PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

“อภิสิทธิ์"ชี้การตรวจสอบน้องชายนายกรัฐมนตรี จะเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ ป.ป.ช.

“อภิสิทธิ์"ชี้การตรวจสอบน้องชายนายกรัฐมนตรี จะเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ ป.ป.ช.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับบีบีซีไทย ถึงการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในช่วงเวลานี้ว่า ปัจจุบันมีกฎหมายที่ตราขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือในการปราบทุจริต อย่างไรก็ดียังต้องจับตาดูว่าการบังคับใช้กฎหมายจะเป็นไปตามเป้าหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะต้องมีบทบาทนำในการปราบปรามการทุจริตโดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับน้องชายนายกรัฐมนตรีที่กำลังเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์ในขณะนี้
นายอภิสิทธิ์ บอกกับบีบีซีไทยว่า ปัญหาในการปราบทุจริตที่ผ่านมาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย และความพยายามในการทำให้การปราบทุจริตเป็นไปตามเป้าหมาย เขายกตัวอย่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ ที่ตราขึ้นเพื่อปิดช่องว่างในการให้สินบน แต่เวลาผ่านมาแล้วปีเศษ ยังไม่มีหน่วยงานใดที่เปลี่ยนแปลงการขออนุญาต เนื่องจากไม่มีการติดตามดูว่าหน่วยงานต่าง ๆ ได้ออกคู่มือในการปฏิบัติตามกฎหมายนี้อย่างไร หรือกรณีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่ตราขึ้นแล้ว แต่ยังไม่มีการออกพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ตามมา ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าสิ่งที่สำคัญในเวลานี้คือหน่วยงานอย่างคณะป.ป.ช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องมีบทบาทสำคัญในการดูแลเรื่องนี้ โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ทั้งน้องชาย และหลานชาย ที่ถูกกล่าวหาว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับโครงการฝายผ่องพรรณพัฒนา ซึ่งจะต้องพิสูจน์ตัวเองว่าทำงานได้อย่างเที่ยงตรง ตรงไปตรงมา สามารถอธิบายได้
"การตรวจสอบคนในชาติส่วนอื่นไม่ยากเท่ากับการจัดการในส่วนนี้ จะพิสูจน์ได้ว่าการปราบทุจริตทำได้จริงจังแค่ไหน และต้องตอบสังคมให้ได้ว่า ผิดกฎหมาย ผิดระเบียบ หรือไม่ผิดอย่างไร แต่เรื่องที่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่นั้น คงไม่ต้องพูดถึง เพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
สำหรับข้อเสนอที่จะเปลี่ยนแปลงกรรมการองค์กรอิสระ รวมทั้ง ป.ป.ช.ใหม่นั้น นายอภิสิทธิ์ ยังยืนยันว่า หากจะดำเนินการจะต้องมีเหตุผลชี้ชัดว่าบกพร่องหรือไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับโครงสร้างใหม่ได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ไม่เช่นนั้นจะโดนกล่าวหาได้ว่า เป็นความพยายามที่จะนำคนของตัวเองเข้าไปทำหน้าที่แทน

ไม่มีความคิดเห็น: