PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562

เบรคมุกเก่า

รัชกาลนี้ต้องไม่มีม็อบ

ย้อนไปดูข่าวก่อนหน้าห้วง 1-2 ปีที่ผ่านมา สังเกตว่า “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. จะย้ำในทุกโอกาสที่เดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะในภาคอีสาน

ส่งสัญญาณถึงเวลาบ้านเมืองต้องกลับสู่ความสงบ อย่าตกเป็นเครื่องมือเกมปั่นมวลชน

ล่าสุด “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศประจำประเทศไทย ประกอบด้วย CNN, AFP, NHK, EPA, Japanese News Agency, ABC Australia, CNA Singapore ฯลฯ ประกาศจุดยืนกองทัพชัดๆให้รับรู้กันทั่วโลก

ยอมไม่ได้ให้คนไทยไปต่อสู้กันบนถนนอีก

ทุกคนต้องยอมรับกติกา คือคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ 9 พฤษภาคม ซึ่งนายกรัฐมนตรีพยายามควบคุมให้ทุกอย่างแฟร์

ส่วนจะแฟร์หรือไม่แฟร์อยู่ที่ตัวบุคคล เมื่อคนแพ้ไม่พอใจก็หาเรื่อง

ส่งสัญญาณชัดๆแบบที่ต่างชาติเข้าใจง่ายๆ ในอารมณ์ขบวนการจ้องป่วนไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย

พวกปั่นเกมมวลชน ปลุกม็อบกดดัน เจอของหนักแน่

ทหารแกะรอยความเคลื่อนไหวได้ โดยสถานการณ์น่าจะมาจากจุดที่แกนนำระดับหัวโจกคนเสื้อแดงยึดแยกราชประสงค์ ระดมมวลชนตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ประกาศให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล ห้ามพรรคอื่นแข่งตั้งนายกรัฐมนตรี

แบไพ่ทีมดูไบที่ถือ “แต้มรอง” โอกาสพลิกขั้วชิงอำนาจคืนลำบาก

จากรูปการณ์บังคับให้จนกระดาน เหลือประตูเดียวต้องวัดใจด้วยการปลุกม็อบปั่นเกมมวลชน

ฝ่ายคุมเกมความมั่นคงจึงต้องเทกแอ็กชัน คำรามขู่กลับแรงๆ

เรื่องของเรื่อง กระแสกดดัน กกต.มันลุกลามไวผิดธรรมชาติ แข่งกับไฟป่าภาคเหนือ

โดยเฉพาะอารมณ์แนวร่วมนักศึกษา โฟกัสข้อเรียกร้องจากองค์กรนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยต่างๆก็ไม่เหมือนกัน บางมหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ขอแค่ให้ กกต.ชี้แจงเพื่อความโปร่งใส บางสถาบันก็ขอให้มีการเปิดเผยคะแนนดิบชัดๆ มีไม่กี่แห่งตั้งธงถอดถอน กกต.สถานเดียว

มุ่งไปที่นักศึกษาโข่งอย่าง “จ่านิว” กับขบวนการหน้าเดิมๆเป็นตัวชูโรง

นั่นหมายถึงนักศึกษาส่วนหนึ่งก็แค่แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ของพลังตรวจสอบทางสังคม ไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของขบวนการที่พยายามจุดไฟ กระพือควัน

เคลมเป็นกระแสต่อต้าน กกต.ที่เอื้อประโยชน์การสืบทอดอำนาจ “ลุงตู่”

เด็กรุ่นใหม่รู้ทัน ผู้ใหญ่รุ่นเก่าที่หลอกใช้ด้วยมุกปลุกม็อบเดิมๆ

แต่ที่ยังต้องคุมเกมกันให้ดีๆกับมุกปลุกม็อบเดิมๆของขบวนการหน้าใหม่

ล่าสุด “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ป่าวประกาศผ่านโซเชียลมีเดียระดมกองหนุนด่วน หลังโดนหมายเรียกให้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน และให้ไปรายงานตัวที่ สน.ปทุมวัน วันที่ 6 เมษายนนี้ เวลา 10 โมงเช้า

ในอารมณ์ที่นายธนาธรประกาศ จะไปตามหมายเรียกครั้งนี้แสดงความบริสุทธิ์ใจ เพื่อพิสูจน์ว่ากระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยจะไม่ศิโรราบยอมตกเป็นเครื่องมือเผด็จการ โดยไม่มีกฎหมาย ไม่มีอำนาจรัฐ ในมือ ไม่มีมาตรา 44 ไม่มีปืนหรือคุกตะรางไว้จัดการคนที่อยู่ตรงข้าม

“แต่ผมเชื่อมั่นว่ามีประชาชนหลายล้านคนที่รักความเป็นธรรม ยืนเคียงข้างผม และพร้อมจะแสดงออกว่าพวกเขาไม่ยอมทนกับอำนาจมืด ที่จ้องทำลายอนาคตใหม่ แล้วพบกันครับ”

“ไพร่หมื่นล้าน” เดินตามรอย “ทักษิณ”

ปลุกม็อบกดดันกลับฝ่ายความมั่นคง

แข็งขืนใส่กระบวนการยุติธรรม โวยโดนรังแกทางการเมืองเพราะฝ่ายคุมอำนาจกลัวสู้ไม่ได้

สคริปต์เดียวกับ “นายใหญ่” ทีมดูไบเป๊ะ

ตามเงื่อนไขสถานการณ์ปมเลือกตั้งกับปมป่วนโยงสถาบันกำลังไหลรวมเป็นคนละเรื่องเดียวกัน

นั่นจึงเป็นอะไรที่ต้องรีบดับไฟแยกเป็นกองๆ ก่อนอื่นใดในปมเลือกตั้งก็อย่างที่เซียนการเมืองที่เชี่ยวทิศทางลมอย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ออกมาแนะ กกต.ต้องพยายามสร้างความเข้าใจและทำให้ชัดเจน เปิดเผยรายละเอียดต่างๆ

โดยเฉพาะวิธีการคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 128 นั้นเป็น เช่นไร เพื่อไม่ต้องให้มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์และมีคนโจมตีอยู่ทุกวัน

ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่เห็นกันอยู่ กับเหลี่ยมเขี้ยวของขั้วดูไบที่ฟาวล์ จัดตั้งได้แค่ “รัฐบาลลม”

ปล่อย “สูตรเถื่อน” คิดตัวเลขเข้าทางตัวเอง กดดันตีกินสูตรจริง กกต.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: