานทุกชนิดที่เทอร์มินอลถูกระงับ ตำรวจเร่งอพยพเจ้าหน้าที่สนามบิน รวมถึงผู้โดยสารออกจากเทอร์มินอล และทุกเที่ยวบินที่มุ่งหน้ามายังสนามบินแห่งนี้ต้องเปลี่ยนเส้นทาง
 
                      นายอาหมัด ชินอย ผู้อำนวยการทั่วไปของคณะกรรมการประสานงานตำรวจของประชาชน ระบุว่า กลุ่มคนร้ายที่บุกเข้าไปในสนามบินผ่าน 3 ช่องทาง คนร้ายคนหนึ่งได้กดระเบิดตัวเองที่ด้านหน้ารถหุ้มเกราะคันหนึ่ง ทำให้คนที่อยู่ภายในรถได้รับบาดเจ็บสาหัส มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเนื่องจากมีไฟไหม้อย่างน้อย 2 แห่ง รถพยาบาลหลายสิบคันเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ โดยมีตำรวจและทหารปิดล้อมสถานที่เอาไว้ พยานที่เห็นเหตุการณ์หลายคน ระบุว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังกว่า 10 ครั้ง รวมทั้งเสียงรัวของปืน ภาพทางโทรทัศน์ได้แสดงให้เห็นควันไฟลอยโขมงขึ้นมาจากสนามบินซึ่งนายชินอย บอกว่า มีเครื่องบินลำเลียงสินค้าลำหนึ่งได้รับความเสียหายและถูกไฟไหม้ในระหว่างการยิงปะทะกัน ส่วนบริเวณคาร์โกของสนามบิน อยู่ห่างจากบริเวณที่เครื่องบินพาณิชย์ใช้ในการเทคออฟขึ้นจากสนามบิน ราว 1 กิโลเมตร
 
                      ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า กลุ่มคนร้ายไม่ได้เข้าทางเทอร์มินอลที่ใช้โดยเที่ยวบินพาณิชย์ทั่วไป แต่ใช้เทอร์มินอลสำหรับเที่ยวบินวีไอพีและคาร์โก แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงขวางเอาไว้ ทำให้เข้าไปยังเป้าหมายไม่ได้ ปฎิบัติการครั้งนี้มีกองทัพเป็นแนวหน้า เสริมด้วยหน่วยทหารพราน ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบิน 
 
                      เจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า คนร้ายอาจต้องการจี้เครื่องบิน แต่ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบ แต่คาดว่าอาจจะเป็นฝีมือกลุ่ม เตห์รีค-อี ตาลีบัน ปากีสถาน ที่รับผิดชอบต่อการก่อเหตุนองเลือดที่คร่าชีวิตประชาชนไปหลายหมื่นคน ในช่วง 7 ปี ของการก่อเหตุรุนแรงนับครั้งไม่ถ้วน
 
                      มีรายงานว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ มีกองกำลังบางส่วนเข้าไปในสนามบินโดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเสริมกำลังให้กับหน่วยคอมมานโด ที่ทำให้คนร้ายต้องแยกออกเป็นสองกลุ่ม ซึ่งคนร้ายล้วนแต่มีปืน เอเค 47 และจรวดอาร์พีจี ขณะที่บางคนสวมเสื้อกั๊กติดระเบิด
 
                      นับเป็นเหตุการณ์โจมตีสนามบินที่่ร้ายแรงที่สุดอีกครั้งในนครการาจี นับตั้งแต่เกิดเหตุกลุ่มมือปืนบุกโจมตีฐานทัพเรือเมห์ราน เมื่อปี 2554 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน ทำลายเครื่องบินไป 2 ลำ สนามบินที่ถูกโจมตีล่าสุด เป็นเสมือนประตูไปสู่ปากีสถานของนักธุรกิจชาวอังกฤษและอีกหลายชาติ เนื่องจากมีเที่ยวบินเข้าทุกวัน
 
 
กต.ยันผู้โดยสารตกค้างปลอดภัยดี เหตุกลุ่มติดอาวุธบุกยึดสนามบิน
 
 
                      นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกประทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เหตุการณ์กลุ่มติดอาวุธจำนวน 10 คน เข้ายึดสนามบินการาจี ประเทศปากีสถาน ส่งผลให้เครื่องบินการบินไทย เที่ยวบินทีจี 508 ติดค้างอยู่ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงของประเทศปากีสถาน สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้เรียบร้อย โดยได้สังหารกลุ่มติดอาวุธทั้ง 10 คน
 
                      อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าผู้โดยสารทั้งหมดในเที่ยวบินดังกล่าวจำนวน 296 คน โดยมีผู้โดยสารชาวไทย 3 คน และลูกเรือไทยอีก 13 คน ปลอดภัยดี โดยหลังเวลา 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ของวันนี้ (9 มิ.ย.) ทางสนามบินจะอนุญาตให้เครื่องบินเดินทางออกจากสนามบินได้
 
                      นายเสข กล่าวอีกว่า สำหรับการดูแลคนไทยในประเทศปากีสถานนั้น สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอิสลามาบัด และสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครการาจี ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่สถานกงสุลใหญ่ไทยฯต้องมีการประสานกับผู้บริหารท้องถิ่นของเมืองดังกล่าวในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยในเมืองนี้ รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์ชุมชนชาวไทยและนักเรียนไทยมุสลิมในนครการาจีให้เขาเฝ้าระวังสถานการณ์ในเมืองดังกล่าวด้วย เพราะแม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในสนามบิน แต่เราไม่แน่ใจว่าจะเกิดสิ่งใดตามมาอีกหรือไม่ ด้านสถานเอกอัครราชทูตไทยฯต้องประสานงานกับรัฐบาลปากีสถานในเรื่องของการดูแลความปลอดภัย รวมถึงประสานงานกับชุมชนชาวไทยทั้งหมดในปากีสถานเช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น: