PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ระหว่างสถาบัน-คนที่เรียกว่าตำรวจ เปลว สีเงิน

11122558 ระหว่าง "สถาบัน-คน" ที่เรียกตำรวจ เปลว สีเงิน
เมื่อเอ่ยชื่อ "พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์" คงรู้จักกันดี?
ท่านเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๘ และหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา
เมื่อมีคำสั่งย้ายไปประจำศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)
ท่านลาออกจากราชการตำรวจ!
เหตุลาออก ฟังที่ท่านบอกนักข่าว เพราะรู้สึกว่าการย้ายนั้นไม่เป็นธรรม ที่สำคัญ จากการทำคดีนี้ มีผลให้ข้าราชการทั้งทหาร-ตำรวจ และผู้มีอิทธิพล ตกเป็นผู้ต้องหาจำนวนมาก
และนั่นเป็นเหตุให้ทั้งตัวท่าน-ครอบครัว "ตกอยู่ในอันตราย" ด้วยถูกข่มขู่-คุกคาม หมายปองชีวิตมาตลอด
เมื่อถูกย้ายไปอยู่ชายแดนภาคใต้เช่นนี้ ก็เหมือนถูก "ส่งไปตาย"!
ท่านไม่ได้พูดคำนี้.........
แต่ความหมายทำนองนี้ และเมื่อผู้บังคับบัญชาไม่ยอมทบทวนคำสั่ง เพื่อรักษาชีวิตตัวเองและครอบครัว จึงตัดสินใจยื่นใบลาออก
ทั้งที่อายุราชการเหลืออีก ๓ ปี!
แล้วเมื่อวาน (๑๐ ธ.ค.๕๘) ก็มีข่าวใหม่ หลังได้รับอนุมัติการลาออกเรียบร้อยแล้ว ท่านพาครอบครัวไปพักผ่อนที่ออสเตรเลีย
ที่นั่น ท่านให้สัมภาษณ์นักข่าวโทรทัศน์ ABC ของออสเตรเลีย ว่าจะไม่กลับมาไทยแล้ว
จะยื่นขอลี้ภัยทางการเมืองต่อรัฐบาลออสเตรเลีย หวังลงหลักปักครอบครัวอยู่ออสเตรเลียเลย!
เหตุผลคือ..........
"กลัวตาย" จากการ "เอาคืน" ของแก๊งค้ามนุษย์!
นักข่าวถาม ในฐานะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีโรฮีนจา ถึงวันศาลนัด จะกลับไปขึ้นศาลมั้ย?
ท่านตอบ...ไม่!
ครับ...สรุปเรื่องราวก็จบตรงนี้ ความจริง เรื่อง พล.ต.ต.ปวีณนี้ ผมเห็นใจ แอบให้กำลังใจท่านแต่แรก ด้วยเข้าใจความรู้สึก ทั้ง ๒ ประเด็น
คือประเด็น "ทำความชอบ ผู้บังคับบัญชากลับย้ายไปประจำชายแดนเป็นรางวัลตอบแทน"
กับประเด็น ตัวเองและครอบครัว ถูกข่มขู่-คุกคามเอาชีวิต จากการทำหน้าที่พนักงานสอบสวนตงฉิน แต่ผู้บังคับบัญชากลับไม่อินังขังขอบ
เป็นใคร....ใครก็น้อยใจเป็นธรรมดา!
แต่มาฟังเมื่อวาน ทำให้ต้องนั่งทบทวนอะไรบางอย่าง?
ตอนแรก บอก...ลาออกแล้ว จะพาครอบครัวไปพักผ่อนต่างประเทศสักระยะ
แต่วันนี้ บอกจะขอลี้ภัยการเมืองอยู่ต่างประเทศเลย ไม่กลับมาไทยแล้ว?
สรุป...
ผมชักไม่แน่ใจ "พล.ต.ต.ปวีณ" ต้องการอะไรกันแน่?
ดูประวัติแล้ว ท่าน "เลือดตำรวจ" ร้อยเปอร์เซ็นต์ คือจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ที่สามพราน โดยตรง
พูดที่ไหน...ใครจะเชื่อ ถ้าคนกลัวตาย กลัวโจร กลัวอิทธิพล ก็ต้องไปสอบเข้าโรงเรียนเย็บปักถักร้อย
แต่นี่ พล.ต.ต.ปวีณ กลับสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งใครก็รู้ นอกจากต้องแข่งขันกันชนิดเลือดตากระเด็นแล้ว
ใจต้องรัก..ใจต้องรู้ ว่าตำรวจนั้น เมื่อเข้าไปเป็นแล้ว ด้วยภาระ-หน้าที่อันเป็นจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ต้องเจออะไรบ้าง?
"อำนาจ-โจร-ปืน-ในกฎหมาย-เหนือกฎหมาย-ตาย-อยู่-ไม่มึงก็กู...ต้องไปกันข้าง"
ถ้า "ตำรวจ-ทหาร" บอก.....กลัวตาย
ผมว่า "เรื่องใหญ่" กว่าระเบิดลงกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกองทัพบกอีก!
ชีวิตทหาร-ตำรวจ เมื่อผู้บังคับบัญชาย้ายไปอยู่ในที่ไม่ถูกใจ เสี่ยงภัย-เสี่ยงอันตราย บ้านไร่-ปลายแดน ต่อรองไม่ได้ ก็พากันลาออก
แล้วแบบนี้......
ประเทศชาติ จะมีกองทัพ-กองตำรวจไว้เพื่ออะไร?
มนุษย์ทุกคน นอกจากพระอรหันต์แล้ว มีใครรู้ "ที่ตาย" ตัวเองบ้าง?
พล.ต.ต.ปวีณ รู้ได้อย่างไรว่า ย้ายไปประจำศูนย์ชายแดนภาคใต้แล้วต้องตาย อยู่ที่อื่น ที่ไม่ใช่ชายแดนใต้ แล้วจะไม่ตาย
อย่างขอลี้ภัยอยู่ออสเตรเลีย........
สมมุติแก๊งค้ามนุษย์จะ "เอาคืน" จริงๆ ท่านมั่นใจได้อย่างไรว่า อยู่ออสซี่แล้วปลอดภัย มันมาเอาคืนไม่ได้?
ด้วยแนวคิดตามทัศนคติท่าน ทำคดีไหนตงฉิน เอาคนมีสี-มีเส้น-มีเงิน-มีอิทธิพลเข้าคุกแล้ว ชีวิตจะไม่ปลอดภัย
แบบนี้...ตำรวจทั้งฝ่ายปราบและฝ่ายสอบสวนอีกครึ่ง-ค่อนสถาบันวันนี้ก็ไม่มีใครปลอดภัยแล้ว ต่างตกอยู่ใต้การข่มขู่-คุกคามพวกโจรทั้งนั้น
แล้วจะทำยังไงดี........!
ในเมื่อตำรวจกลัวโจรซะแล้ว ผมก็ยังคิดวิธีแก้ไม่ตก หรือต้องพากันลาออก แล้วขอลี้ภัยโจร ไปอยู่ต่างประเทศกันให้หมด?
ชีวิตข้าราชการ ไม่ว่าข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ.....
คำว่า "ไม่เป็นธรรม" มันคู่กับคำว่า "ถูกย้าย" มาตั้งแต่พระเจ้าชักกระดูกซี่โครงอดัมไปปั้นเป็นอีฟโน่นแล้ว!
ใครที่คิดว่าโลกนี้มีความเป็นธรรม หรือไม่มีความเป็นธรรม ขอให้รู้ไว้นั่น...คิดนั้นก็ไม่เป็นธรรม
ทุกวงการ ทุกคน ทุกหน่วยงาน ถ้าคิดหาเหตุผลในการย้าย ก่อนจะหา... ต้องรู้จักด้วยเข้าใจคำว่า "หน้าที่" ในงานที่ตัวเองอาสาเข้ามาก่อน
หา-ด้วยเข้าใจภาระ-หน้าที่พบ ก็จะพบเหตุและผลในการย้าย
เมื่อพบแล้ว.......
บั้นปลายของการย้าย ก็จะเข้าใจเองในคำว่า "เป็นธรรม-ไม่เป็นธรรม" คืออะไร!
สมัยผมเป็นนักข่าวโรงพัก พวกสารวัตรใหญ่ จำใจอดเปรี้ยวไปกินหวาน ต้องย้ายก้นไปนั่งปากแห้งในตำแหน่ง "รองผู้กำกับ"
ผู้กำกับก็เหมือนกัน ไม่มีใครอยากไปนั่งหาวในตำแหน่ง "รองผู้บังคับการ" แต่มันจำเป็น...ต้องไป
นี่คือตัวอย่าง ทุกคนในระบบรู้ จากสารวัตรใหญ่จะพรวดขึ้นผู้กำกับย่อมไม่ได้ และจากผู้กำกับระดับ พ.ต.อ.จะพรวดขึ้นเป็นผู้บังคับการ ระดับ พล.ต.ต.ก็ไม่ได้
ต้องยอมถูกย้ายไปอยู่ในที่ "ต้องจำใจ" เพื่อรอขึ้นเก้าอี้ที่ใหญ่กว่าเดิมกันแทบทั้งนั้น
พล.ต.ต.ปวีณนั้น ดูตามประวัติ ท่านเป็นนายตำรวจผลงานดีเด่นเหนือใครๆ ใน นรต.รุ่น ๓๕
และชีวิตตำรวจ เติบโตวนเวียนอยู่ในภาคใต้มาตลอด!
เนี่ย...ดูแล้ว ก่อนลาออก อยู่ในตำแหน่ง "รองผู้บัญชาการ" ถ้าอดใจไปอยู่ชายแดนใต้ซักพัก ด้วยความเจิดจ้าพิชิตคดีโรฮีนจา
อดใจซักพัก เก้าอี้ "ผู้บัญชาการ" ด้วยยศ พล.ต.ท.จะต้องมาเป็นคำตอบของคำว่า "เป็นธรรม-ไม่เป็นธรรม" ค่อนข้างแน่
แต่ในเมื่อตัดสินใจเช่นนี้ ก็ต้องเคารพการตัดสินใจท่าน แต่ที่บอก...จะไม่มาทำหน้าที่ในศาล ในคดีโรฮีนจาที่ท่านเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนนั้น
อืมมมมม....!?
เอาล่ะ...ถึงยังไงผมยังให้เกียรติที่จะไม่เชื่อตามที่ท่านย้ำ "กลัวโจร" ถึงขั้นลาออก หนีตายขอลี้ภัยไปอยู่นอกประเทศ
แต่ถ้ามี "ตำรวจกลัวโจร" จริงๆ ล่ะก็ ผมอยากขอเพิ่มเติม
ขอให้ตำรวจ "กลัวบาป" บ้าง บุญจะได้มีตกถึงประชาชน!
ไหนๆ ท่านก็ลาออก ไปดี-ลี้ภัยรอดแล้ว........
แต่สถาบันตำรวจยังอยู่ ตำรวจอีกหลายแสนนาย ยังต้องเป็น "งูเห่า-พังพอน" กับสุจริตชนและทุจริตชนอีกนานแสนนาน
เห็นแก่รูปปั้น "ตำรวจอุ้มประชาชน" หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเถอะ หยุดให้สัมภาษณ์หรือบอกใครต่อใครว่า...ที่ลาออก ที่ต้องขอลี้ภัย
เพราะเป็นตำรวจ "กลัวตาย"
เพราะถูกย้ายไปอยู่ ๓ จว.ใต้...กลัวแก๊งค้ามนุษย์เอาคืนเลย!
ผมอยากให้ "ความทรงจำดีๆ" ของผม ที่มีต่อตัวอ่าน สวยงามอยู่ตลอดไป
ไม่อยากเห็น-ไม่อยากได้ยินท่านพูดด้านร้ายกับสถาบันที่ท่านเลือกเข้าไปอยู่-เข้าไปเป็นเองแต่แรก
เพราะอย่างน้อย "สถาบันตำรวจ" ก็สถาบันของชาติ
สถาบันไม่เคยชั่ว ไม่เคยเลว ไม่เคยอคติ-ลำเอียง ยุติธรรม-อยุติธรรมกับตำรวจหรือประชาชนคนไหน
มีแต่คนที่เข้าไปอาศัย-ไปแฝงสถาบันตำรวจในเครื่องแบบ "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" บางคน-บางพวกนั่นแหละ
มันชั่ว-มันเลว บางคน เป็นใบบัว "บังโจร"!
ก็หวังท่านอยู่จะได้ช่วยพยุงบ้าง แต่เมื่อตัดช่องน้อย ผมก็พลอยเศร้าครับ.

ไม่มีความคิดเห็น: