PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

ทรัมป์ไล่ออกอัยการขวางห้ามมุสลิม7ชาติเข้าปท.:

(Jan 31) ทรัมป์ไล่ออกอัยการขวางห้ามมุสลิม7ชาติเข้าปท.: "ประธานาธิบดีสหรัฐ" สั่งปลดอัยการหลังเธอตั้งคำถามเกี่ยวกับ "ความชอบธรรม" ของมาตรการระงับเข้าเมืองของพลเมืองมุสลิม 7 ประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่าทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีคำสั่งให้ปลดนางแซลลี เยตส์ ออกจากตำแหน่อัยการ และแต่งตั้งนายดานา โบเอนเต อัยการเขตตะวันออกของรัฐเวอร์จิเนีย ให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่งดังกล่าวไปก่อน

เนื้อหาในแถลงการณ์ของทำเนียบขาวตำหนิเยตส์อย่างหนัก ว่า "อ่อนด้อย" ในการมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการควบคุมพรมแดน และ "ยิ่งไร้ประสิทธิภาพ" ในนโยบายด้านการจัดการผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังวิจารณ์การที่บรรดาวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครตยังคงใช้เทคนิคการอภิปรายประวิงเวลา เพื่อชะลอการลงมติรับรอง นายเจฟฟ์ เซสชันส์ ว่าที่รมว.กระทรวงยุติธรรม

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของผู้นำสหรัฐมีขึ้น หลังเยตส์วัย 56 ปี ข้าราชการอาวุโสซึ่งเป็นสมาชิกของพรรคเดโมแครต และเพิ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่ง รมว.กระทรวงยุติธรรมได้เพียง 10 วันเท่านั้น ส่งหนังสือเวียนภายในกระทรวง ระบุถึง "ความสงสัย" ต่อความชอบธรรมทางกฎหมายของการที่ทรัมป์ใช้อำนาจพิเศษสั่งระงับการออกวีซ่าเป็นเวลา 90 วันให้แก่พลเมืองของ 7 ประเทศ จากอิหร่าน อิรัก ลิเบีย ซีเรีย เยเมน โซมาเลีย และซูดาน อีกทั้งยังระงับนโยบายตั้งถิ่นฐานถาวรให้แก่ผู้ลี้ภัย 120 วัน และปฏิเสธชาวซีเรีย "อย่างไม่มีกำหนด" โดยเยตส์กล่าวด้วยว่า ตราบใดที่เธอยังอยู่ในตำแหน่งรักษาการอัยการสูงสุด กระทรวงยุติธรรมจะไม่แก้ต่าง หากมีการร้องเรียนให้ศาลพิจารณาอำนาจสูงสุดของประธานาธิบดีในเรื่องนี้

อนึ่ง การที่ผู้นำสหรัฐสั่งปลดเยตส์ออกจากตำแหน่ง ทำให้หลายฝ่ายนึกย้อนไปถึงกรณีที่ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน จากพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกับทรัมป์ สั่งปลดอัยการพิเศษซึ่งเป็นหัวหน้าทีมสืบสวน "คดีวอเตอร์เกต" ที่นำไปสู่การที่สภาคองเกรสลงมติถอดถอนนิกสันออกจากตำแหน่ง เมื่อปี 2517

ไม่มีความคิดเห็น: