ว่ากันว่าเป็นปมที่ทำให้อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตัดสินใจ “ล่องหน” ไม่เดินทางมาฟังคำพิพากษาในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
ทำให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องนัดอ่านคำพิพากษาใหม่อีกครั้งในวันที่ 27 กันยายน เวลา 9 โมงเช้า
โดยที่จำเลยสำคัญยัง “ล่องหน” ไม่ให้เห็นแม้แต่เงา
ตามการคาดเดาของเบอร์หนึ่งหน่วยความมั่นคง คสช.อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ก็ฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแตกเลยว่า
“น้องปู” ไม่โผล่มาเซอร์ไพรส์ฟังคำพิพากษาศาลแน่
และตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอนุญาตให้ศาลอ่านคำพิพากษาลับหลังได้ในกรณีออกหมายจับแล้วจำเลยไม่มาฟังคำพิพากษา
น่าจะรู้ผลออกหัวหรือออกก้อย
ขณะเดียวกัน ก็เป็นอะไรที่สังเกตได้จากการติดตามความเคลื่อนไหวของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร พี่ชายกับหลานๆทั้ง “เอม” พินทองทา และ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร
กลายเป็นเป้าโฟกัสของคนที่ตามแกะรอย “ยิ่งลักษณ์”
ล่าสุดก็เป็นปรากฏการณ์ที่ “อุ๊งอิ๊ง” ต้องเคลียร์ภาพข่าวที่ถูกตัดต่อรูปของ “อาปู” สะท้อนเป็นเงาอยู่ในแว่นตา นัยว่าโดนฝ่ายตรงข้ามใส่ความว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์หลบไปซ่อนตัวอยู่กับครอบครัว
สรุปแม้ตัวจะล่องหน แต่ “น้องปู” ก็ยังเลี้ยงกระแสกองเชียร์ได้ตลอด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าถึงขั้นจะลุ้นให้อดีตนายกฯหญิงกลับเมืองไทยนั้น น่าจะเป็นเรื่องยากแล้ว ว่ากันตามแนวโน้มที่เจ้าตัวตัดสินใจหนีในนาทีสุดท้าย
น่าจะคิดบวกลบคูณหารแล้วหลายตลบ
ตามเงื่อนไขเดิมพันคงไม่ใช่แค่คดีปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายจากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เพราะเท่าที่ประเมินถึงจะผิดจริงก็โทษเบา
เพราะเจ้าตัว “ยิ่งลักษณ์” ไม่ได้ลงมือทุจริตเอง
แต่ปัญหามันน่าจะโยงไปถึงอีกหลายปมหลายคดีที่ต่อคิวรอเช็กบิลอยู่
ซึ่งล้วนแต่เป็นคดีเกี่ยวกับความผิดพลาดในการบริหารก่อให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน โดยเฉพาะปมการอนุมัติงบประมาณเยียวยากลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง นปช. จากที่ประชุม ครม.ที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์นั่งเป็นประธานประชุม ครม.ด้วย
ใช้เงินหลวงแบบไร้หลักเกณฑ์รองรับ เสี่ยงโดนเชือดยกพวง
นั่นหมายถึงรวมๆทุกคดี “ยิ่งลักษณ์” นับนิ้วแล้วเสี่ยงโทษนับสิบๆปี
นี่คือจุดที่เซียนการเมืองกล้าวางเดิมพันแทงหวยว่าน้องสาวต้องหนียาวตามรอยพี่ชาย และมันก็คือหัวเชื้อชนวนให้ฝ่ายต้าน “ทักษิณ” เอามาขยายผล ลากกระแสตีกินทางการเมือง
ตามท้องเรื่องแบบที่คนยี่ห้อประชาธิปัตย์เปิดปฏิบัติการตีปี๊บประจาน ไล่บี้ไล่กดดันฝ่ายความมั่นคง คสช. ทั้งทหาร ตำรวจ ที่ปล่อยให้อดีตนายกฯหญิง “ล่องหน” ออกจากประเทศไทยไปได้
แสดงตัวแสดงตนเป็นผู้เสียหาย ในฐานะโจทก์ที่กัดติดคดีจำนำข้าวมาตั้งแต่ต้น
บทเขี้ยวตามฟอร์มประชาธิปัตย์ หวัง “ปิดจ๊อบ” ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
กะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ได้ทั้งบลัฟ คสช.ข้อหาเปิดทางให้หนี ได้ทั้งกดคู่ต่อสู้ที่เพลี่ยงพล้ำให้พรรคเพื่อไทยโงหัวไม่ขึ้น และนี่คือจุดที่อย่างไรเสียคนประชาธิปัตย์กับคนเพื่อไทยไม่มีวันร่วมทางกันได้
ในมุมที่ต่างฝ่ายต่างต้องเบิ้ลบลัฟกันไปจนถึงวันเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม โดยสถานการณ์ที่แทบไม่เหลืออะไรให้ลุ้นตื่นเต้น ตามรูปการณ์แบบที่ พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มั่นใจ ไม่ว่าผลคำพิพากษาคดีจำนำข้าววันที่ 27 กันยายนจะเป็นอย่างไร ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงทางการเมือง
อีกทั้งล่าสุดสำนักสื่อสารมวลชน ทำเนียบขาว ได้ออกแถลงการณ์ ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ของสหรัฐอเมริกา จะให้การต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 3 ตุลาคมนี้
ตามรูปการณ์ที่ทำให้ลดโทนกดดันด้านต่างประเทศลงไปเยอะ
สะท้อนว่าปมการเมืองไทยไม่ได้เป็นเงื่อนไข พี่เบิ้มเลิกตั้งแง่แล้ว.
ทีมข่าวการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น