PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

สหรัฐป่วนม็อบประท้วง2ชายผิวสีถูกตร.ฆ่าบานปลายมือปืนซุ่มยิง11ตำรวจดับ5เจ็บ6

       สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเกิดเหตุการณ์ประท้วงขึ้นที่ ย่านดาวน์ทาวน์ดัลลัส รัฐเทกซัส สหรัฐฯอเมริกา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าเกิดกลุ่มผู้ประท้วงไม่พอใจจากกรณี การเสียชีวิตของ 2 แอฟริกันอเมริกัน บาตัน โรก(Baton Rouge) ในรัฐลุยเซียนา และฟิแลนโด แคสทิล( Philando Castile) ในรัฐมิเนโซตา ที่เสียชีวิตด้วยฝีมือของตำรวจสหรัฐฯภายในสัปดาห์นี้
       โดยในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์วุ่นวายอยู่นั้นได้มีการยิงประทะกันหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มมือปืนสไนเปอร์ซึ่งหลังจากเกิดการยิงปะทะพบตำรวจ 11นายถูกยิง มี 5 นายเสียชีวิต บาดเจ็บ 6 คน รายงานระบุว่า หัวหน้าตำรวจดัลลัส ได้แถลงว่า เชื่อว่ามีผู้ก่อเหตุ 4 คนโดยพบว่ามีมือปืนสไนเปอร์อย่างน้อย 2 คนซุ่มยิงตำรวจดัลลัส โดยมือปืนยิงลงมาจากตึกลานจอดรถย่าน เอล เซนโตร (El Centro)  ซึ่ง 1 ใน 5 ของนายตำรวจดัลลัสที่เสียชีวิตคือ เบรนต์ ธอมสัน(Brent Thompson) เป็นตำรวจประจำรถไฟเมโทรดัลลัส DART วัย 43 ปี และส่วนอีก 4 นายที่เสียชีวิตในขณะปฎิบัติหน้าที่ล้วนมาจากสถานีตำรวจดัลลัสทั้งสิ้น
       ด้านตำรวจเชื่อว่ากลุ่มปฎิบัติการมีอย่างน้อย 4 คน ซึ่ง 3 คนถูกควบคุมตัวไว้แล้ว และ 1 ที่เหลือยังเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการเจรจาบริเวณชั้น 2 ของตัวตึกลานจอดรถ โดยรอยเตอร์ระบุว่า เป็นมือสไนเปอร์รายที่ 2 ที่แยกซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นมีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า เหตุการณ์ได้สงบลงแล้ว

//////
เมืองดัลลัสสหรัฐฯตึงเครียด ม็อบประท้วงตำรวจยิง 2 ชายผิวสีบานปลาย มือลึกลับใช้สไนเปอร์ซุ่มยิงตำรวจคุมฝูงชนดับ 4  เจ็บ 7 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์การชุมนุมของ ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส สหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่  ชายอเมริกันผิวสี 2 คนซึ่งถูกตำรวจยิงและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ว่า การประท้วงทวีความรุนแรง เมื่อมีตำรวจควบคุมฝูงชนถูกยิงถึง 11 นาย ในจำนวนนี้ เสียชีวิตแล้ว 4 นาย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจเมืองดัลลัส คาดว่า เป็นฝีมือของสไนเปอร์หรือนักแม่นปืน 2 คน ที่คอยแอบซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย สำนักงานตำรวจในเมืองดัลลัส ได้ทวีตข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ภาพของชาย ซึ่งถูกต้องสงสัยว่าเป็นสไนเปอร์คนหนึ่งที่แอบส่องยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และระบุว่า นี่คือหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ยิงตำรวจ

ชาวอเมริกันในหลายรัฐได้ลุกฮือออกมาประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ นายสเตอร์ริง ชายผิวสี วัย 37 ปี ซึ่งถูกตำรวจ 2 นายยิงเสียชีวิตที่เมืองบาตัน รูจ รัฐลุยเซียนา เมื่อวันอังคารที่ 5 ก.ค. และนายคาสไทล์วัย 32 ปี ในเมืองเซนต์ ปอล รัฐมินเนสโซตา ที่ถูกตำรวจลากตัวเขาลงมาจากรถและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่งเสียชีวิตในที่สุดเมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ชุมนุมถือป้ายเรียกร้องให้ตำรวจหยุดการ‘วิสามัญฆาตกรรม’

ขณะที่ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ จำเป็นจะตัองปฏิรูปตนเองโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ได้เสนอการไว้อาลัยต่อครอบครัวผู้ขับขี่รถยนต์ผิวดำที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐมินนิโซตาสังหารชีวิต และกล่าวว่า สหรัฐฯ ได้กลายเป็นประเทศที่เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้หลายครั้งแล้ว
///////////

มีรายงานว่า สหรัฐกำลังเกิดวิกฤตการเลือกปฏิบัติต่อคนเพราะสีผิวอย่างต่อเนื่องต่อไป Alton Sterling และ Philando Castile จากรัฐ Louisiana และ Minnesota เป็น “ผิวดำ” สองคนที่ถูกตำรวจยิงตายโดยไม่มีเหตุผลชัดเจนภายในเวลาสองวัน

อัลทอนเป็นพ่อค้าขายซีดี มีใบอนุญาต เขายืนขายหน้าร้านสะดวกซื้อของคุณ Abdullah Muflahi เป็นประจำ เช้าวันอังคาร จู่ ๆ ตำรวจบุกเข้ามาชาร์จ กระแทกเขากับกระโปรงรถ คร่อมที่ขาคน คร่อมส่วนบนคน ลั่นไก 4 หรือ 6 นัดจนเสียชีวิตคาที่ ตำรวจอ้างภายหลังว่าได้รับแจ้งว่า อัลทอนเอาปืนขู่ใครบางคน แต่เจ้าของร้านซึ่งเป็นมุสลิมด้วยบอกว่าไม่เห็นอัลทอนทะเลาะกับใครก่อนหน้านั้น เขารู้จักอัลทอนดีและอนุญาตให้ยืนขายซีดีหน้าร้านของเขาได้ อัลทอนมีปืนในกระเปา แต่ไม่ได้ชักออกมา ท่าทางตำรวจก็ไม่ทราบว่าเขามีปืนในกระเป๋า (ตามที่คุณอับดุลเลาะห์บอก)

ส่วนกรณีของคุณฟิแลนโด โดนตำรวจทางหลวงโบกจอด ระหว่างที่เขาล้วงมือเข้ากระเป๋าจะเอาใบขับขี่ให้ดู ตำรวจคิดว่าจะล้วงปืนยิงใส่ 5 นัดตามที่เมียเขาบอก เสียชีวิตในภายหลัง แต่ระหว่างนั้นตำรวจยังถือปืนขู่เมียเขา ซึ่งมีลูกสี่ขวบนั่งด้านหลัง เมียเขา facebook live เป็นหลักฐานให้ชาวโลกเห็น ตำรวจยังปฏิบัติต่อเมียเขาราวกับเป็นอาชญากรร้ายแรง ทั้ง ๆ ที่ลูกเขาก็นั่งอยู่หลังรถนั่นแหละ

ทั้งสองคนเป็นติ่งเล็ก ๆ ของประชาชนพันกว่าคนที่ถูกตำรวจอเมริกันยิงตายในแต่ละปี หนึ่งในสามเป็นผิวดำ 97% ของตำรวจเหล่านี้ไม่ถูกดำเนินคดี นี่เกิดในยุคที่คนอเมริกันมีปธน.เป็นผิวดำด้วย น่าเศร้าใจมาก โอบามาบอกว่า “This is not just a black issue, not just a Hispanic issue. This is an American issue.” มันเป็น “ปัญหาของคนอเมริกันโดยรวม”

http://www.bbc.com/news/world-us-canada-36732908

ไม่มีความคิดเห็น: