updated: 27 พ.ย. 2558 เวลา 17:55:45 น.
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่พยายามปิดปังความไม่พอใจที่มีต่อตุรกี ที่ยิงเครื่องบินรบของรัสเซียตกบริเวณพรมแดนตุรกี-ซีเรีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (24 พ.ย.) หลังจากละเมิดน่านฟ้าตุรกี ล่าสุด มาตรการลงโทษตุรกีครอบคลุมไปถึงด้านการค้าแล้ว
ไฟแนนเชียล ไทมส์ ระบุว่า Rosselkhoznadzor หน่วยงานตรวจสอบผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหารของรัสเซีย ประกาศว่า อาหารและสินค้าเกษตรที่นำเข้าจากตุรกีจะถูกนำมาตรวจเช็กความปลอดภัย ขณะที่ Rospotrebnadzor หน่วยงานด้านความปลอดภัยเพื่อผู้บริโภคของรัสเซียเตรียมดึงสินค้าจากตุรกี รวมถึงเนื้อสัตว์และผลไม้ออกจากเชลฟ์ในร้านค้า โดยอ้างว่าเพื่อตรวจสอบมาตรฐานด้านสุขภาพ
ทั้งนี้ ข้อกำหนดด้านการนำเข้าอาหารเป็นมาตรการที่รัสเซียนำไปมาใช้เพื่อตอบโต้ประเทศคู่ขัดแย้งของตนบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้เคยใช้กับสหรัฐและยุโรปตะวันออกที่พิพาทกันเรื่องวิกฤตยูเครน โดยตุรกีเป็นประเทศที่ส้มหล่นจากการที่รัสเซียคว่ำบาตรอาหารจากชาติตะวันตก ในปี 2557 มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรระหว่างรัสเซีย-ตุรกีพุ่งสูงถึง 19% มาอยู่ที่ 4,000 ล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ รัสเซียยังพุ่งเป้าไปที่ภาคการท่องเที่ยวของตุรกี กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ยกระดับการเตือนภัยการเดินทางไปประเทศดังกล่าว พร้อมแนะนำให้คนรัสเซียหลีกเลี่ยงไปเยือนตุรกี ส่วนคนที่ขณะนี้อยู่ในตุรกีให้รีบเดินทางกลับประเทศ
นายโอเลก ซาโฟนอฟ หัวหน้าองค์การการท่องเที่ยวรัฐบาลกลางรัสเซียเผยว่า ตุรกีทำเงินจากนักท่องเที่ยวรัสเซียราวปีละ 10,000 ล้านดอลลาร์ "แต่เห็นได้ชัดว่าตุรกีไม่ต้องการรายได้ส่วนนี้อีกแล้ว" พร้อมเสริมว่า ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศจะถูกระงับทั้งหมด
มีรายงานข่าวว่านักธุรกิจจากตุรกี 39 คนถูกจับกุมข้อหาใช้วีซ่าผิดประเภท โดยเข้ามาในรัสเซียโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว แต่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าเกษตรซึ่งมีจุดประสงค์ด้านธุรกิจ

ด้านนายดิมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อเตรียมออกแพ็กเกจคว่ำบาตรทางการค้าต่อตุรกี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ห้ามบริษัทสัญชาติตุรกีใช้ท่าเรือและน่านฟ้าของรัสเซีย ระงับข้อตกลงด้านการลงทุน รวมถึงการแลกเปลี่ยนด้านสังคมวัฒนธรรม
แม้รัฐบาลตุรกีจะพยายามหาทางคลี่คลายสถานการณ์ แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถบรรเทาความโกรธของนายปูตินได้ ผู้นำรัสเซียกล่าวหาว่าตุรกีจงใจทำลายความสัมพันธ์กับรัสเซีย "เรายังไม่ได้ยินคำขอโทษที่ชัดเจนจากฝ่ายการเมือง-ความมั่นคงระดับสูงของตุรกี หรือขอเสนอที่จะชดใช้ความเสียหาย รวมถึงคำมั่นที่จะลงโทษผู้กระทำผิดในครั้งนี้"

ทั้งนี้ ข้อกำหนดด้านการนำเข้าอาหารเป็นมาตรการที่รัสเซียนำไปมาใช้เพื่อตอบโต้ประเทศคู่ขัดแย้งของตนบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้เคยใช้กับสหรัฐและยุโรปตะวันออกที่พิพาทกันเรื่องวิกฤตยูเครน โดยตุรกีเป็นประเทศที่ส้มหล่นจากการที่รัสเซียคว่ำบาตรอาหารจากชาติตะวันตก ในปี 2557 มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรระหว่างรัสเซีย-ตุรกีพุ่งสูงถึง 19% มาอยู่ที่ 4,000 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ รัสเซียยังพุ่งเป้าไปที่ภาคการท่องเที่ยวของตุรกี กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ยกระดับการเตือนภัยการเดินทางไปประเทศดังกล่าว พร้อมแนะนำให้คนรัสเซียหลีกเลี่ยงไปเยือนตุรกี ส่วนคนที่ขณะนี้อยู่ในตุรกีให้รีบเดินทางกลับประเทศ
นายโอเลก ซาโฟนอฟ หัวหน้าองค์การการท่องเที่ยวรัฐบาลกลางรัสเซียเผยว่า ตุรกีทำเงินจากนักท่องเที่ยวรัสเซียราวปีละ 10,000 ล้านดอลลาร์ "แต่เห็นได้ชัดว่าตุรกีไม่ต้องการรายได้ส่วนนี้อีกแล้ว" พร้อมเสริมว่า ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศจะถูกระงับทั้งหมด
มีรายงานข่าวว่านักธุรกิจจากตุรกี 39 คนถูกจับกุมข้อหาใช้วีซ่าผิดประเภท โดยเข้ามาในรัสเซียโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยว แต่เข้าร่วมงานแสดงสินค้าเกษตรซึ่งมีจุดประสงค์ด้านธุรกิจ
ด้านนายดิมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อเตรียมออกแพ็กเกจคว่ำบาตรทางการค้าต่อตุรกี ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ห้ามบริษัทสัญชาติตุรกีใช้ท่าเรือและน่านฟ้าของรัสเซีย ระงับข้อตกลงด้านการลงทุน รวมถึงการแลกเปลี่ยนด้านสังคมวัฒนธรรม
แม้รัฐบาลตุรกีจะพยายามหาทางคลี่คลายสถานการณ์ แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถบรรเทาความโกรธของนายปูตินได้ ผู้นำรัสเซียกล่าวหาว่าตุรกีจงใจทำลายความสัมพันธ์กับรัสเซีย "เรายังไม่ได้ยินคำขอโทษที่ชัดเจนจากฝ่ายการเมือง-ความมั่นคงระดับสูงของตุรกี หรือขอเสนอที่จะชดใช้ความเสียหาย รวมถึงคำมั่นที่จะลงโทษผู้กระทำผิดในครั้งนี้"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น