PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ข่าว3/2/60

เคลื่อนไหวทหาร/ปฏิวัติ

คสช. เชื่อสังคมไม่กังวล วอชิงตัน โพสต์ นำเสนอรายงานห่วงไทยปฏิวัติซ้อน ชี้เป็นเพียงการประเมินทางสถิติ - เร่งช่วยเหลือฟื้นฟูประชาชนภาคใต้หลังน้ำลด

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยกับ ถึง กรณีที่ วอชิงตัน โพสต์ สื่อของสหรัฐอเมริกา มีการเปิดเผยรายงานการจัดอันดับประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดรัฐประหารในปี 2560 ซึ่งประเทศไทยมีความเสี่ยงสูงเป็นอันดับที่ 2 ว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงการประเมินทางด้านสถิติเท่านั้น ซึ่งขณะนี้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย และไม่มีปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบให้มีการเกิดรัฐประหารขึ้น เชื่อว่าไม่ทำให้สังคมเกิดความกังวลแต่อย่างใด และมั่นใจว่าประชาชนมีความเข้าใจต่อสถานการณ์ในประเทศเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ พ.อ.วินธัย กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ว่า ทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ของกองทัพภาคที่ 4 ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมฟื้นฟูพื้นที่ต่าง ๆ หลังน้ำลดแล้ว
----
ผบ.ทบ.เป็นประธานพิธีวันสถาปนา นรด. ครบรอบปีที่ 69 พร้อมมอบแหนบทองคำให้กับผู้บังคับกองผสม

พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานพิธีวันสถาปนาหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) ครบรอบปีที่ 69 โดยมีพล.ท.วีระชัย อินทุโสภณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ เมื่อผู้บัญชาการทหารบก เดินทางมาถึง ได้ขึ้นแท่นรับการเคารพจากทหารแถวต้อนรับ จากนั้นวางพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และเป็นประธานในพิธีสงฆ์ โดยมีท่านเจ้าคุณธงชัย” หรือ พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมฺมธโช) ผู้ช่วยท่านเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ซึ่งในโอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารบก จะเป็นผู้มอบแหนบทองคำให้กับ ผู้บังคับกองผสม และมอบโล่ ให้กับผู้บังคับกองสวนสนาม 4 กรม

อย่างไรก็ตาม หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ได้ก่อตั้งขึ้นโดยมีภารกิจเป็นฝ่ายกิจการพิเศษ กองทัพบก ปฏิบัติงานด้านกิจการกำลังพลสำรอง รวมทั้งยังเป็นหน่วยงานที่ฝึกวิชาทหารให้แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เพื่อเตรียมการด้านกำลังพล สำหรับความมั่นคงของประเทศ
----------
องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก จัดพิธีวางพวงมาลาประจำปี 2560 เพื่อเชิดชูเกียรติทหาร

บรรยากาศที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เช้านี้ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดพิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันทหารผ่านศึก 3 กุมภาพันธ์ 2560 เพื่อสดุดีและรำลึกถุงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารผ่านศึก ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต ปกปักรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติไว้ตราบเท่าถึงทุกวันนี้

โดยตั้งแต่เวลา 07.50 น. ได้ทำพิธีจุดตะเกียงตามประทีปดวงวิญญาณและสักการะอัฐิ จากนั้น ผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงาน ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศ สมาคม ชมรม และทหารผ่านศึกนอกประจำการกรณีสงครามต่าง ๆ เดินทางมาพร้อมเพรียงกัน และเริ่มวางพวงมาลาตามลำดับที่จัดไว้ 13 ชุด เริ่มจาก พล.อ.อำนาจ รอดสวัสดิ์ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ตามด้วย อดีตผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก และเป็นลำดับชุด อาทิ ทหารผ่านศึกนอกประจำการกรณีสงครามโลกครั้งที่ 1 ทหารผ่านศึกนอกประจำการกรณีสงครามอินโดจีน กองทัพไทย
--------
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ "พล.อ.สุรยุทธ์" องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์วางพวงมาลา เนื่องในโอกาสวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2560

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์วางพวงมาลา เนื่องในโอกาสวันทหารผ่านศึก ประจำปี 2560 ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลให้การสงเคราะห์แก่ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก ทหารนอกประจำการและผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงของชาติ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสดุดีและรำลึกถึงวีรกรรมความกล้าหาญของทหารผ่านศึก ที่ได้เสียสละเลือดเนื้อและชีวิต อีกทั้งเป็นการเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาชนชาวไทย

ส่วนในเวลา 14.50 น. ได้จัดพิธีสวนสนามเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึก ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะนายกสภาทหารผ่านศึกเป็นประธานในพิธี รับการแสดงความเคารพจากขบวนสวนสนามของกำลังพล 3 เหล่าทัพ
----------------
นายกฯ ตรวจสอบอยู่ถูกขู่ลอบสังหารในสื่อโซเชียลมีเดีย ยันไม่ประมาท ย้ำยึดประชาธิปไตย เชื่อเป็นกลุ่มละเมิดสถาบันที่อยู่ต่างประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีมีการโพสต์ขู่ลอบสังหารตนเอง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ขณะนี้กำลังเร่งหาตัวผู้โพสต์ขู่ลอบสังหารในสื่อโซเชียลมีเดีย โดยเชื่อว่าเป็นกลุ่มละเมิดสถาบันที่อยู่ต่างประเทศ และไม่กลัวที่มีคนขู่ลอบสังหาร แต่ก็ไม่ประมาท ไม่ได้ท้าทายใคร เพราะทุกคนมีชะตากรรม ชะตาชีวิตเป็นของตัวเอง และไม่ได้ห่วงชะตาชีวิตตนเอง เพราะทำความดีเพื่อประเทศชาติ แต่ห่วงประเทศมากกว่า
------------------
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปัดข่าวรวบมือขู่ฆ่า"บิ๊กป้อม" - ยัน มีมาตรการดูแลเข้มงวดอยู่แล้ว 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธข่าวการจับกุม 1 ผู้ต้องสงสัย ที่โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ในลักษณะข่มขู่เอาชีวิต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุเพียงว่า ยังไม่มีการควบคุมตัวบุคคลใด และกรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหาร แต่หากพบว่า เชื่อมโยงถึงบุคคลใด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด

ส่วนด้านมาตรการดูแลบุคคลสำคัญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า มีมาตรการดูแลอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว แต่จะต้องเพิ่มกำลังหรือไม่นั้นก็ ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประวิตร หรือบุคคลสำคัญคนอื่น

-----------
โฆษกรัฐบาล เผย พบข้อมูลอดีตนักการเมืองหนุนชาวนา เตรียมเคลื่อนไหวเรียกร้องรัฐบาล ช่วยเหลือเมล็ดพันธุ์หลังน้ำท่วม 

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ตรวจสอบพบข้อมูลว่า มีอดีตนักการเมืองใน จ.สงขลา พยายามเป็นแกนนำชักชวนเกษตรกรในพื้นที่ให้รวมตัวกันกดดันรัฐบาล เพื่อให้ช่วยเหลือด้านเมล็ดพันธุ์ภายหลังน้ำท่วมคลี่คลายแล้ว โดยมีนัยทางการเมืองแอบแฝง โดยจากการพูดคุยของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ออกเยี่ยมเยียนและให้ความช่วยเหลือประชาชนอยู่เสมอ พบว่า ชาวนาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว

ทั้งนี้ พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทุกหน่วยงานที่ทำงานกับเกษตรกร เข้าใจดีถึงความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย โดยได้ออกมาตรการต่าง ๆ และลงไปกำกับติดตามการให้ความช่วยเหลือด้วยตนเองอย่างเต็มที่
---------------
คอมเพรสเซอร์แอร์ รัฐสภาระเบิด ควันโขมง ขณะเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้าซ่อม

ความเคลื่อนไหวที่รัฐสภา เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ซึ่งเป็นช่วงพักกลางวัน ช่างไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง ได้ขึ้นไปซ่อมคอมเพรสเซอร์แอร์ บนดาดฟ้าของอาคารสถานีโทรทัศน์รัฐสภา โดยขณะซ่อมมีเสียงดังระเบิดถึง 2 ครั้ง ทำให้ควันพวยพุ่งขึ้นมาโดยรอบบริเวณดังกล่าว สร้างควมตกใจให้กับเจ้าหน้าที่และคนที่เห็นเหตุการณ์

อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าหน้าที่การไฟฟ้า ระบุว่า เป็นเพียงไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดไฟชอร์ต ซึ่งสามารถดำเนินการแก้ไขแล้ว และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสิ่งของเสียหายแต่อย่างใด

-----------
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สนช. 3 คน มี "พล.อ.ชัยชาญ - พล.อ.สสิน - พล.ท.ธนเกียรติ"

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งสมาชิก สนช. เพิ่มเติม ตามมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว 2557 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับ 3 พ.ศ. 2559 ดังต่อไปนี้ คือ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สสิน ทองภักดี เสนาธิการทหารบก และเป็นสมาชิก สปท. ด้วย และ พล.ท.ธนเกียรติ ชอบชื่นชม ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ทำให้ขณะนี้สมาชิก สนช. ครบ 250 คน

ด้าน พล.อ.สสิน ซึ่งเดิมเป็นสมาชิก สปท. เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้ว ขณะที่ ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธาน สปท. ระบุว่า ยังไม่ได้รับการแจ้งหรือติดต่อใด ๆ จึงไม่ทราบรายละเอียด
------------

/////////////
พรบ.สื่อ

สปท. ยันไม่มีเจตนาควบคุมสื่อ - กมธ. เร่งพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิเสรีภาพสื่อ นำเสนอที่ประชุม วิป สปท.

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ คนที่ 1 (สปท.) เปิดเผยถึง กรณีตัวแทน 30 องค์กรสื่อ ยื่นหนังสือคัดค้าน พ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ว่า ได้นำหนังสือเข้าที่ประชุม วิป สปท. เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ซึ่งกรรมาธิการบางส่วนยังคงมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม จึงได้ให้นำไปปรับปรุงแก้ไข ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2 - 3 สัปดาห์ จึงจะสามารถนำเเข้าเสนอที่ประชุมได้อีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า สปท. ต้องการปฏิรูปในหลาย ๆ ด้าน เพื่อให้ประเทศพัฒนาและก้าวไปข้างหน้า โดยขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาจำกัดสิทธิเสรีภาพในการควบคุมสื่อ แต่กลับต้องการที่จะส่งเสริมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพเพิ่มมากขึ้น และยกระดับมาตรฐานจรรยาบรรณและวิชาชีพสื่อด้วย

////////////
การทุจริต

นายกฯ ชี้ อาจใช้ ม.44 คุ้มครองผู้เปิดเผยข้อมูลทุจริต ยันไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีกระทรวงการคลัง เสนอให้ใช้มาตรา 44 ลดโทษให้ผู้ที่เปิดเผยข้อมูลการทุจริต ว่า ได้สั่งให้หามาตรการป้องกันปราบปรามการทุจริต ทั้งในส่วนการเสนอราคากลาง การมีส่วนร่วมต่าง ๆ ขณะที่กฎหมายไทยมีบทลงโทษทั้งผู้ให้และผู้รับ จึงทำให้ไม่กล้าให้ข้อมูล ซึ่งมีคน 2 พวก คือ คนที่ไม่อยากให้แต่ต้องให้ กับคนเต็มใจให้สินบน ดังนั้น จึงต้องหามาตรการคุ้มครองผู้ที่เปิดเผยข้อมูล โดยอาจจะเป็นความผิดทางแพ่งก่อน เพื่อคุ้มครอง เพราะไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีผู้ใดให้ข้อมูล ซึ่งระหว่างที่มีการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวอาจจะใช้อำนาจตามมาตรา 44 ก่อน เพื่อนำไปแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร แต่เป็นการเสนอเพื่อแก้ไขปัญหา
--------------
ผู้ตรวจฯ ย้ำ ครบกำหนด "พล.ต.ท.ศานิตย์" ส่งเอกสารชี้แจงวันนี้ เร่งพิจารณาใน 7 วัน ปัดตอบผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ 

พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงกรณีมีรายได้จากการเป็นที่ปรึกษา บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ว่า จะครบกำหนด พล.ต.ท.ศานิตย์ ต้องส่งหนังสือชี้แจงกลับในวันนี้ และเมื่อได้ข้อมูลมาแล้ว ผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะดำเนินการพิจารณาภายใน 7 วัน แต่จะมีมติหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องดูข้อมูล และเอกสารประกอบการพิจารณาก่อน และการพิจารณา ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ไม่เร่งรัดจนเกินไป

ส่วนเรื่องของการละเมิดจริยธรรม เรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องรอฟังความชี้แจงของ พล.ต.ท.ศานิตย์ และทางบริษัท ไทยเบฟฯ ก่อน รวมถึงสอบถามจาก ป.ป.ช. ว่า มีคำร้องเรียนอย่างนี้ ที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.ท.ศานิตย์ ที่ ป.ป.ช. หรือไม่ ซึ่งหากข้อมูลครบถ้วนก็สามารถวินิจฉัยได้ทันที
--------------
สนช. เห็นชอบ 3 วาระรวด ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เพื่อความคล่องตัวในการบริหารราชการกระทรวงกลาโหม

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นการพิจารณา 3 วาระรวด โดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงหลักการและสาระสำคัญของร่างกฎหมายว่า เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 เพื่อเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อส่วนราชการในกระทรวงกลาโหม ให้มีมาตรา 23/1 โดยการเปลี่ยนชื่อส่วนราชการในกระทรวงกลาโหมให้สามารถกระทำได้โดยการตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และกรณีที่ชื่อตำแหน่งของส่วนราชการในส่วนราชการนั้นเปลี่ยนไปให้ระบุชื่อไว้ในกฤษฎีกานั้นด้วย เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารราชการกระทรวงกลาโหม มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ การพิจารณาเป็นไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่มีสมาชิกอภิปรายแสดงความเห็น ล่าสุด ที่ประชุมเห็นชอบวาระ 3 ในประกาศใช้เป็นกฎหมาย ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 200 เสียง และงดออกเสียง 4 เสียง
---------
ผู้ตรวจฯ เร่งติดตามสอบจริยธรรม "ธีรวัฒน์" รับตั้งกรรมการสอบยาก เชื่อไม่ส่งผลกระทบการทำงานในอนาคต 

พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้มูลให้ กกต. ตรวจสอบจริยธรรม นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กรรมการ กกต. ว่า ทางผู้ตรวจการแผ่นดินได้ติดตามว่าคืบหน้าทราบว่า ต้องตั้งคณะกรรมการโดยผู้บังคับการ คือ ประธาน กกต. แต่เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ในตำแหน่งระดับสูง การจะหาผู้มาเป็นกรรมการสอบไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในอนาคตอำนาจผู้ตรวจฯ ในเรื่องจริยธรรมจะเปลี่ยนไปนั้น พล.อ.วิทวัส จึงเชื่อว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบ เพราะไม่ว่าผู้ตรวจฯจะไม่มีอำนาจเรื่องจริยธรรม กรณีการละเมิดจริยธรรมที่ร้ายแรงก็จะต้องถูกส่งไปที่ ป.ป.ช. อยู่ดี จะไม่หายไปกับการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่
------------
พล.อ.อนุพงษ์ ไม่รู้ข่าวลอบสังหาร "บิ๊กป้อม" ขอทุกฝ่ายเคารพกฎหมาย ชี้ การใช้ความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสังคม

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุมีคนโพสต์ข้อความปองร้าย ลอบสังหารลงในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนเองยังไม่ได้พบกับ พล.อ.ประวิตร จึงยังไม่ทราบว่าใครจะลอบสังหาร แต่หากถามความเห็นของตนเกี่ยวกับเรื่อง ความขัดแย้งของคนในชาตินั้น มองว่า พัฒนามาตั้งแต่การประท้วงไปจนถึงการใช้อาวุธ หากจะมีการใช้ความรุนแรง ถึงขั้นการลอบสังหาร ย่อมไม่ดีต่อสังคมไทย ดังนั้น จะทำอะไรควรจะอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย เพื่อประเทศชาติเดินหน้า การใช้ความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ไม่น่าจะเกิดขึ้นในสังคม เพราะการอยู่ร่วมกันต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย
/////////////
การเมือง/ปยป.

--------
"ยิ่งลักษณ์" รอฝ่ายนายกฯ ยื่นคำชี้แจงศาลปกครองปมยึดทรัพย์สินชดใช้คดีข้าว ใน 30 วัน พร้อมขอศาลทุเลาคำสั่ง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการฟ้องร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพวก รวม 4 คน กรณีการออกคำสั่งทางปกครองให้ยึดทรัพย์สินเพื่อชดใช้ค่าสินไหม
ทดแทนความเสียหายที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าวโดยมิชอบ ว่า ขณะนี้รอให้ฝ่ายผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงต่อศาลปกครอง ภายใน 30 วัน ขณะที่ฝ่ายตนเองได้ยื่นคำชี้แจงเพิ่มเติมซึ่งเป็นสำคัญคือ ขอให้ศาลทุเลาคำสั่งทางปกครอง เนื่องจากการไต่สวนคดีความของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยังไม่เสร็จสิ้น ดังนั้น หากมีการยึดทรัพย์อาจเป็นการชี้นำศาลได้

ส่วนไต่สวนพยานที่อยู่ในกระบวนการของศาลฎีกานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้ต่อสู้อย่างเต็มที่ พยานทุกคนได้พยายามอย่างดีที่สุด
---------------
"ยิ่งลักษณ์" บอกไร้ทาบทามประชุม ป.ย.ป. ขออย่าปฏิวัติ - เชื่อไม่มีการปรองร้าย "พล.อ.ประวิตร"

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปองร้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี จึงมองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงกระแสในโซเชียลมีเดียเท่านั้น ไม่มีคนคิดปองร้ายต่อ พล.อ.ประวิตร จริง แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่อยากให้ใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ เนื่องจากส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ส่วนกรณีที่วอชิงตัน โพสต์ มองว่า ประเทศไทยมีโอกาสจะเกิดรัฐประหารอีก เป็นอันดับ 2 ของโลก

อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต่างประเทศมองเจ้ามา ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับสังคมโลก การรัฐประหารไม่ควรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าทั้งในอดีตและอนาคต ขอให้รัฐประหารเมื่อปี 2557 เป็นครั้งสุดท้าย

พร้อมกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับการทาบทามเข้าร่วมกระบวนสร้างความปรองดองจากคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง
--------
"ยิ่งลักษณ์" ขึ้นศาลฟังไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยคดีจำนำข้าว - ประชาชนปักหลักให้กำลังใจ พร้อมนำของมามอบให้

วันนี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยานจำเลย ครั้งที่ 10 คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากการไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริตจนทำให้รัฐได้รับความเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท โดยในวันนี้ทนายความฝ่ายจำเลยเตรียมพยาน 1 ปาก คือ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

โดยบรรยากาศในช่วงเข้ามีประชาชนจำนวนหนึ่งมาปักหลักรอให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรีและนำข้าวของมามอบให้ ขณะที่บางส่วนได้สวมเสื้อเขียนว่า "รักนะปู" มาให้กับกำลังใจแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วย
----------
"กิตติรัตน์" เบิกความคดีจำนำข้าวยันจ่ายเงิน ธ.ก.ส. ไม่ใช่การนำเงินหมุนเวียนโครงการ ย้ำปรับโครงสร้างหนี้ไม่สะท้อนว่าการบริหารมีความเสี่ยง

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงคำเบิกความต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า กรณีที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ นำเงินที่ได้จากการระบายข้าว จ่ายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไม่ใช่การนำเงินหมุนเวียนโครงการ แต่ ธ.ก.ส. ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีสถานะเป็นผู้กู้เงินที่มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน มีกรรมสิทธิจากรายได้ดังกล่าว ส่วนเงิน 9 หมื่นล้านบาท ที่ ธ.ก.ส. สำรองจ่าย ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ เนื่องจากไม่เข้าข่ายหนี้สาธารณะตาม ม.4 ของ พ.ร.บ. บริหารหนี้สาธารณะ

ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้สะท้อนว่าการบริหารหนี้ของรัฐบาลมีความเสี่ยง เพราะเป็นการกู้เงินไปชดใช้หนี้เดิม เพื่อขยายระยะเวลาการชำระหนี้เท่านั้น ซึ่งไม่กระทบกับยอดหนี้จากการกู้ยืมเดิม ที่กำหนดไว้ในงบประมาณขาดดุลตั้งแต่ต้น
////////////
คดีไซชะนะ

นายกฯ บอกจับกุมเครือข่ายไซซะนะ ยึดตามกฎหมาย ขออยากขัดแย้งเรื่องเล็กน้อย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการจับกุมตัว นายไซซะนะ แก้วพิมพา หัวหน้าเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติชาวลาว ว่า เป็นการจับกุมตามกฎหมาย ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่หลักฐานว่าเชื่อมโยงไปถึงใคร ซึ่งกลุ่มนี้เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ จึงเป็นความร่วมมือของกองบังคับการปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเป็นการจับกุมตามกฎหมายไทย

อย่างไรก็ตาม แสดงให้เห็นว่า บ้านเมืองยังมีเรื่องอันตรายอีกมาก ทั้งปัญหายาเสพติด ผู้มีอิทธิพล และการทำผิดต่าง ๆ จึงขออย่ามาขัดแย้งกันเรื่องเล็กน้อย
-----------
"พล.อ.ประวิตร" บอกตำรวจสอบอยู่คดีไซซะนะ โยงดารา ยัน เข้มชายแดนสกัดสิ่งผิดกฎหมาย 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการ "ชัยยะสยบไพรี 60/1" ปิดล้อมจับกุมตัว นายไซซะนะ แก้วพิมพา ชาวลาว ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดที่อาจพัวพันกับคนมีชื่อเสียง ว่า กรณีดังกล่าวทางทหาร และตำรวจได้บูรณาการดูแลตามแนวชายแดนอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะยาเสพติดเพียงอย่างเดียว รวมทั้งสิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ ที่ลักลอบเข้ามาประเทศด้วย ทางเจ้าหน้าที่ก็ดูแลอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ต้องเน้นย้ำอะไรมาก ส่วนเครือข่ายดังกล่าวจะพัวพันกับดาราคนมีชื่อเสียงหรือไม่นั้น ตนคิดว่าต้องรอทางตำรวจกำลังดังเนินการสอบสวนอยู่
---------
"แพท ณปภา" ยังไม่พร้อมตอบสื่อกรณีตำรวจปรายปรามยาเสพติดเข้าตรวจค้นร้านแต่งรถของเบนซ์ ริซซิ่ง ระบุเตรียมกลับบ้านย่านพระราม3 เพื่อดูแลมารดาและเตรียมพร้อมคลอดบุตรวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้

นายจิรัฏฐนนท์ จันโยธา ผู้จัดการส่วนตัวนางเอกสาวแพท ณปภา ตันตระกูล ภรรยานายอัครกิตต์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้นางเอกสาวยังคงเก็บตัวอยู่ภายในชั้น5 ของแมนชั่น ซอยอินทมาระ51 ส่วนสภาพจิตใจปกติดี แต่ยอมรับว่านางเอกสาว มีอาการเครียดอยู่บ้างหลังจากตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำกำลังเข้าตรวจค้นร้านแต่งรถจักรยานยนต์และห้องพัก ของเบนซ์ เรซซิ่ง สามี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ขณะที่ยืนยันว่า นางเอกสาว ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในตอนนี้ และหลังจากนี้จะเดินทางกลับบ้านพัก ย่านพระราม3 เพื่อไปดูแลมารดา รวมถึงจะพักอยู่ที่บ้านเพื่อเตรียมคลอดบุตร ตามกำหนดในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
--------------
ปส. รอ "เบนซ์" แจงรถ เชื่ออยู่ กทม. ไม่มาหมายเรียก - มั่นใจโยงไฮโซ คนมีสี  

พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. เปิดเผยว่า ขณะนี้ "เบนซ์ เรซซิ่ง" ผู้ต้องสงสัยพัวพันคดีเครือข่ายค้ายาเสพติด "ไซซะนะ" ยังไม่ประสานหรือเตรียมเข้าชี้แจงที่มาของรถลัมร์โบกินี 20 ล้าน และทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ตรวจยึดได้วานนี้แต่อย่างใด ส่วนกระแสข่าวที่ระบุจะเดินทางมาในวันนี้เวลา 15.00 น. นั้น ก็เป็นเพียงการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนเท่านั้น พร้อมระบุแม้ว่าเบนซ์ จะเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยและยังไม่ถูกออกหมายจับ แต่หากไม่มาชี้แจงที่มาของทรัพย์สินต้องสงสัย ทางเจ้าหน้าที่ก็อาจจะพิจารณาออกหมายเรียกให้มาให้ข้อมูลได้เช่นกัน

โดยจนถึงขณะนี้ ยังเชื่อว่า เบนซ์ อยู่ในกรุงเทพมหานคร จึงอยากให้มาชี้แจงโดยเร็ว พร้อมระบุจากการแนวทางการสืบสวนและร่วมมือกันกับทางการของ สปป.ลาว ของเจ้าหน้าที่เชื่อว่ายังมีคนในวงการบันเทิง ไฮโซดัง และคนมีสี มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดรายนี้ โดยเป็นลักษณะการให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ค้า ซึ่งรายละเอียดอยู่ระหว่างการสืบสวน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ทนายของเบนซ์ ได้ติดต่อผ่าน พี่ชายของ แพท ณปภา ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์กับเบนซ์ ว่า วันนี้จะยังไม่เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ โดยอ้างว่าเอกสารต่าง ๆ ยังไม่พร้อม
--------------
รอง ผบช.ปส. เผย "เบนซ์ เรซซิ่ง" ยังไม่ประสานแจงรถลัมโบร์กินี - จ่อพิจารณาออกหมายเรียก

พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยเรื่องการเชิญ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามี ของ น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือ แพท นักแสดงสาวชื่อดัง มาให้ข้อมูลการถือครองรถยนต์หรูลัมโบร์กินี ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติดนายไซซะนะ ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่รับการประสานจาก นายเบนซ์ ว่าจะเข้ามาพบเวลาใด เพียงแต่ทราบมาจากสื่อมวลชนเท่านั้น ซึ่งหาก นายเบนซ์ จะเข้ามาให้ข้อมูลและชี้แจงที่มาของรถ จะต้องมาพบที่กองบัญชาการปราบปราบยาเสพติด (บช.ปส.) ถ.วิภาวดี

ทั้งนี้ หาก นายเบนซ์ ไม่มาในวันนี้ คณะทำงานก็จะนำไปพิจารณาข้อขัดข้องว่า ติดภารกิจอะไร จึงจะเตรียมออกหมายเรียกต่อไป

ส่วนรถบิ๊กไบค์ Ktm Supper duke1290 สีส้ม ที่อยู่กับรถลัมโบร์กินี ที่ บช.ปส. นั้น มีผู้หวังดีแจ้งมาว่า จอดอยู่ย่านรามอินทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรับมาที่เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. เมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถที่เบนซ์ขับออกจากแมนชั่นย่านอินทรมะระ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าบุกค้น
----------------
รอง ผบช.ปส. เตรียมห้องสอบปากคำ "เบนซ์" ไว้ที่ บช.ปส. แล้ว หากไม่มาวันนี้ จะพิจารณาออกหมายเรียก ส่วน "แพท ณปภา" ไม่พบเกี่ยวข้อง แต่ต้องเชิญมาให้ข้อมูล ระบุมีข้อมูลพบดารา ไฮไซ เอี่ยว

พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า จากการเข้าตรวจค้นร้านแต่งรถจักรยานยนต์ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง เมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) เจ้าหน้าที่มีข้อมูลระดับหนึ่ง แต่ต้องรอให้ นายเบนซ์ มาให้ข้อมูลก่อน ซึ่งวันนี้ได้เตรียมห้องสำหรับสอบปากคำ นายเบนซ์ ไว้แล้ว ที่ชั้น 2 กองบัญชาการปราบปราบยาเสพติด หากเวลานัดหมายตามที่สื่อมวลชนระบุ คือ 15.00 น. นายเบนซ์ ไม่เข้ามาให้ข้อมูล คณะทำงานก็จะพิจาณาให้เวลาพอสมควร ก่อนเตรียมออกหมายเรียกตามขั้นตอน ส่วน น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือ แพท ดาราสาวภรรยา เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็จะมีการชิญตัวมาให้ปากคำเช่นกัน เพราะอยู่ในแมนชั่นขณะที่เข้าตรวจค้น

นอกจากนี้ พล.ต.ต.พรชัย ยังกล่าวอีกว่า จากคำให้การของผู้ตองหาที่จับกุมไปก่อนหน้านี้ ยังไม่มีใครซักทอดไปถึงดารา หรือไฮโซ แต่ข้อมูลสืบสวนของตำรวจ พบมีคนในแวดวงบันเทิง รวมถึงสถานบันเทิงเข้ามาเกี่ยวข้อง และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐให้การช่วยเหลือ แต่ทั้งนี้ตำรวจต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน

สำหรับความสัมพันธ์ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย ผู้ต้องหาที่ถูกขับกุมไปก่อนหน้านี้ ทราบว่ารู้จักกับ นายเบนซ์ มานานกว่า 3 ปี เป็นกลุ่มที่ชื่นชอบรถจักยานยนต์เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รถของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึดมาจาก นายเบนซ์ มีรถลัมโบร์กินี และรถจักรยานยนต์บิ๊คไบค์อีก 1 คัน ขณะที่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ KTM สีส้ม มีผู้หวังดี นำมาคืนเมื่อวานนี้ เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่าเป็นรถของใคร ส่วนกรณีที่ นายอัครกิตติ์ มีการประกาศขายรถสปอร์ตหรู และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ หลายคัน ในส่วนนี้ หากผู้ที่ซื้อรถหรือรถจักรยานยนต์ไปจาก นายอัครกิตติ์ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งข้อมูลไว้ได้
---------
รองโฆษก ตร. เผย เร่งขยายผลเครือข่าย "ไซซะนะ" ลั่น หากพบ ดารา - ไฮโซ เอี่ยวดำเนินการโดยไม่ข้อยกเว้น 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของ นายไซซะนะ แก้วพิมพา ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังเครือข่าย โดยมีการประสานความร่วมมือในทั้งและต่างประเทศ ส่วนกรณีการตรวจค้นบ้าน นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีนางเอกสาว "แพท ณปภา" เมื่อวานนี้นั้น เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายทุกอย่าง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่าพบดารา คนดัง ในวงการไฮโซของไทย เข้ามาพัวพันกับเครือข่ายค้ายาของ นายไซซะนะ นั้น ตนไม่ขอเปิดเผย เกรงจะกระทบสำนวนคดี เพราะเรื่องนี้ พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กำลังดำเนินการขยายผลหาเครือข่ายทุกมิติ แต่ตนยืนยันว่า คนที่มาพัวพันไม่ว่าจะเป็นใคร ดารา คนดัง หรือไฮโซ หากพบการกระทำความผิดไม่ว่าจะสนับสนุนด้วยลักษณะใด ก็ต้องดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้น
-----------
"เบนซ์ เรซซิ่ง" พร้อมทนายความ พบตำรวจแล้ว ชี้แจงทรัพย์สิน หลังพบเชื่อมโยงผู้ต้องหาคดียาเสพติด

นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง สามีนางเอกสาว แพท ณปภา ตันตระกูล นักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยทนายความ เข้าพบ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สโมสรตำรวจ เพื่อชี้แจงที่มาของทรัพย์สิน รวมถึงรถยนต์หรู ยี่ห้อลัมโบร์กินี กัลลาร์โด (Lamborghini Gallardo) รุ่นย่อย SuperLeggera LP 570-4 สีเทาดำ ที่พนักงานร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา ติดต่อและนำมามอบให้ตำรวจเมื่อวานนี้ (2 ก.พ.) หลังตำรวจนำกำลังเข้าค้นห้องพัก และร้านจำหน่ายอุปกรณ์บิ๊กไบค์ ภายในซอยอินทามระ 51 ซึ่งเป็น 1 ในกว่า 40 จุด ตามแผนปฏิบัติการ "ชัยยะสยบไพรี 60/2" เมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจมีหลักฐานว่าทรัพย์สินบางส่วนของ นายอัครกิตติ์ เกี่ยวข้องกับ นายณัฐพล นาคคำ หรือ นายบอย ที่อยู่ในเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไซซะนะ แก้วพิมพา ที่ถูกจับก่อนหน้านี้

ซึ่ง นายอัครกิตติ์ มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ ต่อสื่อมวลชน และขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากติดตามสถานการณ์

ไม่มีความคิดเห็น: