PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

"อภิสิทธิ์" ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตีความ ม.44 พรรค ชี้ขัดรธน.ละเมิดสิทธิปัดก่อปัญหา



"อภิสิทธิ์" ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตีความ ม.44 พรรค ชี้ขัดรธน.ละเมิดสิทธิปัดก่อปัญหา

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค และนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ในคำสั่งที่ 53/2560 เรื่อง การดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ปี 2560 โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า
คำสั่งดังกล่าวไม่ได้ปลดล็อคทางการเมือง แต่อนุญาตให้พรรคการเมืองใหม่หาสมาชิกพรรคได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 ทั้งนี้ แม้รัฐธรรมนูญมาตรา 279 จะรองรับสถานะตามคำสั่ง คสช. แต่ในข้อเท็จริง คำสั่งนี้ ได้ละเมิดสิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ ในมาตรา 26 มาตรา27 และมาตรา45 อีกทั้งไม่ปฏิบัติตาม มาตรา 77 ที่จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนในการออกกฎหมาย รวมถึงมาตรา 132(2) เรื่องการตรวจสอบความชอบรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การร้องเรียนครั้งนี้ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการสร้างปัญหาทางการเมืองให้แก่ผู้ออกคำสั่งแต่อย่างใด แต่เป็นการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของตนและสมาชิกพรรคทุกคนที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองไว้ ไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมจากการตรากฎหมาย
@@
มาร์คเผยมีพรายกระซิบเรื่องมีคนอยากเลื่อนเลือกตั้งก่อน กมธ.ส.ส.เสนอ 2 สัปดาห์ แต่ไม่อยากพูดก่อน หวั่นกระทบการทำงาน โวยปัญหาไม่ได้อยู่ที่ กม.ส.ส.-พรรคการเมือง แต่อยู่ที่คสช.ไม่ยอมปลดล็อก ชี้ขยายเวลา 90 วัน พรรคใหม่ได้ประโยชน์ คสช.-สนช.อยู่นาน

(22ม.ค.61) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมถาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายออกไป 90 วัน หลังจากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า ตนทราบเรื่องนี้มาล่วงหน้า 2 สัปดาห์แล้ว เพราะมีคนมากระซิบบอกว่า เขาอยากจะเลื่อนเลือกตั้งโดยวิธีดังกล่าว ตนจึงบอกคนที่มากระซิบข่าวนี้ว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญบังคับใช้ให้มีผลใน 150 วัน แต่พอมาเปิดรัฐธรรมนูญดูในภายหลังก็พบความจริงว่า มีการระบุว่าให้นับจากวันบังคับใช้ ไม่ได้นับจากวันประกาศราชกิจจานุเบกษา ตนจึงเชื่อคนที่มากระซิบบอกข่าวว่าเรื่องนี้คงจะจริง แต่ตนไม่กล้าจะพูดอะไรก่อน เพียงแต่เข้าใจว่าฝ่ายที่อยากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปคงจะหาช่องทาง แล้วเขาก็พบช่องทางนี้
ถ้ามีคนถามว่าผมรู้ล่วงหน้ามา 2 สัปดาห์แล้วทำไมถึงไม่พูด ก็เพราะว่าไม่ได้มีใครมาถาม ซึ่งผมจะไปพูดก่อนก็ไม่ได้ เดี๋ยวจะเป็นการกล่าวหาการทำงานของเขาทั้งที่ยังไม่มีมูล แต่ผมยืนยันว่ามีพยานที่ฟังอยู่ด้วย และก็ไม่ทราบว่าคณะกรรมาธิการฯทราบมานานแค่ไหนว่ามีช่องทางนี้เพื่อเลื่อนเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมาหากมีการพูดถึงการเลื่อนเลือกตั้งก็จะมองว่าอาจจะมีกฎคว่ำกฎหมายหรือไม่ ไม่เคยมีใครพูดถึงช่องทางนี้ แต่พอมีคนมากระซิบข่าวบอกผม แล้วผมมาดูรัฐธรรมนูญก็พบว่ามีช่องทางนี้อยู่จริงๆ เมื่อพิจารณาแล้วจะพบว่าขั้นตอนนี้ไม่น่าจะเป็นขั้นตอนตามปกติในการพิจารณากฎหมาย ซึ่งพอมีข่าวเรื่องนี้มาก็มีคนออกมาปฏิเสธ แต่สุดท้ายก็เป็นไปตามข่าวที่ออกมา จึงมีขั้นตอนที่ผิดปกติไม่เป็นธรรมชาติอยู่หลายอย่างนายอภิสิทธิ์กล่าว
https://ads6.matichon.co.th/www/delivery/lg.php?bannerid=55&campaignid=56&zoneid=22&loc=https%3A%2F%2Fsakdaper.blogspot.com%2F&referer=https%3A%2F%2Fwww.blogger.com%2Fblogger.g%3FblogID%3D1800157612540760722&cb=455b62b6c9
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุผลที่คณะกรรมาธิการฯให้มาจะเห็นได้ว่า ไม่เกี่ยวกับ พ.ร.ป.ส.ส. แต่จะเกี่ยวข้องกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ในเรื่องของการไม่ปลดล็อกมากกว่าที่จะมาอ้างเรื่องการทำไพรมารีโหวตทันหรือไม่ทัน ซึ่งความจริงถ้าห่วงพรรคการเมืองว่าจะทำไม่ทันจริงๆ ก็รีบปลดล็อกตั้งแต่ตอนนี้ ปัญหาขณะนี้ก็เพราะว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดสินใจยังไม่ปลดล็อก ดังนั้นทั้งหมดจึงไม่เกี่ยวกับ พ.ร.ป.ส.ส. หรือ พ.ร.ป.พรรคการเมือง แต่มันพัวพันอยู่กับการไม่ปลดล็อก ทั้งหมดเป็นเรื่องการตัดสินใจของ คสช.ถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าที่ของ สนช. แต่สำหรับ คสช.หากประสงค์อย่างใดก็สามารถแก้ไขและทำได้
เมื่อถามว่าการยืดเวลาออกไปอย่างน้อย 90 วัน ใครได้ประโยชน์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมองว่าเสียงร้องว่ามีปัญหามาจากผู้ที่จะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ส่วนตัว คสช.และ สนช.ก็อยู่นานขึ้นซึ่งเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งการอยู่นานขึ้นจะดีขึ้นหรือเลวลงนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารงาน อย่างไรก็ตาม มีการมองว่าขณะนี้มีฝ่ายที่อาจจะทำให้การเมืองยังไม่สงบ คสช.จึงไม่ยอมปลดล็อก แต่ คสช.ก็ไม่เคยพูดออกมาให้ชัดว่าเป็นคนกลุ่มไหนอย่างไร ซึ่งเท่าที่ตนมองนั้นไม่เห็นว่าการยืดเวลาออกไปจะเกิดประโยชน์หรือแก้ปัญหานี้ได้เลย ในทางตรงข้ามการเลื่อนออกไปแบบไม่มีความชัดเจนกลับกลายเป็นว่าจะเป็นการสร้างเงื่อนไขให้มีความขัดแย้งวุ่นวาย เพราะถ้าการเลื่อนเลือกตั้งครั้งนี้นำไปสู่ผลประโยชน์ส่วนตัวทางการเมือง จะอันตรายมาก เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เราพยายามจะขจัดออกไปโดยการปฏิรูป ดังนั้น ถ้าไม่มีการให้ชี้แจงเหตุผลที่ชัดเจนว่าการเลื่อนเลือกตั้งจะมีผลประโยชน์กับส่วนรวมอย่างไรบ้าง ก็จะมีคำถามจากสังคมอีกเป็นร้อยคำถาม
ส่วนที่คณะกรรมาธิการฯมีการแก้ไขให้มีการหาเสียงโดยใช้มหรสพได้นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนแปลกใจว่าทำไมถึงกลับมาแนวทางนี้อีก ทั้งที่อยากให้ประชาชนทราบแนวคิดและนโยบายหาเสียงการเลือกตั้งอย่างสุจริต เที่ยงธรรม ทั้งนี้ การใช้มหรสพมีการห้ามมานานแล้ว เนื่องจากมีการจูงใจ อาจกลายเป็นช่องทางในการซื้อเสียงอีกรูปแบบหนึ่ง การทำแบบนี้จะเกิดปัญหาตามมาอีกเยอะ โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายที่ยุ่งยากในการตีมูลค่าพอสมควร ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่าเรามีหลายแนวทางที่จะกระตุ้นให้คนมีความสนใจในการเลือกตั้งมากกว่าการใช้มหรสพ
///
(22 ม.ค.)นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงข้อเสนอการขยายเวลาบังคับใช้พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ออกไปอีก 90 วัน เป็นไปเพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง ให้พรรคการเมืองมีความพร้อมมากขึ้น มีเวลาในการเตรียมการมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการประชุมใหญ่ การทำไพรมารีโหวตซึ่งต้องมีเวลาเพียงพอ ว่า ตนเห็นว่าความจริงแล้วเป็นตรรกะที่แปลกมากว่าเพื่อประโยชน์พรรคการเมืองและเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม จึงต้องขยายเวลาอีก 90 วันหากเพื่อให้พรรคการเมืองมีเวลาเพียงพอในการดำเนินการกิจกรรมต่างๆ สิ่งที่ง่ายกว่าการขยายเวลาบังคับใช้ในพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.คือ การปลดล็อกพรรคการเมือง ให้เขาสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ตั้งแต่วันนี้ไม่ใช่ว่าไปสัญญาลมๆแล้งๆว่าจะปลดล็อคในเดือนเม.ย.และกำหนดให้ทำกิจกรรมต่างๆอย่างเร่งรีบhttps://ads6.matichon.co.th/www/delivery/lg.php?bannerid=56&campaignid=1&zoneid=25&loc=https%3A%2F%2Fwww.khaosod.co.th%2Fpolitics%2Fnews_717812&referer=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2F&cb=0646aa72f4
ปลดล็อกเสียวันนี้ กว่าจะถึงเมษา ก็ได้เวลาคืนมาเกือบ 3เดือน และหากตรงไปตรงมาให้พรรคสามารถทำกิจกรรมได้ตั้งแต่ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 8 ต.ค.ปีที่แล้ว ก็คงไม่ต้องวุ่นวายอะไรมากขนาดนี้นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวอีกว่า หากต้องการทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม สิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างยิ่งคือ ไม่เข้าไปแทรกแซงในกระบวนการสรรหา กกต.ใหม่ไม่ส่งคนของตนเองเข้าไปทำหน้าที่ใน กกต.ชุดใหม่ ไม่ออกกฎกติกาที่สร้างความได้เปรียบแก่คนของตนเองหรือพรรคที่ประกาศว่าจะสนับสนุนตน สิ่งที่ดีที่สุด คือ นายกรัฐมนตรีจะต้องไม่ประกาศว่าพร้อมจะกลับมาใหม่หากประชาชนสนับสนุน และเลิกทำตัวเป็นนักการเมือง เดินสายหาเสียง เพราะสิ่งเหล่านี้ คือ สัญญาณที่บ่งบอกว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นยากที่จะบริสุทธิ์ยุติธรรมเพราะฝ่ายหนึ่งมีอำนาจรัฐและกลไกราชการสนับสนุนทำให้เกิดความได้เปรียบในการเลือกตั้ง
//
จากกรณีวันที่ 24 มกราคมนี้ เป็นวันที่สำนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้เรียกผู้ต้องหาในสำนวนคดีพิเศษที่ 261/2556 หรือคดีร่วมกันเป็นกบฏในการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกรวม 53 คน เป็นผู้ต้องหามาเพื่อรายงานตัวเเละฟังคำสั่งคดี โดยการนัดฟังคำสั่งดังกล่าว ทางอัยการมีคำสั่งว่าตัวผู้ต้องหาทุกคนจะต้องเดินทางมาฟังคำสั่งด้วยตนเอง เนื่องจากวันดังนั้นทางอัยการจะมีคำสั่งเลยว่าจะฟ้องผู้ต้องหารายใดเเละข้อหาใดบ้าง ซึ่งตัวผู้ต้องหาจะต้องมีการเตรียมหลักทรัพย์มาให้พร้อม เพราะหากมีคำสั่งฟ้อง ทางอัยการจะนำตัวผู้ต้องหาที่มีความเห็นสั่งฟ้องไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาตามที่อัยการได้มีคำสั่ง ซึ่งอัยการได้เเจ้งว่าหากมีการฟ้องคดีผู้ต้องหาต้องใช้หลักทรัพย์หากประสงค์ในการยื่นประกันตัวนั้น

เมื่อเวลา 16.00น.วันที่ 22 มกราคม เเหล่งข่าวจากสำนักงานอัยการสูงสุด(อสส.)กล่าวว่าในวันที่24มกราคมที่เป็นวันนัดฟังคำสั่งคดีอัยการมีความพร้อมที่จะสั่งคดีเเละไม่มีการเลื่อน ถ้าผู้ต้องหาเดินทางมาตามที่อัยการนัดก็สามารถจะสั่งคดีได้ทุกคน ในวันนั้นจะรู้ได้ว่าสั่งฟ้องใครหรือไม่ฟ้องใครในข้อหาใดบ้าง เเละจะสามารถยื่นฟ้องต่อศาลอาญาได้เลยส่วนผู้ต้องหาที่มีการขอเลื่อนคดีในวันดังกล่าวก็จะมีการพิจารณาเป็นรายๆไปว่ามีเหตุสมควรเลื่อนหรือไม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าในวันดังกล่าวจะสามารถยื่นฟ้องผู้ต้องหาได้เพียง9คนนั้น เป็นเพียงคำร้องของผู้ต้องหาระดับแกนนำ 9 คน ที่ขอให้ยื่นฟ้องคดีไปก่อน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่น ถ้าไม่มารายงานตัวเราก็จะพิจารณาว่าไม่มาเพราะอะไรหรือถ้าขอเลื่อนมีสาเหตุอะไร มีเหตุผลสมควรพอฟังได้มั้ย ถ้าไม่มีเหตุผล ทางอัยการก็อาจจะขอหมายจับ ดูเหตุผลเป็นรายๆไป เเต่ในวันดังกล่าวถ้ามากี่คนเราก็จะฟ้องไปตามจำนวนคนที่มาก่อน 

https://ads6.matichon.co.th/www/delivery/lg.php?bannerid=55&campaignid=56&zoneid=22&loc=https%3A%2F%2Fsakdaper.blogspot.com%2F&referer=https%3A%2F%2Fwww.blogger.com%2Fblogger.g%3FblogID%3D1800157612540760722&cb=b4490dcef9


ทางอัยการมีความพร้อมส่วนผู้ต้องหาจะไปคุยยังไงนั้นอัยการไม่รู้ มีการกำชับไปว่าต้องมาทุกคนเเละมาด้วยตนเอง ถ้าไม่มาต้องเเสดงหลักฐานอะไรมั่ง แหล่งข่าวจากอสส.กล่าว

เมื่อถามว่าระดับเเกนนำเช่นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ,นายถาวร เสนเนียม จะโดนฟ้องข้อหากบฏในวันนั้นหรือไม่ เเหล่งข่าวกล่าวว่า ใช่ ผู้ต้องหาเเต่ละคนย่อมรู้พฤติการณ์อยู่เเล้วว่าโดนข้อหาอะไรบ้างเเละ ได้ข่าวว่าเเกนนำที่กล่าวดังกล่าวได้ยื่นหนังสือเเจ้งว่าจะมาในวันรายงานตัว ในวันดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่าในข้อหากบฏนั้นผู้ต้องหาส่วนใหญ่จะโดนข้อหานี้เกือบทุกคน เเต่อาจจะมีบางคนที่ไม่โดนเป็นตัวการเเต่เป็นผู้สนับสนุน

ไม่มีความคิดเห็น: