PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

ต้องกู้สถานการณ์ด่วน:ไทยรัฐน.3

ชั่วโมงสั้นๆที่ทำให้คนไทยรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว

ในการส่งแรงใจลุ้นและเชียร์ “น้องน้ำตาล” ชลิตา ส่วนเสน่ห์ สาวงามจากประเทศไทย บนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อช่วงสายของวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา

แม้จะพลาดหวังคว้าตำแหน่งผู้หญิงสวยสุดในจักรวาลปีนี้ไป แต่น้อง “น้ำตาล” ก็สร้างความประทับใจและความภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งชาติ

โดยเฉพาะช็อตสำคัญการตอบคำถามในรอบ 6 คนสุดท้าย ที่พิธีกรถามว่า ผู้นำโลกคนไหนในอดีตหรือปัจจุบันที่คุณชื่นชอบหรือเคารพ เพราะอะไร ซึ่งสาวงามตัวแทนจากประเทศไทยตอบมาจากส่วนลึกของใจ โดยไม่ต้องคิดนานเลยว่า

“คนนั้นก็คือ ในหลวงของดิฉันค่ะ ตั้งแต่ดิฉันเกิดมาก็เห็นพระองค์ทรงงานหนักมาตลอด ทรงไม่เคยบ่นแม้แต่น้อย และพระองค์ท่านก็เปรียบเสมือนพ่อของทุกคนในประเทศไทยค่ะ”

ได้ใจคนไทยทั้งประเทศ ได้รับรู้กันไปทั่วโลก

นับเป็นความสวยงาม เกียรติภูมิของไทยที่ผู้หญิงตัวเล็กๆทำให้ปรากฏในเวทีสำคัญ

ในบรรยากาศหักมุมกันเลยกับสถานการณ์ที่ต้องรีบกู้เครดิตประเทศไทยจากภาพ “แลนด์ ออฟ คอร์รัปชัน”

เชื้อชั่ว “โกง” ลามลึกจนเข้าขั้นโคม่า

ตามอาการแบบที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. ต้องเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ที่เป็นคณะกรรมการชุดย่อย “มินิคาบิเนต” ของคณะกรรมการบริหาราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)
เพื่อหารือเรื่องการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน
ภายหลังจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ให้คะแนนไทยตกรูดไปอยู่ในอันดับที่ 101 จากเดิมอันดับที่ 76
ในจังหวะกระแส “สินบนข้ามชาติ” ประจานซ้ำ
โดยการแฉจากหน่วยงานปราบทุจริตในอังกฤษและสหรัฐอเมริกาที่ปล่อยข้อมูลฉาวๆในการจัดซื้อเครื่องยนต์โรลส์รอยซ์ที่โยงกับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และเอี่ยวกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ต่อเนื่องถึงการจัดซื้อสายเคเบิลไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง
ล้วนแต่รัฐวิสาหกิจยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย ระบบธรรมาภิบาลพังไม่เหลือ
และตามกระแสไหลลามไม่หยุด ล่าสุดปมสินบนข้ามชาติถูกเปิดโปงไปถึงโครงการจัดซื้อกล้องซีซีทีวีในรัฐสภาของไทย
เจาะถึงจุดศูนย์กลางอำนาจนิติบัญญัติเลย
โดยรูปการณ์ “คอร์รัปชัน” กระทบเครดิตประเทศไทยในสายตาของนักลงทุนทั้งในและต่างชาติ สั่นสะเทือนระบบเศรษฐกิจของประเทศที่วันนี้ก็แทบไม่มีปัจจัยบวกเหลืออยู่แล้ว
แนวโน้มแบบที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ พยายามอธิบายถึงปรากฏการณ์อันดับความโปร่งใสของไทยที่ร่วงลงไปอยู่อันดับที่ 101 เป็นเพราะบางอันดับเป็นตัวเลขที่เกาะกลุ่มกัน
แต่คะแนนดิบจริงๆของไทยลดไปแค่ 3 แต้มเท่านั้น
มันก็เป็นอะไรที่น่าเห็นใจ เพราะไม่มีคำอธิบายที่ดีกว่านี้
นายสมคิดต้องฝืนมองโลกในแง่ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คอร์รัปชันมันสะเทือน ไม่อย่างนั้น “นายกฯลุงตู่” คงไม่ต้องเรียกประชุมด่วนมินิคาบิเนตกู้สถานการณ์
นั่นก็เพราะมันจะพาลฉุดงานด้านอื่นไปหมด
ตามจังหวะ “ขนมผสมน้ำยา” แม้ประเด็นสินบนข้ามชาติจะเป็นเรื่องเก่าค้างปี คาบโยงรัฐบาลในอดีตมาหลายยุคหลายสมัย แต่มันมาโยงพอดีกับบรรยากาศห้วงอำนาจพิเศษที่องค์กรระดับโลกตั้งแง่การตรวจสอบที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ อย่างที่เห็นการปิดกั้นฝ่ายต่อต้านการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา
อันดับคอร์รัปชันในประเทศไทยเลยตกฮวบฮาบ
แม้ผู้นำรัฐบาล คสช.อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ที่ “หัวไม่ส่าย” พร้อมประกาศให้ปี 2560 เป็นปีแห่งการปฏิรูป แถมยังยึดเอาตามคำทำนายโหรว่า เป็นศักราชแห่งการโชว์ความโปร่งใส
แต่ก็ยังไม่มีน้ำหนักมากพอทำให้องค์กรตรวจโกงโลกเชื่อใจ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: