PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2562

Good Monday IO ของทักษิณ



Good Monday IO ของทักษิณ

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ผู้ต้องคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดา และหลบหนีหมายจับคดีทุจริตประพฤติมิชอบของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกหลายคดี
ล่าสุด คิกออฟการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ ด้วยการจัดรายการ Good Monday
น่าจะเรียก IO ของทักษิณ
1. ทักษิณโฆษณาผ่านเฟซบุ๊ค Thaksin Shinawatra
อ้างว่า “Good Monday รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกกับดร.ทักษิณ ชินวัตร เกิดขึ้น เพราะผมเสียดายเวลา 12 ปีที่อยู่ในต่างประเทศ ได้เห็นความเจริญและความล้าหลังของหลายประเทศในโลก ได้พูดคุยกับผู้นำประเทศทั้งปัจจุบันและอดีตผู้นำทางธุรกิจ นักวิชาการ นักเทคโนโลยีทั่วโลก จึงอยากจะมาเล่าสู่พี่น้องคนไทยทุกคน ที่ทุกวันจันทร์เราตื่นมาทำงานเราอยากจะรู้ว่าสิ่งที่เราทำมาหากินทุกวันนี้ มันยังดีอยู่ไหม ต้องปรับเปลี่ยนอะไร เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน... ผมจะพยายามมาพบกับท่านให้ได้ในทุกวันจันทร์ที่ Good Monday”
พูดง่ายๆ ว่า เป็นรายการทอล์ก เดี่ยวไมโครโฟน เหมือนสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรีนั่นแหละ
โดยครั้งแรก ทักษิณได้พูด (คลิปเสียง) เรื่อง รู้ให้ทันเพื่อรับมือกับโลก 2020” เศรษฐกิจโลกในปี 2019 และ 2020 ที่จะกระทบกับรายย่อย เรื่องวิกฤติเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ก็มีเรื่องระบบการเงินโลก เทคโนโลยีหุ่นยนต์ เทคโนโลยีด้านสุขภาพ เรื่องว่ามนุษย์จะมีอายุยืนยาวขึ้น สังคมไทยต้องเตรียมสังคมของคนสูงอายุไว้ ฯลฯ
ทักษิณบอกว่า “…วันหลัง ถ้าวันจันทร์ไหนผมว่าง ผมจะมาพูดกับพี่น้องสักครั้งนึง อาจจะเป็นจันทร์เว้นจันทร์ หรือว่าบางจันทร์ก็อาจจะติดกันแล้วแต่นะครับจะพยายามเล่าอะไรให้ฟังให้เป็นความรู้ดีกว่านะครับ เรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ก็ไม่ค่อยอยากเสียเวลาพูด เราพูดกันแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตพวกเราดีกว่า....
2. เนื้อหาสาระที่ทักษิณนำมาพูด ไม่ใช่เรื่องลึกซึ้ง หรือใหม่สดอะไรเลย
เป็นเรื่องที่มีคนพูดกันมาเยอะแยะ หลายคนให้ข้อมูลที่ลึกซึ้ง และสะท้อนความรู้เท่าทันจริงๆ มากกว่า
แต่ที่น่าสนใจ และ รู้ทันทักษิณคือ อะไร?
วาระแอบแฝงที่เลือกเคลื่อนไหวในช่วงนี้ (ช่วงก่อนงานพระราชพิธีและการเลือกตั้ง) คืออะไร?
การเลือกแสดงบทบาทผู้รู้เท่าทันโลก เสมือนปราศรัยสร้างภาพลักษณ์ฝ่ายเดียว แสดงวิสัยทัศน์ สวยๆ หล่อๆ อาบน้ำแต่งตัวเท่ๆ แต่ความเป็นจริงที่ผ่านมาเป็นอย่างไร? “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำทิ้งปัญหาผลกระทบทางเศรษฐกิจไว้แค่ไหน? สร้างภาระหนี้สินจากโครงการทุจริตจำนำข้าวมโหฬารขนาดไหน? แล้วจริงๆ เจ้าตัว บงการใช้นักเคลื่อนไหว นักเลือกตั้ง ประเภทที่ไม่ได้ห่วงใยประเทศชาติส่วนรวมจริงๆ เลยอย่างไร?
3. ในความเป็นจริง ความสำเร็จทางธุรกิจของทักษิณ ล้วนแต่ได้มาจากสัมปทานผูกขาด
อาศัยอำนาจรัฐเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตนเอง เอารัดเอาเปรียบคู่แข่งขัน
คนละเรื่อง คนละโลก คนละวิธีการกับที่พยายามพูดจาให้ตัวเองดูดีอยู่ในวันนี้ทั้งสิ้น
ตอนมีอำนาจรัฐ ผ่องถ่ายเงินออกไปไว้ต่างประเทศจริงๆ เท่าไหร่?
พอพ้นจากอำนาจรัฐไปแล้ว ก็ไปทำธุรกิจอะไรประสบความสำเร็จบนเวทีโลกบ้าง?
ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน เคยเขียนบทความกะเทาะเปลือกของทักษิณไว้อย่างถึงแก่น กระชากหน้ากากที่พยายามสร้างภาพว่าตนเองเป็นนักประชาธิปไตย เป็นนักธุรกิจโลกเสรีอย่างหมดเปลือก
บางประเด็น ที่ ดร.สมเกียรติตีแผ่ไว้ เช่น
3.1 “ตัวผมเองรู้จักคุณทักษิณมาตั้งแต่แรกเริ่ม ครั้งที่ผมเป็นนักข่าวโทรทัศน์ในวัยหนุ่ม และคุณทักษิณก็กำลังเป็นนักธุรกิจที่กำลังไต่เต้าขึ้นสู่ความมั่นคงทางธุรกิจ ขยายอำนาจเข้าสู่การเมือง ตอนนั้นคุณทักษิณร่ำรวยมากขึ้นจนสังคมเห็นผิดสังเกต ผมยกมือลุกขึ้นถามในที่ประชุมตอนที่ฟังคุณทักษิณบรรยาย โดยถามว่า คุณทักษิณ คุณร่ำรวยมากแล้ว ทำไมจึงไม่จัดระบบ และงบประมาณของบริษัท เอไอเอส และบริษัท ชินคอร์ป แบ่งเงินเพื่อการวิจัยและพัฒนาไว้บ้างสัก2 – 3 เปอร์เซ็นต์ของยอดเงินรายได้ของบริษัท อย่างเช่น บริษัทสำคัญในโลกเช่น บริษัท ซัมซุง ในเกาหลีใต้ ที่ตอนนั้นเริ่มโดดเด่น
คุณทักษิณ ตอบผมว่า อาจารย์ เอาเงินไปวิจัยเพื่อให้นวัตกรรมได้เทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นของตัวเองมันสิ้นเปลืองมาก ไม่คุ้มกันนั่นคือคำตอบของคุณทักษิณ
คำตอบนี้ทำให้ผมไม่คิดว่าคุณทักษิณจะสร้างอาณาจักรธุรกิจอุตสาหกรรมอะไรให้เป็นอนาคตทางนวัตกรรมระบบเศรษฐกิจของไทย ผมจึงไม่เห็นว่าคุณทักษิณจะมีคุณค่าอะไรมากไปกว่าคนมีเงินมากธรรมดาๆ เท่านั้น
3.2 “..ตอนที่คุณทักษิณพยายามจะเอาสัมปทานไอบีซี เคเบิลทีวี จาก อสมท ตอนนั้นผมทำงานร่วมอยู่กับ อสมท แต่จนแล้วจนรอดคุณทักษิณก็ยังไม่ได้สัมปทานแถมเทคโนโลยีตัวเองก็ไม่มี ต้องไปให้บริษัทเคลียร์วิว จากฮาวาย มาร่วมทุนด้วย มาวันหนึ่งคุณทักษิณก็เชิญผมไปนั่งคุยด้วย กินข้าวขาหมูราชวัตรที่สำนักงานใหญ่ของไอบีซี อาคารหลังเล็กๆ ย่านราชวัตร คุณทักษิณ ถามผมตัวต่อตัวว่า ผมคิดอย่างไร ถ้าตัวเองอยากจะเข้าไปเป็นผู้อำนวยการ อสมท เสียเอง
คุณทักษิณต้องการเข้าไปจัดการเอาสัมปทาน ไอบีซี จาก อสมท ให้เป็นตัวของตัวเองอย่างง่ายๆ ตอนนั้นผมเป็นผู้สื่อข่าว และผู้ประกาศข่าว ในฐานะบริษัทเอกชนเล็กๆเข้าร่วมงานกับช่อง 9 อสมท ซึ่งผมเดาว่าคุณทักษิณต้องการให้ผมร่วมเป็นพวกด้วย
ผมตอบคุณทักษิณไปว่า คุณทักษิณ คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้ คุณจะเอาสัมปทานจาก อสมท และจะเข้าไปเป็นผู้อำนวยการ อสมท เสียเองอย่างนี้ ไม่ได้
คุณทักษิณตอบว่า ถ้างั้น ผมให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ แล้วก็จะได้ตั้งคนที่ไว้ใจได้เป็นผู้อำนวยการ อสมท จะได้จัดการเอาสัมปทานมาให้ ไอบีซี ของชินคอร์ป และคุณทักษิณ ให้ได้ แล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ผมนี่ทึ่งในขีดความสามารถในการทุจริตแบบไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายของคุณทักษิณจริงๆ
3.3 “...คุณทักษิณ โดยบริษัท ชินคอร์ป ก็เข้าไปซื้อหุ้นสถานีโทรทัศน์ไอทีวี จาก 10 เปอร์เซ็นต์ พยายามให้มากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่กฎเดิมห้ามไม่ให้ใครถือหุ้นเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณทักษิณก็แก้ไขกฎเกณฑ์จนทำได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ มันเหลือติดอยู่ที่ว่าค่าสัมปทานไอทีวีนั้น จะต้องจ่ายให้กับรัฐแพงมากถึง 2.5 หมื่นล้านบาท ในช่วง 30 ปี คุณนิวัฒน์บุญทรง ซึ่งปัจจุบันชื่อ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล
รมว.พาณิชย์ และเป็นเพื่อนนักเรียนทุนอเมริกัน รุ่นเดียวกับผม ถือว่าเป็นเพื่อนนักเรียนสมัยเป็นวัยรุ่นไปต่างประเทศรุ่นเดียวกัน
ตอนนั้นคุณนิวัฒน์ เป็นผู้บริหารบริษัท ชินคอร์ป ของคุณทักษิณ คุณนิวัฒน์ก็ชวนผมเข้าไปทำงานที่ ไอทีวี ผมก็รับงานเพราะอยากบริหารสถานีข่าว เพราะในชีวิตนี้ก็ไม่มีโอกาสเลย ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ทำ แต่ว่าผมก็ตื่นเต้นดีใจ รับงานที่เพื่อนเสนอให้ เป็นรองผู้อำนวยการ ไอทีวี สายงานข่าว ถือว่ามีอำนาจมากถ้าได้ทำงาน เพราะคุมข่าวเกือบทุกเวลานาทีทาง ไอทีวี ผมได้เงินเดือนจากคุณทักษิณ 200,000 บาท รถยนต์ประจำตำแหน่ง 1 คัน ราคา 2 ล้านกว่าบาท
แต่ได้รับคำสั่งว่าผมจะต้องทำข่าวไอทีวี คุมข่าวไอทีวี ช่วยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ให้ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ให้ชนะคุณสมัคร สุนทรเวชให้ได้ ผมในฐานะผู้บริหาร ไอทีวี จะต้องกันไม่ให้ข่าวคุณสมัคร ออกใน ไอทีวี มากกว่าข่าวของคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งสังกัดพรรคไทยรักไทย
ในวันใดที่ผมทำข่าวคุณสมัครมากกว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ผมจะถูกเรียกไปเตือนให้ตรวจสอบเทป แล้วก็บ่นว่า ทำไมผมจึงทำอย่างนั้น แล้วผมก็ถูกขอว่า ผมต้องช่วยพรรคไทยรักไทย ต้องช่วยคุณทักษิณ ซึ่งกำลังไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไอทีวีจะต้องทำข่าวช่วยคุณทักษิณให้ขึ้นครองอำนาจทางการเมืองให้ได้ อันนี้คือคำสั่งจากคณะกรรมการบริหารบริษัท ชินคอร์ป และ ไอทีวี บอกกับผม ต้องการให้นายเขา ไม่ใช่นายผม นายเขา เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เขาบอกว่า ผมไม่ต้องห่วงเรื่องธุรกิจของไอทีวี ไม่ต้องกลัวว่าไอทีวีจะขาดทุน เพราะจะแบ่งงบโฆษณา 50 เปอร์เซ็นต์จากบริษัท ชินคอร์ป มาส่ง ไอทีวี เป็นประจำ แต่ทำอะไรก็แล้วแต่ช่วยคุณทักษิณ เดี๋ยวเอาเงินชินคอร์ป มาใส่โฆษณา 50 เปอร์เซ็นต์ทั้งระบบ ที่เหลืองบชินคอร์ป งบโฆษณาอีก 50 เปอร์เซ็นต์ จะกระจายไปใช้กับสื่อมวลชนทั้งประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายเพื่อนฝูงสื่อมวลชนทั้งหมดให้ดูแลคุณทักษิณให้ดี
นี่คือความจริงของระบอบทักษิณยุคเริ่มแรก...
4. นั่นแค่บางส่วนบางตอน ใครสนใจใคร่รู้ โปรดไปหาอ่านฉบับเต็มได้
กระชากหน้ากากคนบางคน ได้เฉียบคมนัก
สุดท้าย การเลือกเคลื่อนไหวรอบใหม่ ก่อนงานพระราชพิธีสำคัญ ก่อนเลือกตั้ง ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของ IO หรือ Information Operation ยุทธการทางข้อมูลข่าวสารครั้งใหม่ของระบอบทักษิณ แม้ตั้งชื่อว่า Good Monday แต่แต่ทำให้นึกถึง Black Monday (คือเหตุวิกฤติ 19 ต.ค. 1987 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งเหวลงวินาศสันตะโร) โดยกรณีการเคลื่อนไหวของทักษิณอาจไม่ใช่สัญญาณเหตุตลาดหุ้นแต่อาจเป็นตลาดการเมืองและการเคลื่อนไหวที่น่าจะมาเป็นขบวน มาเป็นชุดๆ จับตาดู ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ ทั้งบนดินและใต้ดิน
ระวังอย่าให้กระทบเสถียรภาพของประเทศไทยเราหลังจากนี้ 
สารส้ม


ไม่มีความคิดเห็น: