PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ประเพณีกดดันศาล

ก็ไม่ได้มีใครห้าม!
อยากจะไปให้กำลังใจ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วันนี้ (๑ สิงหาคม) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เชิญไป
ที่จริงไม่ควรไป
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ...บริวารทักษิณสร้างบรรทัดฐานขนมวลชนไปให้กำลังใจหน้าศาลมานานนับสิบปี โดยไม่สนใจว่าควรหรือไม่ควร ก็เอาตามที่สบายใจ
เพียงแต่อย่าตะแบงให้ผิดเป็นถูก!
อย่าคิดว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย
มาดูกันอีกทีกับบรรยากาศการวินิจฉัยคดีซุกหุ้นของทักษิณ ชินวัตร โดยศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อปี ๒๕๔๔ นายจุมพล ณ สงขลา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากในขณะนั้น แสดงทัศนะอันน่าตะลึง
"ผมก็ตัดสินของผมโดยยึดหลักประชาธิปไตยและหลักรัฐศาสตร์ว่านายกฯ ทักษิณไม่ได้มีความผิด สาเหตุที่ผมตัดสินแบบนี้ก็เพราะผมเห็นแล้วว่าประชาชนเขาพร้อมใจกันเทคะแนนเสียงให้ไทยรักไทย ๑๑ ล้านเสียง นี่คือเสียงสวรรค์ของประชาชนที่พร้อมใจกันเลือก พ.ต.ท.ทักษิณให้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วตุลาการศาลรัฐธรรมนูญสิบกว่าคนจะมาไล่เขาลงจากตำแหน่งได้อย่างไร"
ในอดีตการใช้มวลชนบีบบังคับให้ศาลวินิจฉัยคดีเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการนั้นเคยสำเร็จมาแล้ว
ก็คงจะติดใจ!
ปัจจุบัน ไม่เฉพาะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ต้องประสานกับตำรวจ เพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณศาลก่อนที่จะพิจารณาคดี
ศาลอาญา ศาลปกครอง ศาลแพ่ง ฯลฯ ล้วนโดนมาหมด
ขว้างระเบิดใส่ศาลเพราะไม่พอใจทางการเมือง ก็มีมาแล้ว
ก็ฝีมือคนที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยนั่นแหละครับ
ประชาธิปไตย นิยมคนโกง ฟอกคนผิดให้ถูกได้
นายวัฒนา เมืองสุข ให้สัมภาษณ์ไว้วานนี้ (๓๑ กรกฎาคม)
"ล่าสุดก็จะแจ้งความกับผม ที่โพสต์ให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีจำนำข้าว ผิดมาตรา 116 อยากฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าถ้าคิดจะใช้คนบางประเภทมาเป็นใหญ่ ตัวเองก็จะเอาตัวไม่รอด และจะเป็นภาระด้วย ขอให้ระวัง เวลาบ้านเมืองปกติ รักกันแน่นอน แต่หลังเลือกตั้งผมไม่ปล่อยไว้แน่นอน ขอให้จำไว้
ที่ คสช.มองว่า การโพสต์ให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นการปลุกระดมนั้น ความผิดตามมาตรา 116 คือการชักชวนคนไปทำความผิดกฎหมายแผ่นดิน หรือล้มล้างรัฐบาล แต่กรณีตนชวนคนไปให้กำลังใจนางสาวยิ่งลักษณ์ ถามว่าผิดตรงไหน
หากกรณีของผมผิด ตอนสงกรานต์ ปีใหม่ ไปรดน้ำ ไปไหว้ พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็ต้องจับให้หมด แต่นี้เขาเรียกว่าเป็นการให้กำลังใจ เป็นการปฏิบัติตามประเพณี พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะได้ยกเว้นไว้ ไม่ต้องไปขออนุญาต เพราะเป็นเรื่องประเพณี และในวันพรุ่งนี้ (๑ ส.ค.) ผมจะเดินทางไปให้กำลังใจคุณยิ่งลักษณ์ ที่จะไปแถลงปิดคดีโครงการรับจำนำข้าว ใครที่อยากจะออกหมายจับผมให้ไปจับที่ศาล ขอให้กล้าๆ หน่อย และหากดำเนินคดีกับผมให้ทำเอง ไม่ให้ไปใช้ลูกน้อง บางครั้งผมจะเอาคืน เห็นมียศเป็นร้อยตรี ร้อยโท ผมก็สงสาร ขออย่าหลบหลังเด็ก มันไม่ใช่หลักการการเป็นผู้นำ”
ก็บอกแล้วไม่มีใครห้าม อยากไปก็ไป แต่อย่าทำผิดกฎหมาย
กรุณาแยกให้ออก ประเพณีการให้กำลังใจนั้นอย่างหนึ่ง
การใช้ม็อบกดดันศาลมันเป็นอีกอย่าง
ป๋าเปรม เปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ให้คณะรัฐมนตรี นักการเมือง ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เอกชน อวยพรปีใหม่ รดน้ำสงกรานต์ มันคือประเพณีอันดีงาม
คนไทยปฏิบัติกันมาช้านานแล้ว
ไม่เฉพาะป๋าเปรม
ในอดีตทักษิณก็ทำ
ผ่านมาหยกๆ สาวกในเพื่อไทยพากันไปอวยพรยิ่งลักษณ์...ก็มันคือ ประเพณี ใครจะไปว่าอะไรล่ะครับ เพราะมันคือประเพณีไทยจริงๆ
แต่การจะบอกว่า....ขนมวลชนจำนวนมาก ถึงขั้นปลุกระดมไปให้กำลังใจนักการเมือง ที่จะถูกศาลพิพากษาคดี ถามหน่อย....
มันคือประเพณีตรงไหน?
ถ้าบอกว่าเป็นประเพณี พรรคการเมืองนั้นคงจะชั่วช้าสุดๆ มีแต่เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะโกง เพราะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โกงกันเป็นประเพณี!
ทีนี้มาดูว่าที่ผ่านมาเป็นการให้กำลังใจ หรือการปลุกระดม
เหตุที่รัฐบาล คสช.กังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นทั้งในวันที่ ๑ สิงหาคม วันแถลงปิดคดี และในวันที่ ๒๕ สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองวินิจฉัยคดี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๑๕๗ กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวกว่า ๕ แสนล้านบาทนั้น เพราะมีการปลุกระดมกันมาต่อเนื่อง
เฉพาะที่นายวัฒนาทิ้งร่องรอยไว้ในเฟซบุ๊ก ล่าสุดวานนี้
จั่วหัวว่า
"เผด็จการไม่มีทางชนะประชาชน"
"...เผด็จการชุดนี้ได้ใช้กฎหมายมาเป็นเครื่องมือจัดการกับฝ่ายตรงข้ามที่ไม่ยอมก้มหัวให้ ซึ่งถือเป็นความเลวร้ายที่สุดเพราะเป็นการกระทำโดยอาศัยอำนาจของกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เผด็จการชุดนี้ยังละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำลายหลักนิติธรรมและทำให้ประเทศเสียหายมากที่สุด ผมยังมีคดีที่ถูกเผด็จการยัดให้อีกหลายคดี ล่าสุดคือคดีเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะผมโพสต์ให้กำลังใจนายกยิ่งลักษณ์ซึ่งเป็นความพยายามที่สูญเปล่า เพราะไม่ว่าจะยัดมาอีกกี่คดีก็ตามก็ไม่มีทางเปลี่ยนความเชื่อของผมที่ว่า 'เผด็จการไม่มีทางชนะประชาชน'
คดีของนายกยิ่งลักษณ์ถูกกำหนดขึ้นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการยึดอำนาจ มีเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐร่วมมือสร้างหลักฐานเท็จและโฆษณาชวนเชื่อว่าโครงการขาดทุนมหาศาล ทั้งที่เป็นนโยบายสาธารณะทางเศรษฐกิจ เอามาตรฐานทางบัญชีที่ใช้กับธุรกิจมาตรวจสอบโครงการของรัฐที่เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ตั้งมาตรฐานตรวจสอบคุณภาพข้าวเองเพื่อใส่ร้ายว่ามีข้าวเสื่อมคุณภาพจำนวนมาก ทั้งที่การเก็บรักษามีผู้รับผิดชอบ พอถูกจับได้ก็ไม่ยอมให้ตรวจสอบถึงขนาดเอาทหารมาคุกคามสื่อ แถมยังปากเสียอ้างว่าหวังผลทางคดีทั้งที่คนเรียกร้องให้ตรวจสอบคือเจ้าของโกดังที่เก็บรักษาข้าว
ยิ่งไปกว่านั้นรัฐมนตรีมือชงยังใช้ ฮ.ทหารบินไปประชุมลับกับเจ้าของโรงสีที่ผลิตข้าวให้คนกิน แต่ที่เลวที่สุดคือการเอาข้าวดีไปขายไปข้าวเสื่อมคุณภาพ แล้วเอามาเรียกค่าเสียหายทางละเมิดจากยิ่งลักษณ์ พรุ่งนี้เช้าผมและน้องเฟจะไปให้กำลังใจท่านที่ศาล ใครอยากจะจับให้รีบมา ส่วนประชาชนที่อยากไปก็ไปได้ไม่ผิดกฎหมาย จำคำพูดของผมให้ดีว่า คนที่ทำกรรมไว้กับประชาชนต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครปล่อยพวกคุณให้ลอยนวลอย่างแน่นอน..."
ครับ...นี่คือการโพสต์ให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ หรือ ปลุกระดม?
แยกให้ออกนะครับ "ป๋าเปรม" เปิดบ้านอวยพรปีใหม่ รดน้ำสงกรานต์ มันต่างไปจากกรณีแกนนำเสื้อแดงขนมวลชนไปกดดัน "ป๋าเปรม" ตั้งเวทีด่าสาดเสียเทเสีย
ซึ่งในชั้นฎีกาจะมีแกนนำแดงติดคุกเพราะคดีนี้อีกหลายคน
ก็คล้ายกับการปลุกระดมเสื้อแดง...อ้างว่าไปให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ แต่เบื้องหลัง...เต็มไปด้วยการปลุกปั่น
นายวัฒนาบิดเบือนว่า เผด็จการยัดคดี หน่วยงานรัฐสร้างหลักฐานเท็จ โฆษณาชวนเชื่อ
ข่มขู่ว่าหลังเลือกตั้งโดนเช็กบิล ไม่ปล่อยให้ลอยนวล
สิ่งที่สำรอกออกมาทั้งหมดสะท้อนความเป็นตัวตนของนายวัฒนา
คนแบบนี้อย่าปล่อยให้มีอำนาจเด็ดขาด!
ผิดไม่ยอมรับ แล้วยังจะใช้อำนาจเพื่อแก้แค้น
นี่คือการปลุกระดมอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด!
นายประเสริฐ นาสกุล ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ล่วงลับ เขียนคำวินิจฉัยส่วนตัวคดีซุกหุ้น ๑ ว่า
"หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้น ผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง (พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด"
พร่ำพูดกันมาเป็นสิบๆ ปีแล้วว่านักการเมืองควรมีศีลธรรม
แต่วันนี้กลับห่างศีลธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ
ประเทศจะพังไม่ใช่เพราะรัฐบาล คสช.ที่บอกว่าเป็นเผด็จการหรอก แต่เพราะนักการเมืองอย่างนายวัฒนานี่แหละ
จำคำพูดนายวัฒนาเอาไว้เลย... คนที่ทำกรรมไว้กับประชาชนต้องรับผิดชอบ ไม่มีใครปล่อยพวกคุณให้ลอยนวลอย่างแน่นอน.
ผักกาดหอม

ไม่มีความคิดเห็น: