PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ฮิวแมนไรทวอชเรียกร้องทุกฝ่ายหยุดความรุนแรง ยันกลุ่มผู้ชุมนุมหมดความชอบธรรมในการอ้างว่าประท้วงอย่างสันติ-ปราศจากอาวุธ

ฮิวแมนไรทวอชเรียกร้องทุกฝ่ายหยุดความรุนแรง ยันกลุ่มผู้ชุมนุมหมดความชอบธรรมในการอ้างว่าประท้วงอย่างสันติ-ปราศจากอาวุธ
-ใช้อาวุธสงครามที่หลักสี่และระดมยิงและปาระเบิดใส่ตำรวจก่อนที่ผ่านฟ้า

วันนี้(23 กพ. 57) ผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกแถลงการณ์เตือนทุกฝ่ายในไทยหยุดใช้ความรุนแรง ก่อนสถานการณ์บานปลายจนไม่สามารถควบคุมได้ โดยแถลงการณ์ฉบับใหม่เกี่ยวกับความรุนแรงในไทย จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างตำรวจ กับผู้ประท้วงบริเวณสะพานผ่านฟ้า ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยแถลงการณ์ระบุว่า การกระทำที่ละเมิดกฎหมายจากฝ่ายตำรวจ และผู้ประท้วง เสี่ยงที่จะทำให้ความรุนแรงจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในไทยลุกลามออกไป

แถลงการณ์ดังกล่าวอ้างคำพูดของนายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำเอเชีย ซึ่งระบุว่า เหตุนองเลือดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก ขณะเดียวกันก็ชี้ว่า การใช้กำลังเกินขอบเขตของเจ้าหน้าที่ และความรุนแรงจากทั้งสองฝ่ายคู่ขัดแย้ง จำเป็นต้องยุติลงทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลุกลามบานปลายจนไม่สามารถควบคุมได้

รายงานของฮิวแมนไรท์วอทช์ยังเล่าถึงบรรยากาศการปะทะกันบริเวณสะพานผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า การปะทะกันเกิดขึ้นระหว่างที่ตำรวจพยายามขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเรียกตนเองว่ากองทัพธรรม และเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย กปปส. โดยภายหลังการเจรจาล้มเหลว ตำรวจได้ตัดสินใจจู่โจมพื้นที่ชุมนุม โดยใช้กระบอง แก๊สน้ำตา และกระสุนยางเป็นอาวุธ ก่อนจับตัวนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ หนึ่งในแกนนำการชุมนุมเอาไว้ได้ เมื่อเวลาประมาณ 10 นาฬิกา จากนั้นไม่นาน กลุ่มมือปืนซึ่งปฏิบัติการร่วมกับผู้ประท้วง ได้เปิดฉากกระหน่ำยิงใส่ตำรวจ และขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บกว่า 10 นาย ก่อนที่มือปืน 4 คน จะบุกไปชิงตัวนายสมเกียรติจากรถห้องขังของตำรวจ ทำให้ตำรวจต้องตอบโต้ด้วยปืนสั้น ปืนช็อตกัน และไรเฟิลที่ใช้กระสุนจริง

ผู้เห็นเหตุการณ์เปิดเผยกับฮิวแมนไรท์วอทช์ว่า ผู้ประท้วงบางคนเปิดฉากยิงใส่รถตำรวจ ทำให้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย ส่วนคนขับรถได้ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมลากออกไปรุมทำร้าย ก่อนที่เหตุการณ์จะสงบลงในเวลาประมาณ 15 นาฬิกา หลังจากตำรวจถอนกำลังกลับ และผู้ประท้วงได้ล่าถอยกลับฐานที่มั่นของตน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นชัดเจนว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาล มีการใช้อาวุธ และไม่ได้ชุมนุมกันอย่างสันติ ปราศจากอาวุธตามที่แกนนำมักกล่าวอ้าง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นครั้งที่สอง ถัดจากการปะทะกันที่แยกหลักสี่ ซึ่งพบว่า มีกลุ่มติดอาวุธที่มีทักษะสูง และทำงานกันเป็นทีม ออกมาใช้อาวุธสงครามคอยช่วยเหลือผู้ประท้วงกลุ่ม กปปส.

ด้วยเหตุนี้ ฮิวแมนไรท์วอทช์จึงเรียกร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และบรรดาแกนนำ กปปส. ควรเร่งหาตัวผู้ใช้อาวุธสงคราม และเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรง เพื่อส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันยังเรียกร้องให้รัฐบาล เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างโปร่งใส และเป็นธรรม รวมถึงบังคับใช้กฎกติกาการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ให้สอดคล้องกับหลักการสากลอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้ความรุนแรง และการละเมิดสิทธิมนุษยชนลุกลามเลวร้าย และทำให้ประเทศไทยไร้ขื่อแป จากการโจมตีแก้แค้นกันที่ขยายวงกว้างมากขึ้น. (จาก
http://m.thairath.co.th/content/pol/405594)


ไม่มีความคิดเห็น: