PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ฟัง "ประภาส ปิ่นตบแต่ง" อ.รัฐศาสตร์ จุฬาฯ กับเหตุผลที่ต้องเดินเท้าปฏิรูปที่ดิน โดยที่รู้ว่าจะถูกจับ

ฟัง "ประภาส ปิ่นตบแต่ง" อ.รัฐศาสตร์ จุฬาฯ กับเหตุผลที่ต้องเดินเท้าปฏิรูปที่ดิน โดยที่รู้ว่าจะถูกจับ

วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 11:55:56 น.

ภาพจากเฟซบุ๊กPiyasak Ausap

สืบเนื่องจากวานนี้ (9 พ.ย.) ที่วัดสวนดอก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) และเครือข่ายพันธมิตร ทำพิธีเปิดการรณรงค์ “เดิน ก้าว แลก” เพื่อการปฏิรูปที่ดินไทย โดยได้วางแผนที่จะเดินเท้าจากจังหวัดเชียงใหม่สู่กรุงเทพฯ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้มีการยุติแผนแม่บทแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งร่างขึ้นโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าเป็นจำนวนมาก ทั้งถูกบังคับให้อพยพ ทำลายพืชผลทางการเกษตร และฟ้องร้องดำเนินคดี
http://www.matichon.co.th/online/2014/11/14155949941415595215l.jpg

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ มีตัวแทนจากสหพันธ์ฯ และเครือข่าย ที่จะนำการเดินรณรงค์ อาทิ นายประยงค์ ดอกลำไย แกนนำสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ, นายดิเรก กองเงิน ตัวแทนภาคประชาชน, นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด, และรศ.ประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 ได้พยายามเจรจาขอให้ไม่มีการเดินรณรงค์ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าเป็นการขัดต่อกฏอัยการศึก และขอให้ระงับการจัดกิจกรรม แต่ทางแกนนำเครือข่าย ได้ยืนยันที่จะทำการเคลื่อนไหวต่อไป โดยเริ่มออกเดินจากวัดสวนดอกในเวลาประมาณ 13.00น. จำนวนชุดละ 4 คน ทั้งหมด 2 ชุด ซึ่งก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารสกัดไว้ทั้งหมด ก่อนนำตัวไปควบคุมไว้บนรถห้องขังที่เตรียมไว้ หนึ่งในแกนนำที่ถูกจับคือ ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อม ชาวบ้านอีก 3 คน หลังออกเดินเป็นชุดที่ 2 ได้เพียง 50 เมตร

ทั้งนี้ ภายหลังการถูกจับกุมตัว เฟซบุ๊กของคุณภาสกร จำลองราชได้เผยแพร่คลิปวิดิโอสั้นๆ ถึงความรู้สึกที่ได้ออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้



Q: ความรู้สึกแรก รู้สึกอย่างไร?

A: ก็โอเค พี่น้องเราเจอมาเยอะแล้ว ซึ่งเราก็เอาเปรียบพี่น้องมาเยอะมากแล้ว พี่น้องทนทุกข์ลำบาก แต่เราได้ดิบได้ดี...เรียนจบปริญญาเอก

Q: สังคมตั้งคำถามว่า ในเมื่ออาจารย์รู้อยู่แล้วว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ อาจจะทำให้ติดคุก แล้วทำไมยังเลือกที่จะทำ?

A: คิดว่าเรื่องนี้ควรที่จะให้สังคมได้รับรู้ ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน ผมคิดว่าผมเป็นแค่คนที่ทุกข์นิดหน่อย แทนพี่น้องที่จะต้องมาเดือดร้อน ต้องมาเดินขบวนแบบเดิม หรือพี่น้องหลายคนแม้แต่ต้องยอมเสียชีวิต ผมคิดว่าผมเสียสละน้อยมาก

Q: สิ่งที่อาจารย์อยากเห็นคืออะไร?
A: หนึ่ง-ผมคิดว่าแผนแม่บทคืนผืนป่านี้ต้องทบทวน เพราะมันคือ "คจก.ภาค2" (
โครงการจัดที่ทำกินให้กับราษฎรผู้ยากไร้ในพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรม) ที่สร้างความเดือดร้อนมากมาย สอง-กลับไปสู่การแก้ปัญหาที่พี่น้องมีส่วนร่วมมาอย่างยาวนาน เรามีบทเรียนมาเยอะแยะ...ถอยกลับไปที่บทเรียนเดิมก็พอแล้ว

สำหรับความพยายามเข้ามาบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ของรัฐนั้น มีมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นกรณี "ป่าดงใหญ่" จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเคยเป็นที่มั่นของกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) เขตอีสานใต้ กอ.รมน.ภาค 2 จึงดำเนินนโยบาย "บ้านล้อมป่า" ร่วมกับกรมป่าไม้ จัดทำโครงการหมู่บ้านป้องกันตนเองตามแนวชายแดน (ปชด.) โดยอพยพชาวบ้านที่กระจัดกระจายอยู่ในป่าดงใหญ่ มาอยู่ในพื้นที่ทำกินให้ใหม่ ขณะเดียวกัน กรมป่าไม้ก็ได้กันพื้นที่ส่วนใหญ่ให้เอกชนเช่าปลูกป่าเศรษฐกิจ และมีสัญญาถึง 30 ปี ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถกลับไปยังพื้นที่ทำกินของตนได้อีก

ไม่มีความคิดเห็น: