PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ไม่ชัดใครคือตัวจริง!

ไม่ชัดใครคือตัวจริง!



มันคือโอกาสที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะได้ใช้ชีวิตสงบๆแลกกับสิ่งที่สูญเสียไปจากเมืองไทย
ตามรายงานล่าสุดของสำนักข่าวบีบีซีไทย ระบุทางการอังกฤษได้อนุมัติวีซ่าให้ “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักรได้ยาว 10 ปี โดยอยู่ได้ไม่เกินครั้งละ 6 เดือน
ถือว่าหรูกว่าสถานะของ “ผู้ลี้ภัย” เพราะมีอิสระในการเดินทาง
ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่คือสิ่งที่เป็นคำตอบว่าทำไมอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ถึงได้ไม่หือไม่อือกับเรื่องการเมือง เก็บตัวเงียบอยู่พักใหญ่ นับตั้งแต่หนีออกจากประเทศไทย
ไม่มีการแสดงออกถึงการต่อต้านรัฐบาล คสช.อย่างโจ่งแจ้ง อย่างดีก็แค่ปรากฏตัวร่วมฉากกับพี่ชายอย่างอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร บินโฉบไปโฉบมาประเทศนั้นประเทศนี้
โดยไม่มีการปริปากพูดเรื่องการเมืองให้เป็นข่าวเป็นประเด็น
นั่นเท่ากับว่าพฤติกรรมอยู่ในเงื่อนไขที่อังกฤษจะพิจารณาให้วีซ่ากับอดีตผู้นำหญิงของไทย ที่จะไม่ใช้สหราชอาณาจักรเคลื่อนไหวทางการเมืองให้เป็นปมปัญหากับประเทศไทย
ไม่ได้มีอะไรที่บ่งถึงการที่อังกฤษตบหน้ารัฐบาลทหารของไทย
แต่แน่นอน ในอารมณ์ของขบวนการหมั่นไส้ โดยเฉพาะม็อบพันธมิตรฯ กับแนวร่วมม็อบ กปปส.สายอดีต “พุทธะอิสระ” คงพาลด่าฝ่ายความมั่นคง คสช. ที่ปล่อยให้อดีตผู้นำหญิงหนีออกนอกประเทศ
แถมได้วีซ่าพำนักยาวเมืองผู้ดี ตบหน้าขบวนการหมั่นไส้ในเมืองไทย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. หนีไม่พ้นข้อหาทำปฏิวัติ “เสียของ”
ในมุมมองของพวกที่ออกแรงโค่นกระดาน “ทักษิณ” ที่รู้สึกว่าได้ผลตอบแทนไม่คุ้ม ยังไม่ได้รับการแชร์อำนาจและผลประโยชน์อย่างทั่วถึง นี่คือจังหวะที่จะเขย่าเปลี่ยนตัว “มวยล้ม” ได้เลย
นั่นย่อมไม่ส่งผลดีต่อเงื่อนไขสถานการณ์ที่ “นายกฯลุงตู่” ต้องตีตั๋วต่อ
โดยสถานการณ์ตรงกันข้ามกับเส้นทางการทวงอำนาจของฝั่ง “ทักษิณ” ที่เริ่มเด่นชัด
จากฉาก “แกรนด์โอเพนนิ่ง” เปิดตัวพรรคอนาคตใหม่ที่ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นำทีมกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคชูมือพร้อมเปิดฟังก์ชันไฟฉายจากสมาร์ทโฟน
สื่อนัยถึงคนหัวทันสมัยจับมือกันไล่ความมืดที่ครอบงำสังคมไทย
รูปแบบอีเวนต์แทบจะลอกกันมาเลยกับการเปิดตัวพรรคไทยรักไทย ภาพของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่นำแคมเปญคิดใหม่ทำใหม่ ขี่ดาวเทียมมาตีตลาดการเมืองไทย
ดึงคะแนนนิยมรากหญ้าภาคอีสาน ภาคเหนือ ฝังใจแบบหัวปักหัวปําจนถึงวันนี้
หรือกับอีเวนต์ล่าสุดของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่นัดกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโชว์ข้างถนน ทำท่าซ้อมอดอยากปากแห้ง ประชดประชันเบิ้ลบลัฟเศรษฐกิจในยุครัฐบาล คสช.
ไม่ได้อยู่ดีกินดีเหมือนยุคยี่ห้อ “ทักษิณ” บริหาร
แน่นอนมุกแบบนี้ มันต้องมี “โคตรเซียนการตลาด” บริษัทเอเจนซีมืออาชีพ เขียนบท คิดพล็อตให้กระตุ้นกระแสกองเชียร์แนวร่วม เลี้ยงเรตติ้งมวลชนอย่างเป็นระบบ
ชัดเจนว่าไม่ใช่ “ม็อบธรรมชาติ” ที่โหมแบบม้วนเดียวจบ
และนั่นยังโยงไปถึงปรากฏการณ์ที่ “บิ๊กตู่ตำรวจ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. เปิดหน้าท้ารบกับฝ่ายความมั่นคง คสช. แบบเต็มตัว
เทกแอ็กชันโชว์ความเป็นแนวร่วมโค่นรัฐบาล “ลุงตู่”
ออกหน้าแสดงตัวแสดงตนเป็น “นายประกัน” ให้แกนนำม็อบอยากเลือกตั้งที่ถูกล็อกตัวดำเนินคดี เปิดหน้าชนตำรวจทั้ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ทั้ง “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ท้าตีท้าต่อยกับทหาร คสช. แบบไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม
ในอารมณ์แม่ทัพใหญ่ ล้อกับข่าววงใน “นายหน้าดูไบ” ต่อสายเชื่อมเครือข่าย
ทำเอ็มโอยู แผนร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ พรรคอนาคตใหม่ ม็อบคนอยากเลือกตั้ง รวมทั้งทีมของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เชื่อมกับศูนย์กลางพรรคเพื่อไทย ฐานใหญ่ของ “ทักษิณ”
เกี่ยวโยงกันอย่างมีนัยสำคัญ
ไม่ใช่แค่ศัตรูร่วมคนเดียวกัน แต่มันคือยุทธศาสตร์แยกกันเดินรวมกันตี
ตามรูปการณ์ที่ออกมา ถึงแม้ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง จะได้สิทธิ์ถือธงนำพรรคเพื่อไทย แต่ยังต้องฝ่าแรงเสียดทานเจ๊ๆเฮียๆในป้อมค่าย
ถึงที่สุดยังไม่รู้ใครจะเป็นผู้เล่น “ตัวจริง” ของ “นายใหญ่” กันแน่.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: