PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สหรัฐกังวลขึ้นมากรัสเซียติดตั้งเครื่องยิงสกัดขีปนาวุธในซีเรีย

กองทัพสหรัฐฯ 'กังวลเพิ่มขึ้นมาก' รัสเซียนำระบบป้องกันอากาศยานสุดไฮเทค 'เอส-400' เข้าติดตั้งในซีเรีย

โดย MGR Online
26 พฤศจิกายน 2558 21:28 น.
กองทัพสหรัฐฯ 'กังวลเพิ่มขึ้นมาก' รัสเซียนำระบบป้องกันอากาศยานสุดไฮเทค 'เอส-400' เข้าติดตั้งในซีเรีย
ระบบขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานแบบ เอส-400 แล่นผ่านบริเวณจัตุรัสแดง ในกรุงมอสโก ระหว่างพิธีตรวจพลสวนสนาม ทางการมอสโกประกาศนำเอาระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศไฮเทคที่สุดของตนรุ่นนี้ เข้าประจำการในซีเรีย ทำให้สหรัฐฯเกิดความกังวล 
        เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - กองทัพสหรัฐฯ “วิตกกังวลเพิ่มขึ้นมาก” จากการที่รัสเซียตัดสินใจนำเอาระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศซึ่งไฮเทคที่สุดของมอสโก มาติดตั้งประจำการยังฐานทัพาอากาศของแดนหมีขาวในซีเรีย เจ้าหน้าที่สหรัฐฯผู้หนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีในวันพุธ (25 พ.ย.) 
       
       ทางการรัสเซียแถลงว่า กำลังจัดส่งระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบ เอส-400 มาประจำที่ฐานทัพอากาศลาตาเกีย ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเสริมกำลังป้องกันตนเอง ภายหลังตุรกียิงเครื่องบินขับไล่ลำหนึ่งของรัสเซียตกเมื่อวันอังคาร (24) ในบริเวณน่านฟ้าเหนือชายแดนซีเรีย-ตุรกี ซึ่งกำลังมีเครื่องบินทหารของชาติต่างๆ ออกปฏิบัติการกันหนาแน่นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
       
       ขีปนาวุธ เอส-400 นั้นมีรัศมีทำการประมาณ 400 กิโลเมตร ซึ่งหมายความว่าสามารถยิงไปยังเป้าหมายลึกเข้าไปในตุรกี ตลอดจนเป็นอาวุธที่สามารถคุกคามเครื่องบินรบของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯซึ่งเข้าปฏิบัติการในซีเรีย ดังนั้นจึงกลายเป็นส่วนประกอบที่มีอันตรายอีกประการหนึ่ง เพิ่มเข้าไปในส่วนผสมแห่งการแข่งขันช่วงชิงความได้เปรียบทางการทหารในซีเรียซึ่งก็อยู่ในภาวะเดือดพล่านอยู่แล้ว
       
       “มันเป็นระบบอาวุธซึ่งมีศักยภาพที่จะกลายเป็นภัยคุกคามอย่างสำคัญต่อทุกๆ ฝ่ายไม่ว่าใครก็ตาม” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯผู้นี้บอกกับเอเอฟพี บนเงื่อนไขที่ขอให้สงวนนาม และระบุว่า “มีความวิตกกังวลกันอย่างมากทีเดียวในเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางอากาศในซีเรีย (จากการที่รัสเซียนำเอา เอส-400 เข้ามาติดตั้งประจำการ)”
       
       สหรัฐฯได้นำกลุ่มพันธมิตรเข้าถล่มโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายต่างๆ ของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก รวมกว่า 8,000 จุดแล้ว นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม2014 เป็นต้นมา
       
       รัสเซียเองก็เช่นกัน กำลังทิ้งบอมบ์ทางอากาศในซีเรีย ถึงแม้ส่วนใหญ่แล้วเป็นอาณาบริเวณคนละส่วนกันกับที่อากาศยานของสหรัฐฯและพันธมิตรบินอยู่ โดยที่ฝ่ายตะวันตกกล่าวหาว่ารัสเซียกำลังพยายามประคับประคองช่วยชีวิตระบอบปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ไม่ใช่มุ่งโฟกัสไปที่พวกนักรบญิฮัดไอเอส
       
       ถึงแม้รัสเซียกับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ทำความตกลงกันเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติต่างๆ ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะให้เกิดความมั่นใจว่า นักบินของแต่ละฝ่ายจะอยู่ห่างจากเส้นทางของอีกฝ่ายหนึ่ง ทว่าการมาถึงของขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานไฮเทคที่สุดของรัสเซีย ก็ยังคงเพิ่มความไม่สบายใจให้แก่เพนตากอนอยู่ดี 

กองทัพสหรัฐฯ 'กังวลเพิ่มขึ้นมาก' รัสเซียนำระบบป้องกันอากาศยานสุดไฮเทค 'เอส-400' เข้าติดตั้งในซีเรีย
ภาพที่เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียเมื่อเดือนตุลาคม 2015 แสดงให้เห็นนักบินของเครื่องบินขับไล่ ซู-24 เตรียมตัวขึ้นบิน ณ ฐานทัพอากาศเฮไมมีม จังหวัดลาตาเกีย ประเทศซีเรีย เครื่องบินรุ่นนี้เองที่ถูกเครื่องบินเอฟ-16 ของตุรกียิงตกในวันอังคาร (24) และรัสเซียประกาศเสริมกำลังในซีเรียเป็นการตอบโต้ หนึ่งในนั้นคือการนำ เอส-400 เข้ามาประจำการ 
        เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - กองทัพสหรัฐฯ “วิตกกังวลเพิ่มขึ้นมาก” จากการที่รัสเซียตัดสินใจนำเอาระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศซึ่งไฮเทคที่สุดของมอสโก มาติดตั้งประจำการยังฐานทัพาอากาศของแดนหมีขาวในซีเรีย เจ้าหน้าที่สหรัฐฯผู้หนึ่งกล่าวกับเอเอฟพีในวันพุธ (25 พ.ย.) 
       
       ทางการรัสเซียแถลงว่า กำลังจัดส่งระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบ เอส-400 มาประจำที่ฐานทัพอากาศลาตาเกีย ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเสริมกำลังป้องกันตนเอง ภายหลังตุรกียิงเครื่องบินขับไล่ลำหนึ่งของรัสเซียตกเมื่อวันอังคาร (24) ในบริเวณน่านฟ้าเหนือชายแดนซีเรีย-ตุรกี ซึ่งกำลังมีเครื่องบินทหารของชาติต่างๆ ออกปฏิบัติการกันหนาแน่นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
       
       ขีปนาวุธ เอส-400 นั้นมีรัศมีทำการประมาณ 400 กิโลเมตร ซึ่งหมายความว่าสามารถยิงไปยังเป้าหมายลึกเข้าไปในตุรกี ตลอดจนเป็นอาวุธที่สามารถคุกคามเครื่องบินรบของพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯซึ่งเข้าปฏิบัติการในซีเรีย ดังนั้นจึงกลายเป็นส่วนประกอบที่มีอันตรายอีกประการหนึ่ง เพิ่มเข้าไปในส่วนผสมแห่งการแข่งขันช่วงชิงความได้เปรียบทางการทหารในซีเรียซึ่งก็อยู่ในภาวะเดือดพล่านอยู่แล้ว
       
       “มันเป็นระบบอาวุธซึ่งมีศักยภาพที่จะกลายเป็นภัยคุกคามอย่างสำคัญต่อทุกๆ ฝ่ายไม่ว่าใครก็ตาม” เจ้าหน้าที่สหรัฐฯผู้นี้บอกกับเอเอฟพี บนเงื่อนไขที่ขอให้สงวนนาม และระบุว่า “มีความวิตกกังวลกันอย่างมากทีเดียวในเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติการทางอากาศในซีเรีย (จากการที่รัสเซียนำเอา เอส-400 เข้ามาติดตั้งประจำการ)”
       
       สหรัฐฯได้นำกลุ่มพันธมิตรเข้าถล่มโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายต่างๆ ของกลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก รวมกว่า 8,000 จุดแล้ว นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม2014 เป็นต้นมา
       
       รัสเซียเองก็เช่นกัน กำลังทิ้งบอมบ์ทางอากาศในซีเรีย ถึงแม้ส่วนใหญ่แล้วเป็นอาณาบริเวณคนละส่วนกันกับที่อากาศยานของสหรัฐฯและพันธมิตรบินอยู่ โดยที่ฝ่ายตะวันตกกล่าวหาว่ารัสเซียกำลังพยายามประคับประคองช่วยชีวิตระบอบปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ไม่ใช่มุ่งโฟกัสไปที่พวกนักรบญิฮัดไอเอส
       
       ถึงแม้รัสเซียกับกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ได้ทำความตกลงกันเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติต่างๆ ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะให้เกิดความมั่นใจว่า นักบินของแต่ละฝ่ายจะอยู่ห่างจากเส้นทางของอีกฝ่ายหนึ่ง ทว่าการมาถึงของขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานไฮเทคที่สุดของรัสเซีย ก็ยังคงเพิ่มความไม่สบายใจให้แก่เพนตากอนอยู่ดี 

       


ไม่มีความคิดเห็น: