สถานีคิด : พปชร.ก็พร้อมนี่นา : โดย นฤตย์ เสกธีระ
ยิ่งวันที่กลุ่ม 3 มิตรที่มี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นำอดีต ส.ส.และนักการเมืองท้องถิ่น 60 คนไปเสริมทัพแล้ว
ยิ่งสนุกมากๆ
นายสมศักดิ์บอกในวันเข้าพรรคพลังประชารัฐว่า เป็นวันประวัติศาสตร์
พร้อมกันนั้นได้วิเคราะห์ข้อดีของพรรคเอาไว้ว่า นโยบายของ พปชร.ถือว่าดี กระแสหนุนพรรคก็ถือว่าดี
ข้อสำคัญคือ พปชร.ต้องเปลี่ยนความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองเก่าให้ได้
ถ้าไม่ได้โอกาสชนะก็ยาก
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์มองด้วยสายตานักการเมืองผู้คร่ำหวอด บอกว่าสำหรับการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้
รัฐธรรมนูญได้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา จึงต้องใช้ประโยชน์
ทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญแปลเป็นคะแนนได้ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ
นั่นคือกลุ่ม 3 มิตร ซึ่งนายสุริยะบอกว่าหลังจากเข้าพลังประชารัฐแล้ว 3 มิตรก็ยุบเลิกไป
อันนี้ต้องคอยดูว่าจะมีมุ้งเล็กหรือไม่มี
ลองมาฟังความคิดเห็นจากแกนนำอดีต ส.ส.กลุ่มบ้านริมน้ำของ นายสุชาติ ตันเจริญ
มาฟัง นายรณฤทธิชัย คานเขต แกนนำที่บอกว่า อีกประมาณ 1-2 วัน นายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำจะมาสมัคร พปชร.
ไปคราวนี้มีผู้พร้อมสมัครรับเลือกตั้ง ประมาณ 30 คน จะขอไปอยู่ใต้ร่มเงาพลังประชารัฐ
นายรณฤทธิชัยบอกว่า สาเหตุที่ไปอยู่พรรคนี้ เพราะได้เป็นรัฐบาลแน่นอน
สาเหตุที่ได้เป็นรัฐบาลแน่นอนเพราะมี ส.ว.จำนวน 250 คนสนับสนุน
ฟังแล้วครื้นเครงดีไหม
พรรคพลังประชารัฐที่เห็นชัดๆ คือ มีรัฐมนตรีจากรัฐบาลปัจจุบันเป็นหัวหน้าและแกนนำจำนวน 4 คน
เพราะรัฐธรรมนูญดีไซน์มาเพื่อพวกเรา
และพรรคนี้ก็มีโอกาสได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เพราะมี ส.ว.250 คนให้การสนับสนุน
ฟังแล้วอลังการมาก
และฟังแล้วไม่น่าเชื่อข่าวที่สะพัดว่าพรรคพลังประชารัฐคือต้นเหตุที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ออก ม.44 ให้ กกต.ไปจัดการปัญหาการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่
เพราะในบรรดาพรรคการเมืองทั้งหมดในขณะนี้ ดูเหมือนว่าพรรค พปชร.นี่แหละที่พร้อมมาก
มีคน มีนโยบาย มีความได้เปรียบในหลายเรื่อง
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เพิ่งได้หัวหน้า และมีเรื่องกระทบกระทั่งกันหลังจากการเลือกตั้งหัวหน้า
แต่พรรคพลังประชารัฐไม่มีความขัดแย้งเรื่องหัวหน้า
ขณะที่พรรคเพื่อไทยยังลูกผีลูกคนเพราะกรรมการบริหารพรรคถูกข้อหาขัดคำสั่ง คสช.
ดีไม่ดีอาจถูกยุบพรรคเอาได้ระหว่างเลือกตั้ง
แต่พรรคพลังประชารัฐไม่มีปัญหาเรื่องกฎหมาย
ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็แลดูเป็นมิตรมากกว่าศัตรู พรรคการเมืองใหม่อื่นๆ ก็ไม่ได้คาดหวังเป็นรัฐบาล
ณ เวลานี้พรรคพลังประชารัฐน่าจะพร้อมที่สุดแล้ว
ดังนั้น จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเลื่อนกำหนดเลือกตั้งออกไปจากเดิม
ตกลงกันวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 กันมาแล้วใช่ไหม
ตกลงกันแล้วก็เลือกตั้งในวันที่ตกลงกันนั่นแหละดีที่สุด
นฤตย์ เสกธีระ
maxlui2810@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น