PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สถานีคิด : พปชร.ก็พร้อมนี่นา : โดย นฤตย์ เสกธีระ

สถานีคิด : พปชร.ก็พร้อมนี่นา : โดย นฤตย์ เสกธีระ



ติดตามความฮึกเหิมของพลพรรคที่กำลังเข้าสู่พรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. แล้วสนุกไม่น้อย
ยิ่งวันที่กลุ่ม 3 มิตรที่มี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นำอดีต ส.ส.และนักการเมืองท้องถิ่น 60 คนไปเสริมทัพแล้ว

ยิ่งสนุกมากๆ
นายสมศักดิ์บอกในวันเข้าพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นวันประวัติศาสตร์

พร้อมกันนั้นได้วิเคราะห์ข้อดีของพรรคเอาไว้ว่า นโยบายของ พปชร.ถือว่าดี กระแสหนุนพรรคก็ถือว่าดี

ข้อสำคัญคือ พปชร.ต้องเปลี่ยนความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองเก่าให้ได้

ถ้าไม่ได้โอกาสชนะก็ยาก

อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์มองด้วยสายตานักการเมืองผู้คร่ำหวอด บอกว่าสำหรับการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้

รัฐธรรมนูญได้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา จึงต้องใช้ประโยชน์

ทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญแปลเป็นคะแนนได้ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ

นั่นคือกลุ่ม 3 มิตร ซึ่งนายสุริยะบอกว่าหลังจากเข้าพลังประชารัฐแล้ว 3 มิตรก็ยุบเลิกไป

อันนี้ต้องคอยดูว่าจะมีมุ้งเล็กหรือไม่มี

ลองมาฟังความคิดเห็นจากแกนนำอดีต ส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำของ นายสุชาติ ตันเจริญ

มาฟัง นายรณฤทธิชัย คานเขต แกนนำที่บอกว่า อีกประมาณ 1-2 วัน นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำจะมาสมัคร พปชร.

ไปคราวนี้มีผู้พร้อมสมัครรับเลือกตั้ง ประมาณ 30 คน จะขอไปอยู่ใต้ร่มเงาพลังประชารัฐ

นายรณฤทธิชัยบอกว่า สาเหตุที่ไปอยู่พรรคนี้ เพราะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน

สาเหตุที่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอนเพราะมี ส.ว.จำนวน 250 คนสนับสนุน

ฟังแล้วครื้นเครงดีไหม

พรรคพลังประชารัฐที่เห็นชัดๆ คือ มีรัฐมนตรีจากรัฐบาลปัจจุบันเป็นหัวหน้าและแกนนำจำนวน 4 คน


แล้วพรรคนี้ก็เป็นพรรคที่นักการเมืองรุ่นเก๋ามองว่าได้เปรียบในการเลือกตั้ง

เพราะรัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเรา

และพรรคนี้ก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เพราะมี ส.ว.250 คนให้การสนับสนุน

ฟังแล้วอลังการมาก

และฟังแล้วไม่น่าเชื่อข่าวที่สะพัดว่าพรรคพลังประชารัฐคือต้นเหตุที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ออก ม.44 ให้ กกต.ไปจัดการปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่

เพราะในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมดในขณะนี้ ดูเหมือนว่าพรรค พปชร.นี่แหละที่พร้อมมาก

มีคน มีนโยบาย มีความได้เปรียบในหลายเรื่อง

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เพิ่งได้หัวหน้า และมีเรื่องกระทบกระทั่งกันหลังจากการเลือกตั้งหัวหน้า
แต่พรรคพลังประชารัฐไม่มีความขัดแย้งเรื่องหัวหน้า

ขณะที่พรรคเพื่อไทยยังลูกผีลูกคนเพราะกรรมการบริหารพรรคถูกข้อหาขัดคำสั่ง คสช.

ดีไม่ดีอาจถูกยุบพรรคเอาได้ระหว่างเลือกตั้ง

แต่พรรคพลังประชารัฐไม่มีปัญหาเรื่องกฎหมาย

ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็แลดูเป็นมิตรมากกว่าศัตรู พรรคการเมืองใหม่อื่นๆ ก็ไม่ได้คาดหวังเป็นรัฐบาล

ณ เวลานี้พรรคพลังประชารัฐน่าจะพร้อมที่สุดแล้ว

ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเลื่อนกำหนดเลือกตั้งออกไปจากเดิม

ตกลงกันวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 กันมาแล้วใช่ไหม

ตกลงกันแล้วก็เลือกตั้งในวันที่ตกลงกันนั่นแหละดีที่สุด

นฤตย์ เสกธีระ
maxlui2810@gmail.com

ไม่มีความคิดเห็น: