PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2558

ลีกวนยู วีรบุรุษสิงคโปร์

เช้าวันนี้  เป็นวันที่ไม่สดใสของชาวสิงค์โปร เมื่อต้องทราบข่าวการจากไปจากปากของนายกรัฐมนตรี (ลี เซียน ลุง) ประกาศว่า นาย ลี กวน ยู อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบเมื่อเวลา 03:18 น. (ราว 2:18 น. ตามเวลาไทย) ที่โรงพยาบาล สิงคโปร์ เจเนอรัล ด้วยวัย 91 ปี
หลังหลังจากเข้ารับการรักษาอาการปอดติดเชื้อรุนแรงที่โรงพยาบาลมานานหลายสัปดาห์ และในช่วงหลายวันที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าอาการของเขาทรุดลงเรื่อยๆ
ดั่งวานนี้ เมื่อเหล่าประชาชนทราบข่าวถึงอาการที่ทรุดหนักของเขา ต่างเดินทางนำดอกไม้มาให้กำลังใจถึงหน้าโรงพยาบาล ขณะที่โลกออนไลน์ได้เขียนข้อความสรรเสริญ พร้อมส่งกำลังใจ ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บนี้โดยเร็ว
ลี กวน ยู, Lee Kuan Yew, ลี กวน ยู เสียชีวิต, สิงคโปร์, ประวัติ ลี กวน ยู
แต่…เพียงแค่ข้ามคืน นายลี กวน ยู ได้ต่อสู้จนลมหายใจสุดท้าย จากไป ทิ้งความทรงจำ “ตำนานตลอดกาล…วีรบุรุษสิงค์โปร์” หรือ “บิดา ผู้ก่อตั้งสิงคโปร์สมัยใหม่” ไว้ให้ลูกหลาน
หน้าประวัติศาสตร์ ได้บันทึก ชื่อ “ลี กวน ยู” (Lee Kuan Yew) ว่า เขา คือ ผู้กุมอำนาจบริหารของสิงคโปร์มายาวนายถึง 31 ปี และ เป็นผู้มีบทบาททางเมืองสำคัญคนหนึ่งระดับเอเชีย
และที่สำคัญ…ชาวสิงคโปร์ ไม่เคยลืม เขา คืออดีตผู้นำประเทศ ที่นำพาให้สิงคโปร์ ก้าวลำพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดดที่มีความร่ำรวยมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก
แม้..ที่ผ่านมา จะเคยถูกตราหน้าว่า เป็นนักเผด็จการตัวจริงในระบบอบประชาธิปไตยก็ตาม
ลีกวนยูมีเชื้อสายจีนแคะ ที่บรรพบุรุษอพยพมาจากมณฑลฮกเกี้ยนใน จีน แผ่นดินใหญ่ เกิดในสิงคโปร์เมื่อวันที่ 16 กันยายน ปี 1923 ในยุคที่สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศอาณานิคมของอังกฤษ และได้เข้าศึกษาที่ “Raffles College” ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดใน “บริติส มาลายา” ของสิงคโปร์ ทำให้เขาได้รับการปลูกฝังและมีแนวความคิดตามแบบชาวตะวันกตมาตั้งแต่เด็ก
การเข้าศึกษาในวิทยาลัยแห่งนี้ เขา ยังได้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ “ตนกู อับดุล รามาน” ซึ่งเคยตำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลเซียในยุคก่อนหน้าที่ “ดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด” จะขึ้นกุมอำนาจยาวนานในมาเลเซีย
แต่…ชีวิตของเขา พลิกผันตอนวัย 19 ปี เมื่อญี่ปุ่นเข้ารุกรานสิงคโปร์ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 และสามารถ เอาชนะกองทัพอังกฤษที่ปกครองสิงคโปร์ได้อย่างง่ายดาย ชัยชนะของญี่ปุ่นทำลายความเชื่อของเขา เรื่องการไม่สามารถเอาชนะคนขาวลงได้อย่างสิ้นเชิง ความคิดทางการเมืองของ ลีกวน ยู เริ่มต้นนับจากวันนั้น
“แท้จริงแล้วคนเอเชียก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฝรั่งผิวขาวตาน้ำข้าวจากซีกโลกตะวันตกเลย”
คำพูดผสมความคิด ที่ทำให้เขาเปลี่ยนทัศนคติจากเดิม จากที่เคยคิดว่าคนเอเชียด้อยกว่าจนถูกล่าอาณานิคมเป็นว่าเล่น เหตุการณ์ครั้งนั้น เป็นอีกหนึ่งในจังหวะชีวิต เขาจึงเริ่มหันมาสนใจงานด้านการเมืองและเริ่มมีแนวคิดที่จะต่อสู้เพื่อ“อิสรภาพ”
จนเมื่อสงครามจบลง เขา ได้เดินทางไปศึกษาด้านกฏหมายที่ “มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์” ในประเทศอังกฤษ และได้พบกับ “ควากอกชู” ซึ่งเดินทางมาเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เช่นกัน ก่อนจะแต่งงานกันในเวลาต่อมา
ลี กวน ยู, Lee Kuan Yew, ลี กวน ยู เสียชีวิต, สิงคโปร์, ประวัติ ลี กวน ยู
เมื่อ “ชาวมาลายัน” ส่วนใหญ่เริ่มตีแผ่ถึงความไม่พอใจในการปกครองประเทศอาณานิคมของอังกฤษ 
ความคิดเรื่องการต่อสู้เพื่ออิสระภาพของ ลีกวน ยู เริ่มคุกรุ่นทันที เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมใน Malayans Forum เพื่อมีบทบาทในการตอบโต้กับประเทศอังกฤษ เพื่อการเป็นอิสระจากอาณานิคมครั้งนี้
หลังสำเร็จการศึกษา เขาเดินทางกลับสิงคโปร์ในปี 1955 ลงเล่นการ เมืองเต็มตัว โดยการจัดตั้งพรรค People’s Action Party (PAP) และสามารถชนะการเลือกตั้งผ่านเข้าเป็นสมาชิกในสภาผู้แทนราษฎรได้สำเร็จ หลังจากนั้นอีก เพียง 4 ปี การเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 1 มิถุนายน ปี 1959 พรรคของลี กวน ยู ชนะการเลือกตั้งได้ผู้แทนเด็ดขาดถึง 43 ตำแหน่งจากทั้งสิ้น 51 ตำแหน่ง ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์เมื่ออายุได้เพียง 36 ปี
ขณะที่ มาเลเซีย ได้อิสรภาพจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษในปี 1961 เขาจึงเจรจากับ “ตนกู อับตุล รามาน” (เพื่อนเก่าสมัยเรียน) เพื่อต้องการอิสรภาพนี้เช่นเดียวกัน โดยมีแนวความคิดร่วมกันว่าจะรวมสิงคโปร์เข้ากับมาเลเซียให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
โดยเล็งเห็นว่าสิงคโปร์นั้นไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ที่จะเกื้อหนุนให้เกิดการพัฒนาตนเอง ไปสู่การเป็นประเทศที่พร้อมสมบูรณ์ในทุก ๆ ด้านได้ แนวความคิดนี้สำเร็จในปี 1962
กลายเป็นเสือเอเชีย “โลกที่หนึ่ง” ในกาลต่อมา
แต่…. 2 ปีให้หลัง เขา ได้ถูกต่อต้าน จากชาวมาเลเซียที่ไม่ต้องการให้ชาวสิงคโปร์ ซึ่งมีวัฒนธรรมที่แตกต่างจากมาเลเซีย เข้ามาอยู่ร่วม ขณะที่ชาวสิงคโปร์ ก็ไม่พอใจในการถูกเหยียดชนชั้น จึงกลายเป็นการ “จลาจลครั้งใหญ่”
ในที่สุด เขา ก็ตัดสินใจนำสิงคโปร์แยกออกจากมาเลเซีย และตัดสินใจประกาศอิสรภาพ ไม่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษอีกต่อไปตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 1965 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ นายลี กวน ยู มีบุตรชาย 2 คน คือ ลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนปัจจุบัน และนาย ลี เซียน ยัง ประธานคนปัจจุบันของสำนักงานการบินพลเรือนสิงคโปร์ และมีบุตรี อีก 1 คน คือ ลี เว่ย หลิง ผู้บริหารสถาบันประสาทวิทยาแห่งชาติ ส่วนภรรยา “ควา กอกชู” ได้เสียชีวิตด้วยวัย 63 ปีใน ปี 2010
ขอบคุณภาพ AP
แกล้วนลิน 

ไม่มีความคิดเห็น: