PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

‘บิ๊กจิ๋ว’ฟันธงอนาคตมีฉีก‘รธน.’อีก

‘บิ๊กจิ๋ว’ฟันธงอนาคตมีฉีก‘รธน.’อีก

‘บิ๊กจิ๋ว’ฟันธงอนาคตมีฉีก‘รธน.’อีก

"บิ๊กจิ๋ว" เปิดบ้านให้อวยพรวันเกิดครบ 83 ปี ฟันธง อนาคตมีฉีกรธน.อีก ย้ำ พบชาวนาแค่ไปรับฟังปัญหา ชี้ปัญหามีต้นเหตุจากความต่างในสังคม

  
  
          วันที่ 15 พ.ค.58 เมื่อเวลา 07.00 น. ที่บ้านปิ่นประภาคม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดบ้านพักให้บุคคลทั้งข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ และประชาชน เข้าอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 83 ปี โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น มีบุคคลในแวดวงต่างๆ ทยอยเดินทางเข้าอวยพรอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ และนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. นายพิทยา พุกกะมาน กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สมาชิกพรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีต รมช.คมนาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ นายเสนาะ เทียนทอง สมาชิกพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ยังมีอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินทางมาร่วมอวยพรวันเกิดหลังจากที่เดินทางไปอวยพรวันเกิดนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยอีกด้วย อาทิ นางยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เดินทางมาร่วมอวยพรวันกิดนั้น จะได้รับเหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นชนะศึกชายแดน และหนังสือบันทึกสัมภาษณ์พิเศษพล.อ.ชวลิตในรายการพีชทีวี สเปเชี่ยล เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 58 ด้วย
 
          พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์ว่า วันเกิดปีนี้อยากให้เกียรติประวัติของชาติที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีตของไทย ที่เคยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค และเราเคยไปช่วยรอบบ้านเอาไว้ แต่วันนี้กลับกลายเป็นรัฐล้มเหลว ทำให้รู้สึกเจ็บปวด การจะกลับมาเหมือนเดิมนั้นง่ายนิดเดียว หันหน้าเข้ามาหากันและเปิดใจก็เท่านั้นเอง วันเกิดปีนี้อยากเห็นประเทศสงบสุข เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่เหมือนในอดีตที่เป็นศูนย์กลางทางการค้า ขอให้คนไทยหันหน้าเข้าหากัน ส่วนการลงพื้นที่พบปะชาวนาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นั้นเป็นเพียงการลงไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและแนะแนวทางให้แก้ปัญหา ไม่มีนัยยะทางการเมืองหรือต้องการทำลายภาพลักษณ์ของรัฐบาล ที่ผ่านมาได้เดินทางไปหลายจังหวัด ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ แต่ไม่มีใครให้ความสนใจ อย่างไรก็ตาม ไม่รู้เสียใจที่ผู้ใหญ่ในรัฐบาลออกมาต่อว่า ว่าไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เพราะตระหนักดีว่าภาระของรัฐบาลมีมาก บางครั้งอาจให้ความดูแลช่วยเหลือเกษตรกรไม่ทั่วถึง ดังนั้น ตนจึงขอช่วยเหลือในส่วนนี้
  
          ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลและ คสช.จับตาการเคลื่อนไหวโดยเฉพาะการพบชาวนาที่จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า การลงพื้นที่เป็นเพียงการลงไปรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและแนะแนวทางให้แก้ปัญหาเท่านั้น ทั้งนี้ รัฐบาลจะแก้ปัญหาบ้านเมืองถูกทางหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลเห็นปัญหาหลักของชาติคืออะไร หากรู้ก็จะสามารถแก้ได้ตรงจุด ซึ่งส่วนตัวเห็นว่าวันนี้ทุกคนมองว่าปัญหาคือต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกภาคส่วนจึงมุ่งไปที่จุดนั้น ในขณะที่ปัญหาปากท้องประชาชนกลับได้รับความสนใจน้อยกว่าทั้งที่มีความสำคัญ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญและการทำประชามติ เพราะเชื่อว่าจะมีการฉีกรัฐธรรมนูญเหมือนทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล
  
          พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนเสนอให้ทำรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับคือ ฉบับที่20 และ21หากไม่พอใจฉบับที่20 ก็นำฉบับที่21 มาใช้โดยไม่ต้องฉีกอีก แต่เสนอไปแล้วกลับถูกด่ากลับมา ส่วนเรื่องการทำประชามตินั้น ตนท้าพนันได้เลยว่าต้องมีการฉีกอีกแน่นอน ที่ผ่านมามันเป็นวงจร มีการยกร่าง จัดการเลือกตั้ง แล้วเมื่อขัดแย้ง ทหารก็เข้ามาและฉีกรัฐธรรมนูญ จากนั้นก็ยกร่างใหม่ เป็นอย่างนี้มาตลอด ทั้งนี้ คงต้องให้เกียรติรัฐบาลและให้เครดิตบ้างว่าเขาจะทำได้หรือไม่ และเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจที่พลาดบ้าง แต่เป็นหน้าที่ของเราที่จะสะท้อนให้เขาทราบว่าประชาชนคิดเห็นอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ขอกำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาประเทศ และขอให้ทุกคนเห็นใจโดยเฉพาะการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการบริหารประเทศในภาวะเช่นนี้ในฐานะรัฐบาลเฉพาะกาล เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความปรองดอง และไม่มีอะไรต้องชี้แนะนายกรัฐมนตรี เพราะใจถึงใจ ส่งถึงกันอยู่แล้ว
  
          ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มองรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างว่าเกิดจากบุคคลเฉพาะกลุ่มที่ต้องการเข้ามาแสวงหาอำนาจหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น เดี๋ยวจะถูกเชิญตัว อย่างที่บอก รัฐธรรมนูญเกิดขึ้นเพราะความขัดแย้ง ดังนั้นต้องช่วยกันแก้ไขจุดนี้ ที่กังวลกันว่าเมื่อรัฐธรรมนูญยังมีความขัดแย้งจะทำให้เกิดความปรองดองได้หรือไม่นั้น ต้องบอกว่าความปรองดองไม่ได้เกิดที่รัฐธรรมนูญ แต่เกิดขึ้นเพราะความแตกต่างในสังคม จึงต้องแก้ตรงนี้ สำหรับแผนปรองดองที่รัฐบาลดำเนินการนั้นมองว่าจะสำเร็จหรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ยังไม่ทราบในสาระสำคัญ แต่การปรองดองจะต้องทำก่อนการพัฒนา ปรองดองก่อนการปฏิรูปตามที่คสช.กำหนดไว้ ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อยังมีการปฏิบัติสองมาตรฐานอยู่ในขณะนี้จะทำให้เกิดการปรองดองได้อย่างไรนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของรัฐบาลเป็นหลักที่พูดถึงสื่อ อาจหมายความว่าขอความร่วมมือจากสื่อให้ช่วย เพราะเห็นว่ามีความเป็นอิสระเสรี ซึ่งไม่ต้องการเห็นการปรองดองแบ่งระดับ แบ่งพวก แบ่งฝ่าย
  
          ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า มองรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่าจะเปิดทางให้มีการตั้งพรรคทหารเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ที่ผ่านมาทหารไม่เคยมีพรรคของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปห่วงในเรื่องนี้ ส่วนที่ถามว่าคสช.มีแนวโน้มไปสนับสนุนพรรคการเมืองให้ลงเลือกตั้งหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบ แต่เขาคงต้องแสดงความเป็นธรรม มิเช่นนั้นจะเข้ามาแก้ปัญหาได้อย่างไร
  
          พล.อ.ชวลิต ยังกล่าวถึงโอกาสที่จะเป็นแกนนำพรรคการเมืองและนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกครั้งด้วยว่า หากถามถึงความพร้อม ส่วนตัวก็พร้อม แต่วันนี้ไม่ว่าจะอยู่สถานะใดก็สามารถแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองได้ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของตัวมันเอง ทุกคนสามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องอยู่ในฐานะอะไรเลย ถ้าถามว่าพร้อมหรือไม่ส่วนตัวเชื่อว่าทุกคนพร้อมหมด แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ เพราะอยู่ที่ไหนก็ทำงานให้บ้านเมืองได้ ตอนนี้ควรปล่อยให้กลไกต่างๆ เดินต่อไปได้ คอยช่วยเหลืออยู่ตรงกลางดีกว่าเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์กองกำลังที่สาม เข้ามาคั่นกลางความขัดแย้งในอนาคต โดยใช้เวลาระหว่างนี้แนะนำแนวทางให้กับคู่กรณีทั้งสองฝ่ายก็ถือว่าพอแล้ว
  
          ด้านคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ภริยา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อย่ามองเรื่องที่ พล.อ.ชวลิตไปพบชาวนาว่าเป็นเรื่องการเมืองเลย เพราะพล.อ.ชวลิตมีเจตนาที่ดี อยากช่วยเหลือชาวนาให้มีสถานภาพที่ดีขึ้น อย่าไปหาว่าจะปฎิวัติเลย
  
          ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังการให้สัมภาษณ์ คุณหญิงพันธุ์เครือได้หอมแก้มพล.อ.ชวลิตเพื่อเป็นของขวัญ และพล.อ.ชวลิตก็ได้หอมแก้มกลับพร้อมทั้งระบุว่า เรารักกันมานาน เรียกรอยยิ้มและเสียงฮือฮาจากสื่อมวลชนและผู้ที่เดินทางไปร่วมอวยพรได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม สำหรับบรรยากาศโดยรอบงานวันเกิดพล.อ.ชวลิตนั้น มีทหารนอกเครื่องแบบมาคอยสังเกตุการณ์พร้อมทั้งบันทึกภาพบรรยากาศภายในบ้านพักของพล.อ.ชวลิตด้วย





แกนนำ-ส.ส.พท.แห่อวยพรวันเกิด "บิ๊กจิ๋ว"
  
          แกนนำและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายเสนาะ เทียนทอง นายปลอดประสพ สุรัสวดี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นายวราเทพ รัตนากร นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายชวลิต วิชยสุทธิ์ และนายไพจิต ศรีวรขาน เดินทางมาร่วมอวยพรวันเกิด พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งนำกระเช้าดอกไม้มาร่วมอวยพรด้วย โดยนายเสนาะ กล่าวว่า บุญกุศลที่ พล.อ.ชวลิตได้สั่งสมมา รวมถึงบารมีของบูรพกษัตริยาธิราชเจ้า จงขจัดทุกข์ ขจัดโรคภัยทั้งหลายออกไปจากชีวิตของ พล.อ.ชวลิต ให้คงเหลือแต่สิ่งดีงาม และขอให้กำลังใจ พล.อ.ชวลิต อย่าประชดประชันรุ่นน้อง เพราะวันนี้ใครทำดีก็จะเห็นเอง วันนี้เราสองคนมีบารมีที่สั่งสมกันมา ไปที่ไหนมีแต่คนรักและเคารพนับถือ ดังนั้น ในบั้นปลายของชีวิตขอให้ พล.อ.ชวลิตอยู่เป็นหลักชัยแก่ลูกหลาน หากมีโอกาสขอให้เข้ามาบริหารบ้านเมืองอีกครั้งโดยไม่จำเป็นต้องดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ว่า พล.อ.ชวลิตจะเข้ามาในฐานะไหนก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยเหลือบ้านเมืองได้ ตนยืนยันที่จะยืนเคียงข้างพี่ชายคนนี้ตลอดไป
  
          ด้านพล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาอวยพรในวันนี้ ทำให้รู้สึกชื่นใจและรู้ว่าที่ผ่านมาเลือกคบคนไม่ผิด ดังนั้น ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จในสิ่งที่พึงปรารถนา ขอให้ร่วมมือกันครั้งสุดท้ายในการสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับบ้านเมือง เพราะวันนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ ทราบดีว่าความรัก ความผูกพันธ์ ไม่เคยห่างเหินตั้งแต่เราเริ่มต้นทำงานมาด้วยกัน เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการสร้างชาติ สร้างแผ่นดิน ให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนในอดีตอีกครั้ง ได้บอกพี่น้องและผู้ที่เกี่ยวข้องที่มีความปรารถนาดีต่อแผ่นดินและมีแนวทางเดียวกันอย่างชัดเจนว่า โปรดอย่าทิ้งแผ่นดินนี้ อย่าทิ้งภารกิจหน้าที่ที่ได้ทำมา แผ่นดินนี้ยังต้องการภารกิจสุดท้ายแห่งชีวิต พวกเราต้องรวมพลังกัน กลับมาสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ให้เกิดในบ้านเมืองเราให้ได้ วันนี้มีประชาชนต้องการความช่วยเหลือจริงๆ และคิดว่าผู้ที่ทำหน้าที่กำลังพยายามแก้ปัญหากันอย่างเต็มที่ อย่างเต็มกำลัง คงไม่น่ารังเกียจหากพวกเราไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง แต่ภาระต่อแผ่นดิน ประเทศชาติ ต่อราชบัลลังก์ยังต้องอยู่กับพวกเราไปตลอดชีวิต ขอฝากว่า อย่าทิ้งแผ่นดิน เพราะเรายังมีภาระที่ต้องทำให้เสร็จสิ้นให้ได้ เราเคยทำร่วมกันมาและประสบผลสำเร็จไปแล้ว แต่ตอนนี้มันกลับไปสู่ปัญหาเหล่านั้นอีกครั้ง ถือว่าเป็นหน้าที่ของเรา ซึ่งสำคัญกว่าการไปเลี้ยงหลานอย่างที่ได้กล่าวไว้ ขอให้ทุกท่านที่มีความปรารถนาดีเหมือนกับพวกเรา ร่วมกันกับเราเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเรามีความปรารถนาดีและฝันถึงมาโดยตลอด ถ้าทำช้าไปเราจะเสียใจอย่างที่สุด ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่มาในวันนี้ และไม่ว่าพรรคไหนก็ได้ ขอแค่ร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินต่อไป




"จาตุรนต์" ติง"คสช." ควรรับฟังความเห็น "บิ๊กจิ๋ว"
 
          นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 83 ปี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ถือเป็นโอกาสพิเศษที่ได้มาเยี่ยมเยียนพร้อมทั้งอวยพรวันเกิด พล.อ.ชวลิต ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งของบ้านเมือง ในอดีตที่ผ่านมาเคยแก้ปัญหาความขัดแย้งมาก่อน จึงเป็นบุคลากรที่ยังทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องต่าง ๆ ในบ้านเมืองกับ พล.อ.ชวลิตมาโดยตลอด ซึ่งพล.อ.ชวลิตเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย มีความห่วงใยต่อบ้านเมือง เกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ห่างไกล วันนี้สถานการณ์บ้านเมืองต้องการความเห็นจากหลายฝ่าย และไม่ต้องการการปิดกั้นความเห็นต่าง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ควรรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายโดยเฉพาะความเห็นของ พล.อ.ชวลิต เพราะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาก และไม่มีความคิดที่จะรวมกลุ่มการเมืองหรือจับกลุ่มอำนาจของกลุ่มความหวังใหม่ เพราะไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็สามารถทำงานเพื่อบ้านเมืองได้

 
.......................................
(หมายเหตุ ภาพ... ทวีชัย จันทะวงค์)

ไม่มีความคิดเห็น: