PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

"เอ็นจีโอ แฉความมั่งคั่งตระกูล "ฮุน เซน"

เรื่องโดย Nation TV |
7 กรกฎาคม 2559 15:14 น.

เผยรายงานการสอบสวนของ "Global Witness" พบว่า ตระกูลฮุน เซน กอบโกยความมั่งคั่งของประเทศ ด้วยการเข้าไปมีเอี่ยวในทุกภาคส่วนของธุรกิจเกือบทั้งหมด"


"หนังสือพิมพ์พนมเปญ โพสต์ รายงานอ้างการสืบสวนของ "Global Witness" ที่มีชื่อว่าHostile Takeover: The Corporate Empire of Cambodia's Ruling Family ที่ระบุว่าครอบครัวของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เย้ยกฎหมายของประเทศ สร้างอาณาจักรธุรกิจ มีทรัพย์สินมหาศาลจากการถือครองหุ้นในบริษัทในประเทศอย่างน้อย 114 แห่ง อยู่ในภาคส่วนสำคัญ 18 แห่ง รวมทั้งพลังงาน, เทเลคอมส์, และเหมืองแร่ และยังพบว่า ในจำนวนนี้ 103 แห่ง สมาชิกในครอบครัวฮุน เซน ดำรงตำแหน่งประธาน ผู้อำนวยการหรือไม่ก็ถือหุ้นมากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์รายงานนี้ ถูกระบุว่า เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็ง และเชื่อว่ามีการใช้ตัวแทนเพื่อปกปิดขนาดของอาณาจักรธุรกิจและความมั่งคั่งของคนในครอบครัว และยังมีอิทธิพลเหนือภาครัฐและเอกชนจนแทบจะคุมประเทศไว้ทั้งหมดแล้วโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ที่แม้จะรู้ดีว่าจำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎระเบียบของภาคเอกชน แต่ก็บอกว่า ถึงแม้จะไม่ดีพร้อม แต่ตอนนี้กัมพูชาเป็นตลาดเสรี ที่ใครที่มีเงินก็สามารถมาลงทุนได้ ไม่จำเป็นว่าพวกเขาจะเป็นใคร


เมื่อปี 2554 ฮุน เซน ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินภายใต้กฎหมายต่อต้านการคอรัปชั่นฉบับใหม่ว่า เขามีรายได้ทางเดียว คือเงินเดือนๆ ละ 1,150 ดอลล่าร์ หรือราว 40,000 บาท lobal Witness บอกด้วยว่า ครอบครัวนี้ยังเกี่ยวข้องกับบริษัทข้ามชาติ จนได้รับสมญาว่า "ยามเฝ้าประตูรายใหญ่" โดยไม่ว่าจะเป็น แอ๊ปเปิล, แคนนอน, แอลจีอิเล็คทรอนิกส์, เลโนโว, โนเกีย, อิเล็คโทรลักซ์และไพโอเนียร์ ล้วนต้องผ่านด่านครอบครัวนี้ ส่วนเนส กาแฟ โกลด์, กระดาษชำระคลีเน็กซ์ และถุงยางอนามัยดูเร็กซ์ ถูกระบุว่านำเข้าผ่านบริษัทของน้องสาวฮุน เซน ซึ่งเป็นประธานบริษัทที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษให้จำหน่ายวิสกี้ จอห์นนี่ วอล์คเกอร์, เฮนเนสซี่ คอนญัคและเบียร์โคโรนาเป็นที่รู้กันดีว่า ฮุน เซน รวบอำนาจการบริหารประเทศ ผ่านยุทธศาสตร์การแต่งงาน,ผลประโยชน์ทางธุรกิจ และตำแหน่งวงราชการ โดยนอกจากจะมีพวกที่ถือหุ้นในบริษัทรายใหญ่แล้ว ก็ยังพวกที่รับราชการ รวมทั้าง ฮุน มานิต ลูกชายคนกลางที่เป็นนายพลกุมบังเหียนหน่วยข่าวกรอง ส่วนลูกเขย 1 คน คือ ดี วิเจีย เป็นตำรวจและยิม เลียง เป็นนายพลของกองทัพบก
"
อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/foreign/378508240/

ไม่มีความคิดเห็น: