PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560

จริงๆขาด ‘พี่ใหญ่’ ไม่ได้

จริงๆขาด ‘พี่ใหญ่’ ไม่ได้

“ลาบเป็ด 4.0” ลีลาล่าสุด “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ลงมือปรุงอาหารโชว์ในงานอีเวนต์ก่อนประชุม ครม.

ได้โอกาสโฆษณาแฝง “ยี่ห้อ 4.0” ที่เป็นแบรนด์ของรัฐบาล คสช.

และนั่นก็เป็นการตอกย้ำเลยว่า “ไทยแลนด์ 4.0” คือยุทธศาสตร์ที่เป็นกลไกหลัก ตามภาษาแบบที่นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล นักวิชาการ อดีตคนเดือนตุลาฯ บอกว่า เป็น “มาสเตอร์แพลน” ในการช่วงชิงมวลชนและการสร้างความชอบธรรมใหม่ของชนชั้นนำภาครัฐที่แยบยลมาก เป็นส่วนสำคัญของการยึดพื้นที่ทางการเมืองเพื่อสถาปนาอำนาจการนำ

“นายกฯลุงตู่” ครึ้มใจ “ไทยแลนด์ 4.0” กำลังติดลมบน

คนไทยส่วนใหญ่เริ่มรับรู้ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายปฏิรูปใหญ่ เป็นจุดขายที่ทีมงาน คสช.นำไปต่อโปรโมชั่นอำนาจพิเศษได้สบาย

โดยรูปการณ์ ประเมินเงื่อนไขภายนอก ภายหลังรัฐบาล คสช.ล็อกความได้เปรียบไว้ทั้งกลไกรัฐธรรมนูญ ทั้งยุทธศาสตร์ 4.0 ทั้งสารพัดโครงการประชารัฐ

ทุกอย่างดูจะเข้าทาง “นายกฯลุงตู่” เรื่อยๆ

แต่ที่ป่วนสวนทางขึ้นมาก็คือแรงกระเพื่อมจากภายใน กับปรากฏการณ์อำนาจขบเหลี่ยม

เหยียบตาปลากันเองในเครือข่ายแม่น้ำ 5 สาย ในสถานการณ์กระเพื่อมแรงๆจากเงื่อนปมกฎหมายลูก ทั้งคิวของร่าง พ.ร.บ.ประกอบร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อเนื่องถึงร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง
ตามท้องเรื่อง “หนุมานเหาะเกินกรุงลงกา”
ต่างฝ่ายต่างร้อนวิชา ตัดต่อ เพิ่มเติมเนื้อหาในกฎหมายลูกกันมั่วไปหมด
สถานการณ์แบบที่นักการเมืองอาชีพแท็กทีมยืนฝั่งเดียวกับ “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เอาด้วยกับไพรมารีโหวตที่น่าจะใช้ไม่ได้ผลกับระบบการเมืองไทย แถมเป็นการคุมกำเนิดพรรคตั้งใหม่ เป็นเรื่องยากมากในทางปฏิบัติจริง

ขณะที่กรรมาธิการ สนช.ก็ยืนกรานว่าเป็นแนวทางที่สุดยอดในการจัดการกับการเมืองระบบบริษัทจำกัด โดยมีกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คนดังอย่างนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กระโดดออกมาถือหางไพรมารีโหวต ยืนยันว่าไม่มีปัญหาในทางปฏิบัติ กกต.จัดเลือกตั้งได้สบาย

นั่นก็ทำให้นายมีชัยหมั่นไส้ อัด กกต.รับใบสั่งจนสับสน ขณะที่นายสมชัยก็ย้อนศรทันควัน ตามรูปการณ์ที่โยงกับอารมณ์ค้างมาจากยุทธการ “เซ็ตซีโร่” กกต.

สนช. กกต. กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ล่อกันเองฝุ่นตลบ

หันไปที่ ครม.ก็ส่อกระเพื่อม แกะรอยตามปรากฏการณ์ที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯย้อนถามนักข่าวมีรัฐมนตรีจะลาออกตาม สนช.และ สปท.ที่เตรียมไปลงสมัครเลือกตั้งบ้างไหม

ยั่วต่อมสงสัย ให้ต้องตามเช็กสัญญาณปรับ ครม.

และก็บังเอิญต่อเนื่องกัน กับอาการทะลุกลางปล้องของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่หงุดหงิดกับสถานการณ์แก้ปัญหาพืชผลทางการเกษตรราคาตกต่ำ

สงสัยทำไมกระทรวงเกษตรฯต้องรับทุกเรื่อง

โยนกลองกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม ช่วยรับหน้าเสื่อเคลียร์สถานการณ์ราคาปาล์ม ราคาข้าวโพดตกต่ำ เพราะเป็นฝ่ายคุมการนำเข้า

เดาอารมณ์ น่าจะเจือภาวะกดดันจากกระแสให้ตัวเปลี่ยน รมว.เกษตรฯ

และอีกจุดที่ถูกจับตาตลอดที่มีกระแสปรับ ครม. ตามรูปการณ์ที่คนวงนอกทั้งกระแทก ทั้งแซะ ลุ้นให้ “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เบอร์หนึ่งด้านความมั่นคง หลุดออกจากวง ครม.

แต่เท่าที่จับอาการคนวงใน ส่วนใหญ่กลับห่วง “บิ๊กป้อม” กลัวจะฝืนสังขารไม่ไหว

ตามอาการป่วยของคนอายุ 70 กว่าที่ต้องผ่าตัดใหญ่ ที่ปกติธรรมดาต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายเดือน แต่อย่างที่เห็น “บิ๊กป้อม”พักแค่ไม่กี่วันก็ต้องกลับมาทำงาน

แถมเจ้าตัวยังนั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการหลายสิบคณะแทบทุกวัน

โดยสถานการณ์แท้จริง คนในเรือแป๊ะจึงช่วยกันประคอง“พี่ใหญ่” เต็มที่

เพราะถ้าขาด “บิ๊กป้อม” ไป รัฐบาล คสช.ยวบเลยก็แล้วกัน.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: