PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สหรัฐฯเตือนไทยต้องคืนสู่ปชต.เพื่อความสัมพันธ์อันรุ่งเรืองระหว่างสองชาติ


สหรัฐฯเตือนไทยต้องคืนสู่ปชต.เพื่อความสัมพันธ์อันรุ่งเรืองระหว่างสองชาติ

โดย: MGR Online

เอพี - ทูตระดับสูงสหรัฐฯด้านกิจการเอเชียตะวันออก บอกกับเหล่าผู้นำของไทยระหว่างหารือกันในวันพุธ(16ธ.ค.) ว่าไทยจำเป็นต้องคืนสู่ประชาธิปไตยเพื่อคืนความสัมพันธ์อันรุ่งเรืองระหว่างสองชาติที่เป็นพันธมิตรกันมาช้านาน
นายแดเนียล รัสเซลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกันฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออก พบปะกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆของไทยเมื่อวันพุธ(16ธ.ค.) ท่ามกลางความกังวลของสหรัฐฯต่อประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนภายใต้รัฐบาลทหารที่กัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ
ในรายงานของเอพีระบุว่ากองทัพไทยเข้ายึดอำนาจด้วยการก่อรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2014 และจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงอออก ขณะที่การเลือกตั้งรอบใหม่คาดหมายว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนปี 2017
"ผมมีโอกาสแบ่งปันความกังวลของเราในบางประะเด็นอย่างเฉพาะเจาะจงกับท่านนายกรัฐมนตรี" รัสเซลล์แถลงกับผู้สื่อข่าว "เขารับฟัง ผมเชื่อและจะรายงานกลับไปยังวอชิงตันว่าคำพูดของผมได้รับการรับฟังด้วยความเคารพ และแน่นอนว่าผมเองก็รับฟังด้วยความตั้งใจต่อคำอธิบายสถานการณ์ทางการเมืองของท่านนายกรัฐมนตรีและโรดแมปคืนไทยสู่ประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ของเขา"
สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างคำกล่าวของนายนายอภิชาติ ชินวรรโณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่แถลงข่าวร่วมกับนายรัสเซล ระบุว่าสองฝ่ายยังได้มีการหารือในประเด็นอื่นๆแยกกัน ซึ่งจะเปิดทางให้ทั้งสองประเทศร่วมมือกันในด้านต่างๆ ในนั้นรวมถึงด้านสาธารณสุข บรรเทาภัยหายนะและต่อสู้กับปัญหาค้ามนุษย์ พร้อมระบุว่าทั้งสองชาติพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาและปราศจากอคติยาวนานเกือบ 6 ชั่วโมง ในบรรยากาศที่เป็นมิตรและอบอุ่น 
ทั้งสองฝ่ายกล่าวว่าตามหลังการพบปะกันครั้งนี้ พวกเขาจะเดินหน้าในความพยายามกระชับความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 182 ปี แต่รัสเซลล์ย้ำว่าไทยต้องคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์ระหว่างสองฝ่าย
"ผมใส่ใจความสัมพันธ์ระหว่างเรากับไทยอย่างมาก ผมใส่ใจอย่างยิ่งต่อประเทศไทย และต้องการเดินหน้าทำงานร่วมกันและขยายความร่วมมือระหว่างเราในช่วงหลายขวบปีข้างหน้า" รัสเซลล์กล่าว "อย่างที่ผมเคยแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนแล้ว เราต้องการเห็นไทยประสบความสำเร็จ ในนั้นรวมถึงความสำเร็จในการคืนสู่ประชาธิปไตย ซึ่งจะช่วยให้เราตระหนักถึงศักยภาพแห่งความสัมพันธ์อันยอดเยี่ยมนี้มากขึ้น" เขากล่าว
ระหว่างเดินทางเยือนไทยคราวก่อนเมื่อเดือนมกราคม 2015 นายรัสเซลล์ ประณามการการจำกัดประชาธิปไตยของคณะรัฐประหารและเข้าพบกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่นาน ก่อนหน้าที่กองทัพจะขับไล่รัฐบาลของเธอ
พฤติกรรมของนายรัสเซลล์ในตอนนั้น กระพือเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าผู้สนับสนุนคณะรัฐประหาร และสื่อมวลชนไทยบางส่วนตราหน้านักการทูตอาวุโสรายนี้ว่า ""ugly American." ส่วนรัฐบาลไทยก็ประท้วง โดยบอกว่าเขาสร้างบาดแผลทางใจแก่คนไทย
การเดินทางเยือนไทยครั้งนี้ของนายรัสเซลล์ มีขึ้นขณะที่นายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตอเมริกาประจำประเทศไทย กำลังตกอยู่แก่นกลางของเสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ตามหลังออกมาตำหนิการปราบปรามผู้เห็นต่างของคณะรัฐประหาร
เอพีระบุว่าตำรวจได้รับแจ้งความจากเหล่าผู้จงรักภักดีต่อสถาบัน ที่กล่าวหานายเดวีส์ หมิ่นประมาทสถาบันพระมหากษัตริย์ ระหว่างที่เขากล่าวบรรยายเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับบทลงโทษที่ยาวนานภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ไม่มีความคิดเห็น: