นางอองซาน ซู จี หัวหน้าพรรคเอ็นแอลดี ผู้นำฝ่ายค้านของเมียนมา กล่าวว่า หากพรรคเอ็นแอลดีชนะการเลือกตั้งในวันอาทิตย์นี้ (8 พ.ย. 58) เธอจะ "อยู่เหนือประธานาธิบดี"
บีบีซี รายงานว่า มีการคาดการณ์ว่า พรรคเอ็นแอลดีจะได้คะแนนเสียงอย่างมากในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ แม้ว่านางอองซาน ซู จี จะถูกกีดกันจากรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้เป็นประธานาธิบดีในอนาคต
นายโจนาห์ ฟิชเชอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซี ประจำกรุงย่างกุ้ง รายงานว่า นางอองซานยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเธอจะมีอำนาจในการบริหารอย่างแน่นอน ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วไปในเมียนมาครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่เปิดเผยในรอบ 25 ปี
นางซู จี กล่าวแถลงข่าวในกรุงย่างกุ้ง วันที่ 5 พ.ย. 2558 ก่อนการเลือกตั้งว่า "ถ้าพรรคของเราชนะและเอ็นแอลดีได้จัดตั้งรัฐบาล ฉันจะอยู่เหนือประธานาธิบดี และนี่เป็นคำกล่าวที่ธรรมดามาก"
พร้อมกับกล่าวยืนยันว่า ในรัฐธรรมนูญไม่มีข้อห้ามนี้
ทั้งนี้ ในบัญญัติรัฐธรรมนูญเมียนมา ฉบับปี 2008 (Clause 58) ระบุไว้ว่า "ประธานาธิบดี ... มีฐานัดรเหนือบุคคลอื่นในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา"
นางซู จี ถูกกีดกันจากการรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี โดยระบุไว้รัฐธรรมนูญเมียนมา ฉบับปี 2008 ว่า ผู้ที่มีคู่สมรสหรือบุตรเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถรับตำแหน่งนี้ได้ ซึ่งลูกชายทั้งสองของนางซู จี ถือสัญชาติอังกฤษ
นอกจากนี้ การเลือกประธานาธิบดีของเมียนมาตามรัฐธรรมนูญปี 2008 ยังซับซ้อน โดยผู้ที่จะได้เป็นประธานาธิบดีต้องได้รับการเสนอชื่อขึ้นมา 3 คน จาก 3 กลุ่ม คือ วุฒิสภา , สภาผู้แทนราษฎร และ ตัวแทนทหารที่ได้โควตาเข้ามานั่งในสภา จากนั้นจะมีการโหวตในสภา ถ้าผู้ใดชนะการโหวตก็จะได้รับตำแหน่ง "ประธานาธิบดี" ส่วนผู้ที่แพ้การโหวตอีก 2 คน จะได้รับตำแหน่ง "รองประธานาธิบดี"
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่านางซู จี จะส่งชื่อใครเป็นนตัวแทนพรรคเอ็นแอลดีเข้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี
เรียบเรียงโดยประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
บีบีซี รายงานว่า มีการคาดการณ์ว่า พรรคเอ็นแอลดีจะได้คะแนนเสียงอย่างมากในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ แม้ว่านางอองซาน ซู จี จะถูกกีดกันจากรัฐธรรมนูญเพื่อไม่ให้เป็นประธานาธิบดีในอนาคต
นายโจนาห์ ฟิชเชอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซี ประจำกรุงย่างกุ้ง รายงานว่า นางอองซานยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเธอจะมีอำนาจในการบริหารอย่างแน่นอน ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั่วไปในเมียนมาครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่เปิดเผยในรอบ 25 ปี
นางซู จี กล่าวแถลงข่าวในกรุงย่างกุ้ง วันที่ 5 พ.ย. 2558 ก่อนการเลือกตั้งว่า "ถ้าพรรคของเราชนะและเอ็นแอลดีได้จัดตั้งรัฐบาล ฉันจะอยู่เหนือประธานาธิบดี และนี่เป็นคำกล่าวที่ธรรมดามาก"
พร้อมกับกล่าวยืนยันว่า ในรัฐธรรมนูญไม่มีข้อห้ามนี้
ทั้งนี้ ในบัญญัติรัฐธรรมนูญเมียนมา ฉบับปี 2008 (Clause 58) ระบุไว้ว่า "ประธานาธิบดี ... มีฐานัดรเหนือบุคคลอื่นในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา"
นางซู จี ถูกกีดกันจากการรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี โดยระบุไว้รัฐธรรมนูญเมียนมา ฉบับปี 2008 ว่า ผู้ที่มีคู่สมรสหรือบุตรเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถรับตำแหน่งนี้ได้ ซึ่งลูกชายทั้งสองของนางซู จี ถือสัญชาติอังกฤษ
นอกจากนี้ การเลือกประธานาธิบดีของเมียนมาตามรัฐธรรมนูญปี 2008 ยังซับซ้อน โดยผู้ที่จะได้เป็นประธานาธิบดีต้องได้รับการเสนอชื่อขึ้นมา 3 คน จาก 3 กลุ่ม คือ วุฒิสภา , สภาผู้แทนราษฎร และ ตัวแทนทหารที่ได้โควตาเข้ามานั่งในสภา จากนั้นจะมีการโหวตในสภา ถ้าผู้ใดชนะการโหวตก็จะได้รับตำแหน่ง "ประธานาธิบดี" ส่วนผู้ที่แพ้การโหวตอีก 2 คน จะได้รับตำแหน่ง "รองประธานาธิบดี"
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่านางซู จี จะส่งชื่อใครเป็นนตัวแทนพรรคเอ็นแอลดีเข้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี
เรียบเรียงโดยประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น