PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

สัญญาณเข้ม 'ทุบ' ทุจริต/ไทยรัฐ

อารมณ์เสีย หน้าบูดใส่นักข่าวมา 2-3 วันติดๆกัน
ตามอาการที่เดาทางได้ไม่ยาก “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. คงไม่อยากเจอกับคำถามที่ตอบยากๆของสื่อมวลชน
ทั้งปมธรรมกายที่ยังเอาล่อเอาเถิด ปิดเกมไม่ได้ ไหนจะประเด็นร้อนโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ที่ต้องยกเลิกผลการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และผลการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) เริ่มนับหนึ่งกันใหม่
สถานการณ์วนไม่คืบหน้าไปไหน “บิ๊กตู่” เลยต้องตีหน้ายักษ์กลบเกลื่อนไปก่อน
แต่กับข่าวล่าสุดที่ทำให้ขาใหญ่สะดุ้งไปตามๆกัน
ตามหนังสือที่ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งลงโทษ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองเลขาธิการสำนักพระราชวัง ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ
ถึงขั้นไล่ออกจากราชการ ฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการไปในทางไม่ถูกต้อง แสวงหาประโยชน์ให้กับตัวเอง ฝักใฝ่ในเรื่องการเมืองเป็นอันตรายต่อความมั่นคง
ไล่เลี่ยๆกันกับการที่ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ที่ปรึกษา (สบ 10) ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร. ได้เซ็นคำสั่งให้ พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช.ภ.5 ออกจากราชการไว้ก่อน
เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงกับคดีที่ร่วมกับ พล.ต.อ.จุมพล บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
ตอกย้ำพฤติการณ์แห่งความผิดที่มีหลักฐานติดบ่วงคดีอาญา
เรื่องของเรื่อง นี่น่าจะเป็นสัญญาณเข้มๆ มาตรการแรงๆในการจัดการกับคนที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่แอบอ้างแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
ไม่ว่าสถานะพิเศษแค่ไหน ก็ไม่มีการละเว้น
และก็เป็นอะไรที่ซีเรียสขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วนเหมือนกัน ตามจังหวะก่อนหน้านั้น กรณีที่รัฐบาลทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยกระดับคุมเข้มการทุจริตเมกะโปรเจกต์
ตั้งท่าเอกซเรย์กันละเอียดยิบไม่ให้เล็ดลอดสายตา
โดยการใช้อำนาจตามมาตรา 44 แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือ “ซุปเปอร์บอร์ด” เพื่อดูแลการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ในโครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป มอบหมายให้นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติเป็นประธาน
สกัดการทุจริต จ่ายสินบนใต้โต๊ะ
เบื้องต้นเป้าหมายหลักคือการคุมเกมประมูลรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการเปิดให้บริษัทเอกชนที่ผ่านคุณสมบัติยื่นซองประกวดราคา
ท่ามกลางการร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใสในการกำหนดสเปกผู้รับเหมาเอื้อให้เสือไม่กี่ตัวที่ผูกปีตีกินงานเมกะโปรเจกต์ในเมืองไทย ทำให้ผู้รับเหมาจากจีนที่จอยเวนเจอร์กับผู้รับเหมาขนาดกลางร้องเรียนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
ประกอบกับ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องการเปิดทางให้ผู้รับเหมารายเล็กของไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขันประมูลงานด้วย ไม่ให้เป็นการผูกขาดเฉพาะรายใหญ่
เลยต้องล้มโต๊ะ ล้มกระดาน
ตามรูปการณ์ดึงหมูออกจากปากหมา ยื้ออ้อยออกจากปากช้าง
ไอ้ที่ดีล ฮั้วแบ่งเค้กกันไว้ เป็นอันโมฆะ
ใครจ่ายค่าหัวคิว ล็อกสเปกกันแล้ว ถือว่าฟาวล์ไป
ในกระแสที่รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปก่อนเลย กับภาพความพยายามในการสร้างความโปร่งใส สกัดปมทุจริตรีดหัวคิวในโครงการเมกะโปรเจกต์รถไฟทางคู่
“นายกฯลุงตู่” เน้นปิดจุดอ่อนปมทุจริตคอร์รัปชัน
เพราะมันอันตราย ไม่เลือกใหญ่แค่ไหน สถานะพิเศษยังไง “ติดเชื้อ” ขึ้นมากระแสลามไว
กลายเป็น “จุดตาย” ได้เลย.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: