PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

คะแนนตกก็ยังเป็นต่อ

คะแนนตกก็ยังเป็นต่อ


ว่ากันตามเนื้อผ้าสังเกตว่า ภาคธุรกิจ มุมเศรษฐกิจไม่ได้สะดุ้งสะเทือนสักเท่าไหร่

ชาวบ้านร้านตลาดก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไร

มีแต่นักการเมืองอาชีพที่อาละวาดฟาดหาง กับนักวิชาการสายต้านทหารที่ตั้งท่าวิพากษ์วิจารณ์
ปรากฏการณ์ที่ตั้งชื่อเรียกขานกันว่า รายการ “สมคบคิด” ยื้อเลือกตั้ง

รัวเกราะเคาะไม้ ดักคอดักทาง “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ระวังจะเป็น “โมฆะบุรุษ” พูดกลับไปกลับมาหมดความน่าเชื่อถือ

ประกาศเลือกตั้งล้มแล้วล้มอีก ไม่ทำตามพันธสัญญา

ซัดข้อหา “เหยียบตีน” เล่นรู้กันกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการเปิดช่องให้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน

ทำให้กำหนดการเลือกตั้งที่ล็อกไว้ปลายปี 2561 ต้องเลื่อนออกไปอย่างน้อย 3 เดือน

ทั้งๆ ที่ว่ากันตามรูปการณ์ ก่อนหน้านี้ที่ “ซือแป๋” มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ รีบผลักดัน พ.ร.บ.พรรคการเมือง ให้มีผลบังคับใช้ก่อนกฎหมายลูกฉบับอื่น กลายเป็นกระตุกกระแส กระพือแรง
บีบแรงกดดันให้ “นายกฯลุงตู่” ปล่อยผีพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมตามเงื่อนไขสถานการณ์

ภาพก็คือซือแป๋กฎหมาย แต่ “หัวเหลี่ยมทางการเมือง” ทำ “ลุงตู่” โดนล้อมกรอบ

มันคือคำตอบระดับหนึ่งว่า “นายกฯลุงตู่” ไม่สามารถคุมเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งในมุมของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงกระบวนการใน สนช.

นี่ก็พอจะอ้างอิงได้ ผู้นำ คสช.ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเลื่อนบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ออกไปอีก 90 วัน ซึ่งมันอาจเป็นเทคนิคทางข้อกฎหมายที่มองต่างมุม ตามธรรมชาติของพวกร้อนวิชา

หาเรื่องเอาห่วงผูกคอให้ “นายกฯลุงตู่” เหนื่อยได้เรื่อยๆ

นี่ยังไม่นับเงื่อนไขเกี่ยวกับปมเงื่อนเวลาที่ไม่มีใครกำหนดได้ สถานการณ์แบบที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งกระทรวงวัฒนธรรมให้เตรียมการพระราชพิธีสำคัญอีก 1 พิธี

กระบวนการห้วงเปลี่ยนผ่านแผ่นดินยังไม่แล้วเสร็จ การเลือกตั้งยังลงวันเวลาไม่ได้ ตามเงื่อนไขแปรผันตามปัจจัยสถานการณ์นอกเหนือเรื่องทางการเมือง

เรื่องของเรื่องก็อย่างที่เห็นๆกัน กระแสเลื่อนเลือกตั้งออกไปตามเงื่อนไขในการบังคับใช้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มันก็ไม่ได้ส่งผลให้นักธุรกิจสะดุ้ง ภาพรวมเศรษฐกิจสะเทือน

เหมือนจะพออกพอใจลึกๆกันด้วยซ้ำไป

นั่นก็เพราะภายใต้สถานการณ์ห้วงปัจจุบัน สัญญาณบวกเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามท้องเรื่องที่ “นายกฯลุงตู่” มอบธงให้ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ
ลุยเข็นครกขึ้นภูเขา วิ่งสู้ฟัดจนทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจภาพรวมติดลมบน

ขณะที่การอัดฉีดเศรษฐกิจฐานราก มาตรการกระตุ้นภาวะปากท้องของคนยากคนจนก็เดินหน้า

เนื้องานเริ่มออกมาให้เห็นเป็นเนื้อหนังสัมผัสได้

ในเมื่อรัฐบาล “นายกฯลุงตู่” ทำให้บ้านเมืองสงบ ไร้ม็อบป่วนเมือง ประชาชนใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข แถมภาวะเศรษฐกิจที่เป็นโจทย์ยากสุดก็กำลังผงกหัวฟื้นกลับคืนมา

มันก็ไม่มีเหตุอะไรที่นักธุรกิจ ประชาชนส่วนใหญ่ จะไปเร่งเกมเลือกตั้ง

ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้อนาคต ไม่มีหลักประกันว่าหลังจากนั้นบ้านเมืองที่ยังแฝงไปด้วยเชื้อความขัดแย้งอยู่ทุกจุด จะกลับมาวุ่นวายพาคนไทยถอยหลังลงเหวอีกหรือไม่

เหนืออื่นใด นักการเมืองที่โวยวายโดนยื้อเลือกตั้ง ในเครื่องหมายคำถามพร้อมลงสนามแค่ไหน

มั่นใจจริงๆ หรือว่าจะพลิกเกมช่วงชิงอำนาจคืน สกัดเส้นทางไปต่อของผู้นำ คสช.ได้

โดยเฉพาะที่ตีปี๊บผลโพล เบิ้ลบลัฟ “นายกฯลุงตู่” คะแนนตก

แต่ลองเทียบกันให้ดีๆ ตามคะแนนใน “กรุงเทพโพลล์” โฟกัสตัวเลขคนหนุน “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี 36.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่หนุน “ลุงตู่” 34.8 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือร้อยละ 20 กว่าๆไม่แสดงความเห็น

“ลุงตู่” แข่งกับตัวเองก็ยังชนะอยู่เลย

แล้วถ้าคู่แข่งเปิดหน้าเปิดตัวออกมา แบบที่สมมติยี่ห้อประชาธิปัตย์ต้องเข็นรุ่นลายครามอย่าง
“ปรมาจารย์ชวน หลีกภัย” มาสู้ขัดตาทัพ ไม่ให้ค่ายแตก อีกฝั่ง “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรืออดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ แย่งธง “นอมินี” จาก “นายใหญ่” มานำทัพพรรคเพื่อไทย

ภาษาเซียนบอล ราคาต่อรอง “ลุงตู่” ไหลไปเกินกว่าลูกควบลูกครึ่ง.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: