PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562

น.3คอลัมน์ : 18 วัน เลือกตั้ง ปมเงื่อน ความแจ่มชัด กับ การตัดสินใจ

น.3คอลัมน์ : 18 วัน เลือกตั้ง ปมเงื่อน ความแจ่มชัด กับ การตัดสินใจ



ทั้งๆ ที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก่าแก่ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2489 และตีคู่มากับพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 ตีคู่มากับพรรคพลังประชาชนในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 และตีคู่กับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554

เหตุใดในการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 พรรคประชาธิปัตย์กลับหล่นจากอันดับ 2 มาเป็นอันดับ 3
คำตอบเพราะความไม่แจ่มชัด

ขณะที่พรรคเพื่อไทยมีความแจ่มชัดว่าไม่เอา คสช. ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างแน่นอน แต่พรรคประชาธิปัตย์พยายามชูธง 2 ผืน

ผืน 1 ต้านระบอบทักษิณ ผืน 1 ต้านนายกรัฐมนตรีคนนอก

ธง 2 ผืนที่โบกสะบัดขึ้นมาเหนือพรรคประชาธิปัตย์นี่แหละที่ก่อให้เกิดสภาวะละล้าละลัง กระทั่งเกิดความโน้มเอียงที่จะต้านระบอบทักษิณเหนือกว่าด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ในที่สุดก็ถูกพรรคพลังประชารัฐซึ่งแจ่มชัดกว่า “แซง”

พรรคพลังประชารัฐอาจเป็นพรรคการเมือง “ใหม่” เมื่อเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือเมื่อเทียบกับพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนา

แต่พรรคพลังประชารัฐชัดเจน

เป็นความชัดเจนที่พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองของ คสช. มีเป้าหมายเพื่อสืบทอดอำนาจของ คสช.

นี่คือความเป็นเอกภาพระหว่าง “คสช.” กลับ “พลังประชารัฐ”

หากถามว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคพลังชาติไทย พรรคพลังท้องถิ่นไท
พรรค(พลัง)ประชาชนปฏิรูป พรรคพลังธรรมใหม่

ก็ล้วนแล้วแต่เคยประกาศหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เหตุใดพลันที่พรรคพลังประชารัฐปรากฏขึ้น ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่าพรรคประชาชนปฏิรูป ก็กลายเป็นพรรคอันดับรอง


นั่นก็เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็น “ของจริง”

ความแจ่มชัดนั้นเองทำให้พรรคเพื่อไทยยังสามารถรักษาความเป็นพรรคอันดับ 1 ในสนามเลือกตั้ง เช่นเดียวกับ ความแจ่มชัดนั่นเองทำให้พรรคพลังประชารัฐทะยานมาอย่างรวดเร็ว

ทะยานกระทั่งเหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์

หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทบทวนและแสดงความแจ่มชัดเชื่อได้เลยว่าพรรคอนาคตใหม่ซึ่งแจ่มชัดมากกว่าจะทะยานไปอยู่อันดับ 3

ความเป็นจริงผ่าน “โพล” ก็คือ พรรคอนาคตใหม่เดินหน้าแซงพรรคเก่าแก่อย่างพรรคชาติพัฒนา พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย อย่างรวดเร็ว

แทบไม่ต้องพูดถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย

ความแจ่มชัดในทิศทางนั่นเองทำให้พรรคอนาคตใหม่ได้กลายเป็นอีก “ความหวัง” สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเห็นการสืบทอดอำนาจของ คสช.

เป็นไปได้หรือไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่จะทะยานข้ามพรรคประชาธิปัตย์

เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะทะยานข้ามพรรคพลังประชารัฐไปอยู่ใกล้ๆ กับพรรคเพื่อไทย

ไม่ว่าทฤษฎีสามก๊ก ไม่ว่าทฤษฎีแทงกั๊ก กำลังได้รับการพิสูจน์จากสภาพความเป็นจริงของการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม

พรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐปะทะกันแน่นอน

มีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่จะทะยานข้ามพรรคประชาธิปัตย์และทิ้งห่างพรรคแทงกั๊กทั้งหลายมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ

นี่คือทิศทางที่จะปรากฏภายใน 3 สัปดาห์ข้างหน้า

ไม่มีความคิดเห็น: