PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2560

เริ่มหนาหูขึ้นทุกขณะ

เริ่มหนาหูขึ้นทุกขณะ

วิถีตำบลกระสุนตกเปลี่ยนพิกัดใหม่

ถึงคิวของ “พี่รอง” อย่าง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดนล็อกเป้าประจานการใช้อำนาจในการอนุมัติให้บริษัทเอกชนเจ้าของเครื่องดื่มบำรุงกำลังยี่ห้อดังได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินสาธารณประโยชน์ป่าชุมชนบ้านโคกห้วยเม็ก ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

ส่อบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ ตามทิศทางกระแสที่เริ่มมีการเปิดเผยสภาพป่าที่สมบูรณ์มาย้อนแย้งกับข้อมูลที่มหาดไทยอ้างป่าแห้งแล้ง

เสือซุ่ม สิงห์เงียบ เจอไฟป่าร้อนๆ

เป็นจังหวะสลับฉากจาก “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ด่านแรกที่โดนล็อกเป้าถล่มมาต่อเนื่อง ทั้งเรื่องในแวดวงทหาร ปมป่วนในวงการตำรวจ

หรือแม้แต่ล่าสุด ก็ส่อเค้าจะต้องเป็น “เจ้าภาพรับเหมา” กรณีการปล่อยให้ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “ล่องหน” หนีการฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ตามข้อมูล การข่าวที่แกะรอยตามเงาไปโผล่ที่สุดท้ายชายแดนทิศบูรพา จังหวัดสระแก้ว

แนวโน้ม “พี่ใหญ่” กับ “พี่รอง” โดนล็อกเป้าเขย่าหนักขึ้นเรื่อยๆ

และที่จะเหนื่อยขึ้นตามลำดับก็คือ “เพื่อนรัก” อย่าง “บิ๊กนมชง” พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ที่งานเข้าสารพัดเรื่อง ตั้งแต่โดนโห่ไล่ข้อหาไร้กึ๋นแก้ปัญหาพืชผลเกษตรราคาตกต่ำ ลามต่อเนื่องมาถึงปมการระบายข้าวดีเป็นข้าวเน่าที่โดนนักการเมืองพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ขย่ม

ลากโยงเข้าหาปมแหลมๆเสียวๆเกี่ยวกับความโปร่งใส

พี่ใหญ่ พี่รอง และเพื่อนรัก ตกเป็นเป้าถล่ม กระตุกอารมณ์ระแวงทหาร

เป้าหมายแฝงเหลี่ยมกระแทก กระทบชิ่งศูนย์กลางอำนาจพิเศษคือ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.

ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่กระแสเลือกตั้งเริ่มนับถอยหลัง

และอีกจุด “อ่อนไหว” ที่โดนนักการเมืองถล่มไม่ยั้ง ตามเหลี่ยมลากไปผูกกับปากท้องชาวบ้าน ล้อกับโพลแทบทุกโพลสะท้อนคะแนนออกมาไม่ค่อยพอใจกับปัญหาเศรษฐกิจ

แต่กับฉากล่าสุดที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ นำนายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงเมติหรือกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของรัฐบาลญี่ปุ่น พร้อมคณะภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงสื่อมวลชนจากแดนอาทิตย์อุทัยกว่า 500 คน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อเฉลิมฉลอง 130 ปี ความสัมพันธ์ด้านธุรกิจและเศรษฐกิจ

อีกนัยหนึ่งก็เป็นการเดินหน้ายุทธศาสตร์ ประกาศ “new wave” ของความร่วมมือพัฒนา เน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายในโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC)

แน่นอนว่ากันตามรูปการณ์ที่ไม่ธรรมดากับการที่ญี่ปุ่นยกทัพใหญ่มาร่วมฉากความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับมิตรประเทศเก่าแก่ อย่างไทย ตามข่าวว่ากันว่างานนี้นายโยะชิฮิเดะ สึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ทรงอิทธิพลรองจากนายกฯชินโสะ อาเบะ ให้การสนับสนุนเต็มที่

นั่นหมายถึงรัฐบาลญี่ปุ่นทุ่มกับไทยเต็มตัว

แบบที่ทีมงานนายสมคิดเริ่มชัวร์ว่า จะฉุดนักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากที่กำลังชั่งใจว่าจะเลือกไปเวียดนาม อินโดนีเซีย ให้ตัดสินใจขนเงินลงทุนมาประเทศไทย เพราะมั่นใจและอุ่นใจกับปรากฏการณ์นี้
“จอมยุทธ์กวง” โหมยุทธศาสตร์กระตุ้นโมเมนตัมทางเศรษฐกิจช็อตสำคัญ ตามสัญญาณเชิงบวกที่ทยอยออกมาสำทับแนวยุทธศาสตร์ที่เดินมาถูกทางในระยะยาว ไม่แกว่งไปกับกระแสเฉพาะหน้า
นั่นเท่ากับเสริมยางแข็งๆของรัฐบาล “สมคิด” ทรงตัวได้ ไม่เซไปกับเหลี่ยมเตะตัดขา ย่อมส่งผลต่อการยืนระยะของ “นายกฯลุงตู่”

และที่ต้องจับตากับประเด็น “รัฐบาลแห่งชาติ” ที่เริ่มหนาหู ขึ้นทุกขณะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ใช่หลังการเลือกตั้งอย่างที่นักการเมืองอาชีพตีกิน ออกมาบอกปัด “องุ่นเปรี้ยว” เพราะของจริงมันอาจจะเกิดก่อนเลย ในการเปลี่ยนยุทธศาสตร์การบริหารของ “นายกฯลุงตู่”

กับสูตรการปรับคณะรัฐมนตรี ลดโควตาท็อปบูต ลดแรงเสียดทาน ทหาร เปิดทางให้มือบริหารอาชีพจากฝ่ายต่างๆเข้าร่วมในการเดินหน้า ปั่นเนื้องาน

เป็น “รัฐบาลแห่งชาติ” เพื่อเป้าหมายปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: