PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2562

แบโผดวลชื่อนายกฯ!

มาตามนัด โดยพร้อมเพรียง
กระแสบีบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สละเก้าอี้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ไล่หลังมาทันทีภายหลังการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง และกำหนดฤกษ์กาบัตรลงคะแนนในวันที่ 24 มี.ค.2562
พรรคใหญ่ พรรคเล็กประสานเสียงกดดัน “ลุงตู่” โชว์สปิริตไขก๊อก ข้ามช็อตในคิวที่ 4 กุมารค่ายพลังประชารัฐยังไม่ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี
ดักคอกันล่วงหน้าในซีนที่รู้ๆกันอยู่ “ลุงตู่” เตรียมสลัดยูนิฟอร์มกรรมการกลายมาเป็นผู้เล่นตีตั๋วไปต่อในสนามการเมืองแน่
ตามสัญญาณจาก นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะประกาศความชัดเจนรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคในสัปดาห์หน้า ตบมุกหยอดท้ายจะมีเสียงเฮคนทั้งประเทศตามมา
ออกตัวโปรโมตดังๆถึงขนาดนี้ คงเดากันไม่ยาก ถึงอย่างไรชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ติดโผเบอร์หนึ่งบัญชีนายกฯของค่ายพลังประชารัฐแน่ แม้เจ้าตัวจะยังไม่ตกลงปลงใจอย่างเป็นทางการ
แต่ที่จะได้พ่วงตามมาด้วยคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของ “ลุงตู่” ที่จะติดชาร์ต 1 ใน 3 ถูกชูเป็นนายกรัฐมนตรีในสังกัดพรรคน้องใหม่
ฟอร์มทีมลงตัวมี “บิ๊กตู่” อยู่หัวแถว นายอุตตมเป็นเบอร์ 2 ในโควตาหัวหน้าพรรค และ “สมคิด” คัดท้ายลำดับ 3
จัดแพ็กเกจใหญ่เลือก “ลุงตู่” ได้ “สมคิด” พ่วงมาด้วย เป็นสัญลักษณ์สร้างความมั่นใจด้านความมั่นคง และขายความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจที่เมกะโปรเจกต์ต่างๆที่วางรากฐานไว้จะได้รับการสานต่อ
โดยมีนายสมคิดเป็นตัวเชื่อมประสานระหว่าง “บิ๊กตู่” กับพรรคพลังประชารัฐ
ค่ายน้องใหม่เพียบพร้อมทั้งกระแสและกระสุน และยังมีความเก๋าจากพวกรุ่นใหญ่ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สมศักดิ์ เทพสุทิน” ช่วยประคอง
วางเป้าหมายกวาด ส.ส.ให้ได้ตามเป้า 150 ที่นั่ง ไม่ถึงขั้นชนะเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 1 แค่หยุดพรรคเพื่อไทยไม่ให้กวาดผู้แทนแบบแลนด์สไลด์
ประเมินทิศทางแล้ว พลังประชารัฐมีความพร้อมลงตัวมากกว่าพรรคอื่นๆ
ผิดกับฝั่งคู่แข่งสำคัญ พรรคเพื่อไทยที่ยังสู้กันฝุ่นตลบ ต้องลุ้นชิงดำระหว่าง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” กับ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ใครจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่คนแดนไกลทุบโต๊ะให้อยู่ในบัญชีเบอร์ 1 นายกรัฐมนตรี
ขณะที่พรรคเครือข่ายนายใหญ่อย่าง “ไทยรักษาชาติ” ก็แบโผส่งชื่อ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค กับ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรค เป็นตัวชูโรง
ฟากพรรคประชาธิปัตย์ยังคงใช้บริการ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ส่งเป็นหัวหอกชื่อเดียวชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับพรรคขนาดกลาง อาทิ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติไทย พรรคภูมิใจไทย ต่างเริ่มทยอยเปิดตัวคนถือธงนำ
แต่ละพรรคเริ่มเฉลยข้อสอบเปิดตัวแคนดิเดตผู้นำ ดวลชื่อนายกฯกันสนุก
สถานการณ์เดินเข้าสู่โหมดตะลุมบอนหาเสียงสู้กันเต็มอัตราศึก ภายใต้การยกการ์ดสูงระวังตัวเต็มที่ ตามเงื่อนไขกติกาเลือกตั้งฉบับใหม่ หลายเรื่องมีความละเอียดอ่อน
โดยเฉพาะการใช้สื่อโซเชียลมีเดียหาเสียงที่มีการควบคุมเข้มข้น มีรายละเอียดหยุมหยิมยุ่งยาก ถึงขั้นต้องแจกแจงรายละเอียดการหาเสียงในโลกโซเชียลต่อ กกต.ทุกอย่าง
สุ่มเสี่ยงตายน้ำตื้นกันได้ง่ายๆ ถ้าพลาดท่าขึ้นมา
อย่างที่เห็นอาการวิตกของบรรดาคีย์แมนและผู้สมัครหลายคนพากันหยุดเคลื่อนไหวบนโลกโซเชียล พักรบการสื่อสารในเฟซบุ๊ก เลิกทวีตกันเป็นทิวแถว
ผวาตกเป็นเหยื่อสังเวยกติกาใหม่ที่ไม่รู้จะไปเข้าเหลี่ยมผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่
ยังไม่นับรวมกรณีการรีบเก็บแผ่นป้ายหาเสียงที่นักการเมืองเร่งติดล่วงหน้าโดยที่ กกต.ยังไม่อนุญาต หรือกรณีจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบตามเงื่อนไขที่ตามข้อมูลจาก กกต. ขณะนี้มีแค่ 2 พรรคการเมืองเท่านั้นดำเนินการถูกต้อง
หลายพรรคลนลานเร่งดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคให้ทันก่อนถึงวันรับสมัคร ส.ส.
ระเบียบปฏิบัติหาเสียงเปลี่ยนแปลงไป สวนทางความเคยชินในอดีต นักเลือกตั้งบ่นอุบสร้างความยุ่งยากมากมาย ทำลายบรรยากาศหาเสียงแบบเดิมๆ
เตรียมตัวมายาวนาน พลาดท่าแค่นิดเดียว มีสิทธิตกม้าตายทันที.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: