PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562

“ธนาธร” แจง ปมหมายเรียก ม.116 ยัน ไม่ได้พาหลบหนี แค่พา “โรม” ไปส่ง

“ธนาธร” แจง ปมหมายเรียก ม.116 ยัน ไม่ได้พาหลบหนี แค่พา “โรม” ไปส่ง เพื่อให้กำลังใจ ผิดหรือถูกให้สังคมตัดสิน ซัด เผด็จการเล่นมุขเดิมพาไทยจมอยู่ในอดีต เรื่อง”สถาบัน-ทักษิณ”  

4 เม.ย. 62 เวลา 16.40 ที่สยามสแควร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ถูกหมายเรียก ในวันที่ 6 เม.ย. ว่า ในวันที่ 6 เม.ย. ตนจะเดินทางไป สน.ปทุมวัน เวลา 10.00 น. ตามหมายเรียก เพื่อแสดงความจริงใจ ซึ่งกรณีดังกล่าว ตามข่าวที่ปรากฎ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวเกิดเมื่อเดือน มิ.ย. 2558 มีกลุ่มนักศึกษาที่ออกมารณรงค์ ครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร ในวันที่ 22 พ.ค. 2558  ก่อนที่เยาวชนกลุ่มนี้จะโดนคดีความ ทำให้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งเข้าไปให้กำลังใจที่บริเวณ หน้าสน.ปทุมวัน ในวันที่ 24 มิ.ย. 2558 เท่าที่ตนจำได้ รถคันที่ใช้ในวันเกิดเหตุ น่าจะเป็นรถของบริษัทที่มีคุณสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นกรรมการผู้จัดการ 

“ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เดินทางไปให้กำลังใจ เยาวชนกลุ่มนี้ด้วย เมื่อผมไปถึง สน.ประมาณช่วง 2-3 ทุ่ม พอตกดึก เมื่อเยาวชนกลุ่มนี้ได้รับการปล่อยตัวมาจาก สน. ผมอยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน เมื่อพบกับ นายรังสิมันต์ โรม หนึ่งในสมาชิกของเยาวชนกลุ่มนี้ที่ริมถนน ผมเลยถามเขาว่า ออกมาแล้ว กำลังจะไปไหน ผมเลยอาสาไปส่งที่ที่เจ้าตัวต้องการไปให้ เรื่องเป็นแบบนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน การที่คุณรังสิมันต์เดินออกมาจาก สน.ได้ แสดงว่า เขาได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ใน สน.ออกมาแล้ว ผมไปเจอเขาอยู่ข้างถนน กำลังเรียกแท็กซี่กลับบ้าน ผมจึงอาสาไปส่ง เพื่อให้กำลังจิตกำลังใจกัน ซึ่งผมพร้อมชี้แจงทุกประเด้นในเรื่องนี้” นายธนาธร กล่าว 
เมื่อถามว่า มองอย่างที่โดนข้อกล่าวหา มาตรา 116 นายธนาธร กล่าวว่า นี่เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคอนาคตใหม่ เป็นการพยายามทำลายฝั่งตรงข้ามกับการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ 
ถามต่อว่า มองว่า แปลกหรือไม่ เมื่อคดีดังกล่าวผ่านมา 4 ปีแล้ว แต่พึ่งจะโดนออกหมายเรียก นายธนาธร กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องให้สังคงช่วยกันพิจารณา ส่วนตัวไม่มีความกังวลใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมรับมือทุกสถานการณ์ 
“ผมคิดว่า มีความเป็นไปได้ 2 อย่าง คือ 1.พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของสังคมออกจากเรื่องความผิดปกติของการเลือกตั้ง และความกดดันที่มีต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง 2.ความพยายามที่จะทำลายพรรคอนาคตใหม่ รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง จากความกลัว การเติบโตขึ้นของพลังผู้ที่ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของเผด็จการ” นายธนาธร กล่าว 
เขากล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่า หากกระบวนการยุติธรรมและโปร่งใสจริง ตนเชื่อว่า คดีที่เกิดกับตน นายปิยบุตร และพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด ไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายเพียงพอที่จะลงโทษเราทุกคดี เราเชื่อในความบริสุทธิ์ใจ 
เมื่อถามว่า ช่วงสัปดาห์นี้ นายปิยบุตร โดนโจมตีเรื่องเกียวกับ ม.112 ได้มีการคุยกับนายปิยบุตรบ้างหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนต้องเรียนว่า นายปิยบุตรยังมีกำลังใจเข้มแข็งดี พวกเราพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า นายปิยบุตรเป็นเสาต้นที่สำคัญของพรรคอนาคตใหม่ ในเมื่อวาน วันนี้ และวันพรุ่งนี้ต่อไป ซึ่งนายปิยบุตรเอง ก็ตอบชัดแล้ว ทั้งใน รายการทีวี ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งการใช้เรื่องสถาบัน หรือคุณทักษิณ มาโจมตีศัตรูทางการเมืองนั้นเป็นเรื่องเก่า 
คำถามคือ เราจะอยู่กับอดีตอย่างนี้ไม่เรื่อยๆรึเปล่า หรือเราจะเดินหน้าไปสู่อนาคต ที่ยังมีความท้าทายในสังคมไทยอีกเยอะแยะไปหมดที่รอการจัดการ กลุ่มคนที่ใช้การเมืองเก่าเล่นงานคู่ต่อสู้ทางการเมือง คือกลุ่มคนที่พยายามดึงประเทศไว้ให้อยู่ในอดีต พรรคอนาคตใหม่ต้องการพาสังคมไทยเดินสู่อนาคตที่คนเท่าเทียมกัน อย่าใช้ข้อกล่าวหานี้ทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองอีกเลย เพราะข้อกล่าวหานี้ใช้ไม่ได้ผลแล้ว  

“ต่อเนื่องกับกรณีของนาย ปิยบุตร ที่มีประชาชนล่ารายชื่อ ไม่ให้นายปิยบุตรเป็น ส.ส. ทำหน้าที่ในสภา ซึ่งมีประชาชนลงชื่อราวหมื่นกว่าคน ในทางกลับกัน ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ กกต.แล้วลงชื่ออนไลน์ เกือบถึงหนึ่งล้านคนแล้ว เช่นเดียวกับประชาชนที่ลงชื่อถอดถอน พล.อ.อภิรักษ์คง สมพงษ์ ผบ.ทบ.มีกว่า 30,000 คน ซึ่งเยอะกว่าที่ลงชื่อถอดถอนนายปิยบุตรเสียอีก ดังนั้นก็ชัดเจนว่า เสียงที่สังคมส่งเสียงอยู่ คือเสียงของการเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับมาสู่ ความเป็นประชาธิปไตย ความเป็นนิติรัฐ” นายธนาธร ระบุ

ไม่มีความคิดเห็น: