PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2562

ใส่ชื่อมาเพื่อกวักแต้ม

ถึง ว.5 รหัสความหมายแปลว่า “ลับเฉพาะ” แต่ที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.ไม่เข้าทำเนียบฯตั้งแต่ออกไปภารกิจช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ไม่กลับที่ทำการ ข่าวรายงานว่า ว.5

มาเฉลยในวันรุ่งขึ้น รองโฆษกรัฐบาลระบุว่า นายกฯไม่เข้าทำเนียบฯเพราะต้องไปตรวจสุขภาพทั่วไปที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ รวมทั้งเช็กอาการสายตา หลังจากลงพื้นที่ที่ผ่านมาบ่นหลายครั้งว่าเจ็บตา เพราะอ่านหนังสือมาก ส่วนสภาพร่างกายด้านอื่นยังคงแข็งแรงดี

ถอดรหัสผู้นำ ว.5 ที่ว่า ก็คือเรื่องของการ “ลาป่วย” ใช้สิทธิแวบไปหาคุณหมอครั้งแรกในรอบ 5 ปี

ไม่มีอะไรที่จะทำให้ถูกมองไปในแง่ “ป่วยการเมือง” แต่ประการใด

เพราะหลายเรื่องก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ถึงแม้หลังจาก “บิ๊กตู่” ตอบรับขึ้นแท่น มีชื่ออยู่ในบัญชีที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็น “แคนดิเดตผู้นำ” ทำให้เริ่มมีแรงกระแทกมาถึงตัวเป็นระลอกๆ

แต่จอมยุทธการเมืองหน้าใหม่ “บิ๊กตู่” ใช้เคล็ดวิชาปัดอาวุธลับที่พุ่งเข้าหาได้หมด

ทั้งยกเหตุเมินร่วมวงดีเบตประชันวิสัยทัศน์ คิว สนช.ผ่านร่างกฎหมายไซเบอร์ ทีมงานรัฐบาลเร่งดับกระแสละเมิดสิทธิประชาชนอย่างไว เช่นเดียวกับคิวเลือก ส.ว.โค้งสุดท้าย ปมวิพากษ์วิจารณ์ที่คนรัฐบาล คสช.ประสานเสียง ต้องว่าไปตามกติกา จะเข้าทางก็ช่วยไม่ได้

แต่ที่ต้องจับตานับจากนี้เป็นต้นไป ภายหลังจาก กกต.ไฟเขียวให้ “บิ๊กตู่” ที่สวมหมวกหลายใบ ร่วมเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐลงพื้นที่หาเสียงได้

เป็นอีกคิวที่ “บิ๊กตู่” และทีมงานหลังฉากต้องช่วยกันคิดให้รอบคอบ โดยเฉพาะการทำหน้าที่คาบเกี่ยว “หมวกผู้นำ–หมวกหัวหน้า คสช.–หมวกแคนดิเดตนายกฯ พปชร.”

ต้องเช็กจุดเสี่ยง เกินกรอบกติกากฎหมายกำหนด

คิวนี้แว่วว่า ถึงแม้นายกฯจะยังไม่เคาะ แต่ทีมงาน พปชร.จัดโปรแกรมไว้รอพร้อมแล้ว ถ้าผู้นำตัดสินใจเอาไงเอากัน เตรียมจัดเวทีในห้วงโค้งสุดท้าย

ฟลอร์ใหญ่กระตุ้นแต้มที่ จ.นครราชสีมา เวทีปราศรัยในถิ่นฐานบ้านเกิด

ดัน “ลูกย่าโม” อย่าง “บิ๊กตู่” ร่วมมหกรรมหาเสียง เก็บแต้มที่เมืองโคราช

ก็เป็นอะไรที่สะท้อนจังหวะความมั่นใจของทีมงานปั้นผู้นำประจำค่าย พปชร. เชื่อชื่อชั้นดีกรีฝีมือและผลงานใน 5 ปี
ที่ผ่านมา ผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” เป็น “นางกวัก” เรียกคะแนนเสียงได้แน่

โดยเฉพาะปมอดีตบิ๊กท็อปบูตคุมแรงกระเพื่อมอยู่หมัด

ขณะที่กระแสแหยงม็อบ กลัวความขัดแย้งเริ่มกลับมาปะทุอีกครั้ง ทำให้กลบปมเศรษฐกิจที่ยังทรงตัว ถึงแม้ปัญหาปากท้องชาวบ้านยังแก้ไม่เข้าเป้า

ประกาศกลับมา “สานงานต่อ” ก็พอเข็นออกมาขายได้

ที่สำคัญที่ทำให้มั่นใจโชว์ขาย “บิ๊กตู่” ในสนาม แห่ผู้นำมาช่วยเรียกแต้ม เพราะในจังหวะที่อ่านเกมแล้วฝ่ายตรงข้ามเพลี่ยงพล้ำกันเป็นขบวนทัพ

โดยเฉพาะขั้วสำคัญ พรรคเพื่อไทย และเครือข่ายสาขา แนวร่วมค่าย “นายใหญ่” พรรคไทยรักษาชาติ สถานะยังไม่รู้จะถึงบทจบอย่างไร รอคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญปมคำร้องยุบพรรคกรณีเสนอรายชื่อแคนดิเดตผู้นำ วันที่ 7 มี.ค.นี้ ขณะที่พรรคเพื่อชาติ แกนนำสายตรง–สายม็อบ ยังซัดกันนัว

ที่คาดจะเป็นจุด “ผ่องแต้ม” ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน คงต้องปรับแผน

อีกทางถ้าคิดจะ “เท” ไปเติมเต็มค่ายแนวร่วมอย่างพรรคอนาคตใหม่ ก็ต้องเริ่มคิดแผนสำรองกันใหม่กับสถานการณ์ที่หัวขบวนพรรคสีส้มหวาน “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เริ่มโดนล็อกเป้าเขย่าร่วงก่อนส้มสุก


ในห้วงถดถอยของเครือข่ายขั้วใหญ่เพื่อไทยและแนวร่วม ขณะที่ขั้ว “ตัวแปร” พรรคประชาธิปัตย์ ก็ถูกมองแค่เลี้ยงกระแสแต้มตามเป้าไม่ให้ตกขบวนอำนาจ เช่นเดียวกับป้อมค่ายขนาดกลางขนาดเล็กอื่นๆ

ช่วงอย่างนี้มีหรือพลังประชารัฐจะปล่อยผ่านไป

ถึงจังหวะเพชร นาทีทอง ได้เวลาแห่ “บิ๊กตู่” กวักแต้ม.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: