PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558

"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ"ปฎิเสธข่าวเบื้องหลังเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มนักศึกษา


Prev
1 of 1
Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 28 มิ.ย. 2558 เวลา 13:28:34 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วันที่ 28 มิถุนายน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Thanathorn Juangroongruangkit ถึงกรณีที่มีการเผยข้อความระบุว่าตนเองเป็นผู้อยู่เบื้อหลังกลุ่มนักศึกษา ที่ออกเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ว่า

“ในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา มีการกล่าวหาผมจากช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งมีเนื้อหาคล้อยตามไปในทิศทางเดียวกันว่า ผมอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักศึกษาต่อต้านเผด็จการในนามกลุ่ม ประชาธิปไตยใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ในการล้มสถาบันพระมหากษัตริย์

ถ้าเหตุเกิดลำพังเพียงโจมตีผมนั้น ผมคงไม่มีความประสงค์จะตอบโต้อันใด เนื่องด้วยการใส่ความอย่างมดเท็จนี้ไม่ใช่เป็นครั้งแรกและหาได้ตั้งอยู่บน ความเป็นจริงไม่ หากแต่ครั้งนี้การใส่ความผมกระทบกระเทือนถึงกลุ่มนักศึกษาที่กำลังถามหา ประชาธิปไตยด้วยการเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญกับกลุ่มพลังอประชาธิปไตย ดังนั้นจึงไม่เป็นธรรมกับพวกเขาเท่าไหร่หากผมจะนิ่งเฉย

ผมขอชี้แจงสามข้อดังนี้ (๑) ผมไม่เคยเข้าร่วม/มีส่วนรู้เห็น หรือก่อการใดๆในขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เลย, (๒) ผมไม่เคยข้องเกี่ยวหรือรับเงินจากคุณทักษิณเพื่อการเคลื่อนไหวทางการเมือง ใดๆ และ (๓) ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยว/ชักจูงหรือมีอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มนักศึกษาที่ เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ใดๆ เลย การกระทำของพวกเขาล้วนมาจากเจตจำนงค์อันแน่วแน่และเป็นอิสระของพวกเขาทั้ง สิ้น หากท่านใดมีหลักฐานเป็นอื่น ผมพร้อมเผชิญหน้าอย่างตรงไปตรงมา

ใช่ ผมอยู่ที่หน้าสน. ปทุมวันในช่วงเย็นของวันที่ ๒๔ มิถุนายนจริง แต่ผมไปในฐานะที่ผมเชื่อว่าเป็นฐานะที่สำคัญที่สุดของผม ซึ่งมิใช่ในฐานะนายทุน แต่คือในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่มีสิทธิและอิสระในความคิดความเชื่อของตนเอง ผมเชื่อว่าพวกเขากำลังทำในสิ่งซึ่งเป็นคุณต่อสังคมในระยะยาว ดังนั้นผมจึงไปให้กำลังใจเขาเมื่อพวกเขาเสี่ยงต่อการถูกจับกุมด้วย กฏหมายอธรรมในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่พึงมีให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ผมไม่มีส่วนในการกำหนดการเคลื่อนไหวของพวกเขาแม้เพียงน้อยและไม่มีความ ประสงค์จะทำเช่นนั้น และหากต่อให้ผมมีความประสงค์เช่นนั้นจริงก็คงจะล้มเหลว เพราะกลุ่มบุคคลที่มีหัวใจแข็งแกร่งปานหินผาเยี่ยงนั้น ย่อมไม่ให้ใคจจูงจมูกได้ง่าย หากสิทธิอันชอบธรรมในการแสดงออกซึ่งความคิดความเชื่อและศักดิ์ศรีความเป็น มนุษย์ถูกพรากจากพวกเขาไปเพียงเพราะพวกเขามีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง จากผู้มีอำนาจจากการทำรัฐประหาร นั่นย่อมเสมือนสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผมถูกพรากไปเช่นกัน

ประชาธิปไตย!
สิทธิมนุษยชน!
ความยุติธรรม!
การมีส่วนร่วม!
สันติวิธี!
เผด็จการจงพินาศไป ประชาธิปไตยจงเจริญ”

ไม่มีความคิดเห็น: