อดีตตำรวจสันติบาล แฉ 2 กลุ่มทุนธุรกิจการเมือง"บุญชัย-กลุ่มนักการเมือง" หนุนเปิดกาสิโน เชื่อมีใบสั่งชักใย
เมื่อเวลา 13.00 น.ที่โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล แถลงข่าวเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเบื้องหลัง เนื่องจากมีข้อมูลซึ่งน่าจะเป็บใบสั่งให้เปิดบ่อนกาสิโนในประเทศไทย จนทำให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนให้มีการแก้กฎหมายเพื่อเปิดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ จนเป็นเป็นข่าวคึกโครมตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา
พ.ต.ท.สันธนะ เปิดเผยว่า ตนผูกพันอยู่กับธุรกิจกาสิโนมานานกว่า 30 ปี จึงมีความกังวลต่อเรื่องนี้ โดยเชื่อว่า เป็นใบสั่งทางการเมือง ซึ่งเกิดขึ้นจาก 2 กลุ่มทุนธุรกิจการเมือง โดยกลุ่มแรกคือกลุ่มของนายบุญชัย เกษมวิลาศ หรือ ชัย ฟันเหล็ก กับนางเยาวลักษณ์ ฉายศิริไพบูลย์ หรือ เจ๊หุ้ง และพ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย ซึ่งเป็นกลุ่มของนักการเมืองอำนาจเก่าที่ตนเรียกว่า"ท่าน" ซึ่งหนุนหลังอยู่ ส่วนกลุ่มที่สองคือกลุ่มของนักการเมือง ซึ่งมีนักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศ และอดีตนักการเมืองคอยสนับสนุน
พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวต่อว่า อยากจะขอเล่าย้อนไปถึงช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยมีผู้หนึ่งที่เบอร์โทรศัพท์ ระหว่างประเทศขึ้นต้นด้วย 971 และลงท้ายตอง 111 ซึ่งตนไม่ขอเอ่ยชื่อว่าเป็นใคร แต่เรียกว่า "ท่าน" โดยท่านพูดกับตนว่า"อย่าไปยุ่งกับบุญชัย เขาเคยดูแลผมตอนผมไปฮ่องกง" เมื่อเป็นบุคคลท่านนั้นพูดตนก็ต้องรับฟัง แม้นายบุญชัย ที่พูดถึงจะเป็นแค่คนตัวเล็กๆ ที่แค่อยู่ในวงการการพนันเท่านั้น แต่ตนรู้จักนายบุญชัยมานาน เพราะอยู่วงการเดียวกัน และที่ต้องมาคิดคือ ทำไมท่านถึงต้องปกป้องนายบุญชัยคนนี้ คงเป็นเพราะตอนนั้นท่านได้เข้าไปรู้จักกับนายบุญชัย และเข้าไปเรียนรู้ในวงการธุรกิจการพนันที่มาเก๊า
"ทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีการแบ่งผลประโยชน์ไว้ทั้งหมดแล้ว รวมถึงมีการเตรียมที่ดินที่พัทยา ภูเก็ต รวมถึงเชียงใหม่ ไว้ทั้งหมดแล้ว คือเป็นใบสั่งทางการเมืองของนักการเมือง 2 กลุ่มใหญ่ เพราะไม่ว่าคาสิโนจะเปิดได้หรือไม่ก็ได้สองเด้ง ถ้าเปิดได้กลุ่มการเมืองนั้นก็ฮุบธุรกิจนี้ไป แต่หากเปิดไม่ได้รัฐบาลก็พัง เรื่องนี้มีการเตรียมการมาก่อนแล้ว ผมมองว่าการพนันตอนนี้จะเกิดประโยชน์ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องและออกมาพูดนั้น กำลังวู่วามเกินไป ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับสังคมและประชาชน ซึ่งผมไม่สนับสนุนอย่างยิ่ง" พ.ต.ท.สันธนะ กล่าวย้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น