เดินหน้าสู่สนามเลือกตั้ง “พลังประชารัฐ” ประกาศกลายๆ ว่าจะส่ง 3 ชื่อชิงเก้าอี้นายกฯ 1 ในนั้นชื่อ “ประยุทธ์” “เพื่อไทย” ก็ไม่ต่างกันชิงเสนอ 3 ชื่อเช่นกัน “หน่อย-ชัชชาติ-โภคิน”
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้เมื่อ กกต.ประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน 24 มี.ค. 62 และกำหนดให้วันที่ 4-8 ก.พ. 62 เป็นวันรับสมัคร
จากนี้ไปจึงเป็นเรื่องของพรรคการเมือง นักการเมืองที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้ผิดกติกา
เพราะทุกคนจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบกันเอง
เมื่อรัฐธรรมนูญ กฎหมายเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปจากเดิมด้วยรูปแบบจัดสรรปันส่วนผสม ทุกคะแนนล้วนมีความหมาย
จากนี้ไปเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบผิดพลาดไปก็หมายถึงอาจจะไม่ได้ลงเลือกตั้ง
หรือแรงไปกว่านั้นอาจจะถึงขั้น “ยุบพรรค” ได้
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยก็คือพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะส่งใครในบัญชีรายชื่อเพื่อชิงเก้าอี้นายกฯ จำนวนพรรคละ 3 คน
เว้นแต่พรรคการเมืองที่ได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 คน แม้จะเสนอชื่อได้ แต่ถ้าผลการเลือกตั้งออกมาไม่ได้ 25 คน ก็ต้องถูกตัดชื่อออกไป
ที่เห็นเวลานี้มีหลายพรรคที่เตรียมบุคคลเอาไว้แล้ว แต่ก็มีอีกหลายที่ประกาศไม่เสนอชื่อเพราะคาดการณ์แล้วว่าส่งไปก็ไม่มีประโยชน์
หรืออีกหลายพรรคก็จะไม่ส่งชื่อ เนื่องจากมีการจับมือกันในทางลับหรือเปิดเผยว่าต้องการเลือกคนที่เป็นนายกฯเอาไว้แล้วจึงไม่ส่งตัวแทนเข้าแข่งขัน
ประชาธิปัตย์นั้นแน่นอนแล้วว่าจะส่ง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคเพียงคนเดียว เพื่อหวังว่าจะเป็น “ตัวแปร” และแสดงจุดยืนของพรรค
ในสถานการณ์ที่เป็นจริงคู่ต่อกรสำคัญน่าจะอยู่ที่พรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐว่าจะส่งใครเท่านั้น
“ไทยรักษาชาติ” (ทษช.) ก็คงไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าใดนักส่งเพื่อแสดงจุดยืนของพรรคเท่านั้น เนื่องจากเป็นเครือข่ายกับเพื่อไทย (พรรคแม่) อยู่แล้ว
ล่าสุด ความชัดเจนเริ่มปรากฏแล้วว่าทั้ง 2 พรรค จะส่งผู้ใดลงสมัคร
เริ่มจาก “พลังประชารัฐ” น่าจะลงตัวแล้วเพียงแต่รอวันเวลาเท่านั้น
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”
“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” คนที่อยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด
“อุตตม สาวนายน” หัวหน้าพรรค
เป็นความลงตัวที่ทำให้เห็นว่ามีความพร้อมทั้งนโยบาย และคนที่จะนำพรรคเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจ
มีคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้าร่วมหรือไม่ ความจริงแล้วไม่น่าจะตั้งคำถามแบบนี้เพราะหากเปลี่ยนใจ
“พลังประชารัฐ” มีหวังอ่วมอรทัยแน่
“เพื่อไทย” ล่าสุดบอกว่าจะมีการเสนอ 3 ชื่อเข้าชิงเก้าอี้นายกฯ
“คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง
“ชัชชาติ สิทธิพันธุ์”
“โภคิน พลกุล”
ตรงนี้จึงน่าจะมีคำถามได้ว่าทำไมจึงไม่ส่งชื่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ คำตอบที่ชัดเจนก็คือชื่อนี้ขายไม่ได้
เป็นแค่หัวหน้าพรรคขัดตาทัพเท่านั้น เพราะการเสนอชื่อทั้ง 3 เพื่อแสดงให้เห็นว่าเพื่อไทยมีความพร้อมทั้งนโยบายและตัวบุคคล
ประเด็นอยู่ที่ว่าฝ่ายไหนจะได้เสียงสนับสนุนมากกว่ากันเท่านั้น!!!
“ลิขิต จงสกุล”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น