PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สหรัฐถอนกำลังจากตุรกี

โอ๊ะโอ ตุรกีถูกตัดหางปล่อยวัดซะแล้ว... สหรัฐฯเตรียมถอนเครื่องบินรบ 12 ลำออกจากตุรกี! อกอีแป้นจะร้าว บั๊บบายนะ Erdogan
---------

ไม่รู้ว่าเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายนะนี่ลองอ่านดูนะครับ วันที่ 16 ธ.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "อะไรอยู่เบื้องหลังกรุงวอชิงตันถอนเครื่องบินรบจำนวน 12 ลำออกจากฐานทัพตุรกี?" (What’s Behind Washington Pulling 12 Fighter Jets From Turkish Base?) ส่วนรอยเตอร์สพาดหัวข่าวว่า "กองทัพสหรัฐฯกล่าวว่าจะถอนเครื่องบินรบ 12 ลำออกจากฐานทัพในตุรกี" (US military says pulls 12 fighter jets from base in Turkey)

ในสัญญาณครั้งล่าสุดของการโดดเดี่ยวตุรกีที่เพิ่มขึ้น สหรัฐฯได้ประกาศแผนการที่จะนำเครื่องบินรบจำนวน 12 ลำออกไปจากฐานทัพอากาศ Incirlik ของตุรกี

สำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียอ้างข่าวจาก Reuters ของแคนาดาว่า โฆษกกองบัญชาการยุโรปจากกองทัพสหรัฐฯได้ยืนยันว่าสหรัฐฯจะถอนเครื่องบินรบ F-15 Eagles และเครื่องบินรบ F-15E Strike Eagle จำนวน 12 ลำออกไปจากตุรกี โฆษกกล่าวว่า อากาศยานได้ปฏิบัติภารกิจชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะได้มีการย้ายเข้าไปประจำการในฐานทัพอากาศ Incirlik เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็ตาม

ตามรายงานข่าวที่มีการเปิดเผยออกมาบอกว่า เครื่องบินรบจะกลับไปที่ฐานทัพอากาศ Lakenheath ของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรในอังกฤษซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 16 ธันวาคมนี้

เมื่อต้นปีนี้ ทั้งสหรัฐฯและเยอรมันนีได้ถอนกองพันขีปนาวุธจากภาคพื้น-สู่-อากาศ (surface-to-air missile batteries) ซึ่งได้ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนของตุรกี-ซีเรียออกไปแล้ว (Patriot Missiles) [เหลือแต่สเปนเท่านั้นที่ล่าสุดบอกว่าจะคงระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot Missiles ของตนเองไว้ในตุรกีต่อไป Sputnik รายงาน - ผู้แปล]

การถอนกำลังอย่างกระทันหันสร้างความประหลาดใจขึ้นมาว่า ก่อนหน้านี้เพนตากอนได้กระตุ้นให้เหล่าพันธมิตรยุโรปใช้ฐานทัพอากาศ Incirlik เป็นฐานปฏิบัติการสำหรับแคมเปญจ์ต่อต้านขบวนการก่อการร้าย

"พวกเรากำลังอยู่ในช่วงการสนทนากันกับเหล่าพันธมิตรยุโรปของพวกเราเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของพวกเขาที่จะย้ายสถานที่ประจำการและร่วมมือกับพวกเราบนภาคพื้นดินในฐานทัพอากาศ Incirlik" พล.อ. John Allen ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในวุฒิสภาของสหรัฐฯเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

คำประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ตุรกีกำลังเผชิญหน้ากับการประนามจากนานาชาติต่อกรณียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตกเหนือน่านฟ้าของซีเรียเมื่อเดือนที่ผ่านมา (24 พฤศจิกายน 2558) เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทหารของรัสเซียเสียชีวิตสองนาย [คนหนึ่งเป็นนักบินเสียชีวิตจากการถูกยิงกลางอากาศในขณะที่กำลังโดดร่มลงมา ส่วนอีกคนหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากเข้าไปกู้ภัยให้ความช่วยเหลือนักบินที่โดดร่มลงมาจาก Su-24 โดยฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นพวก FSA - ผู้แปล]

"ผมรู้สึกเป็นกังวลใจอย่างกระทันหันว่านาโตอาจจะเห็นด้วยความบ้าระห่ำที่แสดงออกโดยตุรกี" Larry Johnson อดีตเจ้าหน้าที่ CIA และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวกับสำนักข่าว Sputnik "โชคดีที่มีรายงานออกมาจากที่ประชุมของนาโต้ซึ่งระบุว่ามีรัฐมนตรีของนาโต้หลายคนได้ถามตุรกีว่า: ในนามของพระเจ้า คุณกำลังคิดอะไรของคุณอยู่กันแน่? (What in God’s name were you thinking?)"

[ไม่อ่ะ ผมไม่เชื่อทั้งสหรัฐฯ นาโต้ และตุรกีนั่นและ พวกคุณกำลังเล่นเกมอะไรกันอยู่? ก่อนหน้านี้นาโต้ออกมาประกาศทันทีว่าอยู่ข้างตุรกี และไม่ประนามตุรกีแม้แต่น้อย พอรัสเซียบอกว่าจอกล่องดำแล้ว และจะให้นานาชาติร่วมกันพิสูจน์ด้วย งานนี้สหรัฐฯเหมือนกับนกรู้ซะงั้น และที่สำคัญเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่จอห์น แคร์รี่ และคณะเดินทางมาเยือนกรุงมอสโคว์เพียงแค่วันเดียวเอง - ผู้แปล]

รายงานข่าวกล่าวต่อไปอีกว่า ตุรกีกำลังตกที่นั่งลำบาก (Turkey is also under fire…) เนื่องจากการตัดสินใจของตนเองที่ส่งกองทัพหลายร้อยนายและรถถังเข้าไปในพื้นที่ทางภาคเหนือของอิรัค การเคลื่อนไหวที่รัฐบาลอิรัคมองว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของอิรัค

รอยเตอร์สรายงานว่า สหรัฐฯยังมีเครื่องบินโจมตี A-10 จำนวน 12 ลำและโดรนอีกจำนวนหนึ่งประจำการอยู่ที่ฐานทัพอากาศ Incirlik ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯประจำยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ว่า "คาดว่าจะมีอากาศยานของพันธมิตรที่จะปฏิบัติการจากฐานทัพอากาศ Incirlik เพิ่มมากขึ้น และจะยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้"

[ยังไงหละนี่? สหรัฐฯยุให้อียู ซึ่งประกอบด้วย ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมันเข้าร่วมในปฏิบัติการชิงซีเรีย ฝรั่งเศสไม่เดือดร้อนเรื่องฐานทัพอากาศเพราะว่ามีเรือบรรทุกเครื่องบินของตัวเองมาเองเลย ส่วนอังกฤษก็มีฐานทัพอากาศอยู่บนเกาะ Cyprus ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียอยู่แล้ว บินแป๊บเดียวเข้าน่านฟ้าของตุรีกเพื่อหลบเรด้า S-400 ของรัสเซียก็ไปโผลทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียได้ 

ส่วนเยอรมันอ้างว่าจะมาคุ้มกันให้กับเรือบรรทุกเครื่องบินของฝรั่งเศส และส่งเครื่องบินสอดแนมถ่ายภาพทางอากาศมาช่วย ก็ไปประจำการอยู่ในฐานทัพอากาศ Incirlik ของตุรกี สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรตะวันตกกลับถอนเครื่องบินรบของตนเองออกซะงั้น ประหยัดค่าใช้จ่ายดี แล้วอย่างนี้อียูจะกล้างัดกับรัสเซียในซีเรียได้รึ? ที่ซวยหนักก็คือเครื่องบินรับของตุรกีไม่กล้าขยับเข้าไปใกล้รัศมีของ S-400 ของรัสเซียในน่านฟ้าซีเรียเลยนะสิ - ผู้แปล]

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช 
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
--------------
http://sputniknews.com/military/20151216/1031862104/us-jets-leave-turkey.html
http://sputniknews.com/middleeast/20151216/1031802657/spain-turkey-sam-batteries.html
http://www.reuters.com/article/us-mideast-crisis-usa-turkey-idUSKBN0TZ2CU20151216

ไม่มีความคิดเห็น: