PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ทบ.เฝ้าระวังกลุ่มเห็นต่างนำอาวุธที่หายไปช่วงชุมนุมทางการเมืองกลับมาก่อความรุนแรงอีก

ทบ.เฝ้าระวังกลุ่มเห็นต่างนำอาวุธที่หายไปช่วงชุมนุมทางการเมืองกลับมาก่อความรุนแรงอีก
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกองทัพยังคงตามหาอาวุธ อุปกรณ์และยานพาหนะของกองทัพบกที่ถูกยึดและทำให้เสียหายจากเหตุชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา โดยเกรงว่าจะมี “กลุ่มเห็นต่าง” นำอาวุธเหล่านั้นกลับมาก่อความรุนแรงขึ้นอีก ด้าน ผบ.ทบ.เผยการข่าวแจ้งเตือนว่ากลุ่มเห็นต่างยังพยายามใช้ความรุนแรงอยู่
สำนักข่าวไทยรายงานว่า พ.อ.วินธัยเน้นย้ำถึงการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 ที่พบว่ามีการใช้ความรุนแรงของมวลชนและแนวร่วมบางส่วนอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในปีนั้นมีอาวุธปืนของทางราชการหายไป 86 กระบอก แต่ได้คืน 29 กระบอก เช่น จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า มีอาวุธปืนเล็กยาวแบบทราวอร์ หายไป 12 กระบอก นำคืนมาได้ 10 กระบอก เหตุการณ์ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีปืนเล็กยาวแบบทราวอร์หายไป 13 กระบอก ได้คืน 3 กระบอก ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังติดตามและดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่
พ.อ.วินธัย ยังกล่าวถึงความรุนแรงทางการเมืองช่วงปี 2556-2557 ว่ามีบริบทที่แตกต่างกับเมื่อปี 2553 โดยในช่วงปี 2556-2557 เป้าหมายการใช้ความรุนแรงมักเกิดเฉพาะกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุม กับกลุ่ม คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เป็นหลักเท่านั้น สถานการณ์ความรุนแรงอื่น ๆ จะไม่ค่อยปรากฏ ขณะที่ภาพรวมในการดูแลความสงบจะแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ และพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง โดยไม่ได้แยกปฏิบัติว่าเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กปปส.
ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความเป็นห่วงการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงตั้งแต่ปี 2553 เนื่องจากทางการข่าวแจ้งเตือนตลอดว่ามีกลุ่มที่เห็นต่างพยายามใช้ความรุนแรง ซึ่งอาวุธของกองทัพที่ยังไม่ได้คืนมีจำนวนมาก และไม่ทราบว่าอยู่ไหนบ้าง แต่จะพยายามติดตามอาวุธที่หายไปกลับมาให้ได้โดยเร็ว #Thaipoliticalcrisis

ไม่มีความคิดเห็น: