PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สถานการณ์ข่าว26/12/57

กมธ./สปช.

สมาชิก สนช. ทยอยประชุมกรรมาธิการ แม้งดประชุมใหญ่ ขณะคณะกรรมาการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดรับสมัครแทนตำแหน่งว่าง

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีคำสั่งงดประชุมในวันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557 เนื่องจากไม่มีกฎหมายเร่งด่วนบรรจุในระเบียบวาระการประชุม แต่สมาชิก สนช. ยังมีภารกิจประชุมคณะกรรมาธิการชุดต่าง ๆ อาทิ คณะอนุกรรมาธิการอุดมศึกษาและการอาชีวศึกษา คณะกรรมาธิการการบริหาราชการแผ่นดิน ขณะเดียวกัน คณะกรรมาการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดิน

มีมติยืนยันตามมติเดิมด้วยคะแนนไม่เป็นเอกฉันท์ให้ ม.ล.ฤทธิเทพ เทวกุล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงเป็นเหตุให้ต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ โดยกำหนดเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาผู้สมัครเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2557 - 7 มกราคม 2558 ส่วนการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด บุคคลที่เข้ามาติดต่อต้องติดบัตรแสดงตนทุกครั้ง
---------

ธรรมนูญ โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้ข้อสรุปบางส่วนในเบื้องต้นแล้ว อาทิ ที่มาของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่มาของสภาผู้แทนราษฎร ที่มาของสมาชิกวุฒิสภา สำหรับวันนี้ 

จะพิจารณากรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญ ในส่วนของนิติธรรม ศาล และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ รวมถึงองค์กรอิสระ ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อสรุปในด้านสารัตถะทั้งหมด จะส่งต่อไปยังอนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ที่มี นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ เป็นประธาน ได้ดำเนินการยกร่างเบื้องต้นต่อไปจนถึงวันที่ 11 มกราคม 2558

อย่างไรก็ตาม วันนี้ ต้องมีแนวทางและโครงสร้างที่ชัดเจน ก่อนนำไปร่างเป็นรายมาตรา
--------------------
"บวรศักดิ์" ชี้ ความคิดเห็น ปชช.สำคัญที่สุดต่อการยกร่าง รธน. อยากให้ทุกคนมีส่วนร่วม

บรรยากาศที่งานสัมมนาคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และคณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วม และร่วมฟังความคิดเห็นของประชาชน ในคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เรื่อง "สานพลังเจ้าหน้าที่ของรัฐในการมีส่วนร่วมและรับฟังความเห็นต่อการยกร่างรัฐธรรมนูญ" ทั้งนี้ นางถวิลวดี บุรีกุล ประธานคณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วมและร่วมฟังความคิดเห็นของประชาชน กล่าว

รายงานวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการสัมมนาครั้งนี้ โดยมี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวเปิดโครงการสัมมนาและกล่าวปาฐกถานำเกี่ยวกับกรอบการยกร่างรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ นายบวรศักดิ์ ระบุว่า ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 23 ก.ค. 2558 ความเห็นของประชาชนสำคัญต่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญอย่างมาก และทำให้ประชาชนทุกคนได้มีส่วนร่วมในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 ของประเทศไทย
-------------------
"บวรศักดิ์" ย้ำ รธน.ใหม่ เน้นเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เลือกตั้งนายกฯ ส.ส. ไม่ต้องสังกัดพรรค นายกฯ ต้องเป็น ส.ส.

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนญ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ จัดทำร่างรัฐธรรมนูญ โดยยึดกรอบรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 พร้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ และจะบรรจุเฉพาะหลักสำคัญ ส่วนรายละเอียดจะนำไปเขียนเป็นกฎหมายลูก

ทั้งนี้ การให้ประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง จะทำให้รัฐบาลมีอำนาจมาก และจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความแตกร้าวในสังคม ควรสร้างภูมิคุ้มกัน โดยไม่ให้ผู้มีเงินมหาศาลเข้ามาควบคุมพรรคการเมืองได้ จึงเห็นว่า วิธีการเลือกตั้ง ส.ส.ต้องไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค พร้อมกำหนดให้นายกรัฐมนตรีต้องมาจากสภาผู้แทนราษฎร ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค หรือ เป็น ส.ส. เพื่อเปิดช่องให้สภาได้เสนอชื่อบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีที่บ้านเมืองเกิดวิกฤติ เพราะหากนายกรัฐมนตรีสังกัดพรรคการเมือง หรือเป็น ส.ส ก็เท่ากับเป็นการปิดประตูตาย และรัฐธรรมนูญ ก็ไม่สามารถหาทางออกในการแก้ปัญหาได้

อย่างไรก็ตาม การร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะยึดภูมิศาสตร์ สังคม สภาพปัญหาเป็นหลัก และรัฐธรรมนูญที่ร่างมาจะต้องไม่ผูกมัดจนเกินไป
----------------
"บวรศักดิ์" เห็นควร สรุปเนื้อหาร่าง รธน. โดยจะใช้ชื่อ “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป”

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ว่า เห็นควรให้มีการสรุปเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ ที่คณะกรรมาธิการได้ดำเนินการ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่สนใจ ประชาชน และฝ่ายต่าง ๆ ได้รับทราบว่า แนวทางร่างรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร จึงได้มอบให้ นายปกรณ์ ปรียากร และ นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกรรมาธิการ เป็นผู้ดำเนินการสรุปประเด็นสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะใช้ชื่อ “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป” ซึ่งในร่างดังกล่าว จะเป็นการสรุปเนื้อหาสาระของร่างรัฐธรรมนูญ โดยใช้ภาษาที่กระชับ เข้าใจง่าย และตอบคำถามที่สังคมสงสัย หรือเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายต้องการอยากทราบ เช่น การกำหนดนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส. ประเด็นที่มาของ ส.ว. เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูป จะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 5 มกราคม 2558 เพื่อที่จะได้นำร่างดังกล่าวไปถามความเห็นของฝ่ายต่าง ๆ รวมถึงประชาชนต่อไป
-----------------------
พล.อ.เลิศรัตน์ เผย กมธ.ยกร่างฯ มีมติไม่ยุบ กกต. ขณะที่คุณสมบัติต้องไม่มีตำแหน่งในพรรคการเมือง 

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงผลการประชุมในประเด็นข้อเสนอให้ยุบองค์กรอิสระบางองค์กร โดยที่ประชุมมีมติให้คงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไว้ตามเดิม โดยให้มีองค์ประกอบ 5 คน เช่นเดิม สามารถดำรงตำแหน่งได้ 6 ปี และทำหน้าที่ได้วาระเดียว

ทั้งนี้ คุณสมบัติต้องมีความรู้เรื่องการเมือง ซื่อสัตย์สุจริต และไม่มีตำแหน่งในพรรคการเมือง มีอำนาจหน้าที่กำกับการดูแลการเลือกตั้ง ให้ใบเหลืองในกรณีที่พบทุจริตในการเลือกตั้ง ส่วนการดำเนินคดีให้ศาลเป็นผู้พิจารณาความผิดและให้ใบแดง ซึ่งในรัฐธรรมนูญอาจมีการจัดตั้งศาลการเลือกตั้ง

อย่างไรก็ตาม กกต. ต้องรับรองผลการเลือกตั้งให้ได้ ร้อยละ 85 เพื่อให้มีผู้แทนเพียงพอในการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรและให้เพียงพอสำหรับเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี
-------------------------
พล.อ.เลิศรัตน์ เผย มติ กมธ.ยกร่างฯ ให้ ป.ป.ช. สามารถส่งฟ้องคดีได้เอง หากเกินเวลา

พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษกคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเห็นว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีความสำคัญจึงให้คงไว้ ส่วนวาระการทำงานยังไม่ได้ข้อยุติ ได้หารือกันอยู่ระหว่าง 6-9 ปี และสามารถดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว ส่วนคุณสมบัติต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีประสบการณ์ ต้องไม่มีตำแหน่งในพรรคการเมือง และให้ ป.ป.ช. ฟ้องคดีผ่านอัยการเพื่อนำสู่ศาลได้ แต่หากเกินเวลา ป.ป.ช. สามารถส่งฟ้องคดีได้เอง ส่วนอายุความให้ยกเว้นการนับอายุความในช่วงผู้ถูกกล่าวหาหลบหนี
////////

นายกฯ

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ก่อนร่วมพิธีรำลึก 10 ปี สึนามิ ที่ จ.พังงา 

ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. วันนี้ ในเวลาประมาณ 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ จะเดินทางมาที่ฝูงเครื่องบิน กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก ดอนเมือง เพื่อเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดภาคใต้ คือ ในช่วงเช้าจะเดินทางไปที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อรับฟังรายงานและตรวจเยี่ยมผู้ประสบปัญหาอุทกภัย ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

หลังจากนั้น ในช่วงเย็น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อเนื่องไปเป็นประธานพิธีรำลึกครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์ธรณีภัยพิบัติสึนามิ ในมหาสมุทรอินเดีย ณ อนุสรณ์สถานสึนามิ เรือ ต.813 อำเภอตะกั่วป่า
จังหวัดพังงา
---------------
นายกฯ บินลงใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ร่วมงานรำลึก 10 ปี สึนามิ ย้ำขอฝ่ายขัดแย้ง ช่วยแก้ปัญหาประเทศ 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางไปที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ว่า การเดินทางลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อตรวจสอบสถาการณ์อุทกภัยใน 5 จังหวัดภาคใต้ และตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือที่เคยได้สั่งการไป พร้อมดูในเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และย้ำว่าปัญหาเรื่องน้ำจะต้องแก้ไขให้ได้ในปีหน้า นอกจากนี้จะพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในเรื่องความพร้อมของการเปิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการส่งเสริมอุตสาหกรรม รวมทั้งขอความร่วมมือเอกชนในการตั้งโรงงานต่าง ๆ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนที่วันนี้เป็นวันครบรอบ 10 ปี เหตุการณ์ธรณีภัยพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย นั้น เชื่อว่าทุกคนยังคงเสียใจอยู่ ซึ่งต้องให้ความห่วงใยกับผู้ที่ยังมีชีวิต ทั้งนี้จะต้องนำมาเป็นบทเรียนในการสร้างระบบเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยแผนเผชิญเหตุต่าง ๆ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปัญหาของประเทศ จะต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ซึ่งรัฐบาลได้พยายามทำอย่างเต็มที่ และพร้อมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ที่สร้างสรรค์ และขอร้องฝ่ายที่มีความเห็นขัดแย้งเข้ามาพูดคุยในช่องทางและขอให้มาร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้
---------------------
พล.อ.ประวิตร ประชุมร่วมหน่วยงาน "แผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล" หาแผนนำสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด “การประชุมเพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล (พ.ศ.2558 - 2564) ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคงทางทะเล กว่า 400 คน เข้าร่วมประชุม ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ จะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชน ได้เข้าใจและรับทราบ อันจะนำไปสู่การขับเคลื่อนแผนความมั่นคงทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

นอกจากนี้ ในการประชุมครั้งนี้จะมีการจัดอภิปรายกลุ่มเรื่อง "แผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล จะนำไปสู่ความมั่นคงมั่งคั่ง และยั่งยืนได้อย่างไร"
---------------------------
"ประวิตร" ปัดตอบ เรื่องที่มานายกฯ คนนอก โยน กมธ.รัฐธรรมนูญ ตกผลึก เข้มอาวุธป้องเหตุป่วนเทศกาลปีใหม่

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีมติที่มาของนายกรัฐมนตรีว่ามาด้วยการโหวตในสภา แต่ไม่จำเป็นต้องมาจากการเลือกตั้งนั้น ตนเองไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางคณะกรรมาธิการฯ และสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่จะต้องคิดให้ตกผลึกออกมา ส่วนเรื่องที่นายกรัฐมนตรี คิดจะใช้ ม.44 ในการควบคุมการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนนั้น พล.อประวิตร บอกว่า ก็เป็นความคิดที่ดี เพราะทุกวันนี้ สื่อชอบนำเสนอข้อมูลที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งอยู่ตลอด

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวถึงการดูแลรักษาความเรียบร้อยในช่วงปีใหม่ โดยเฉพาะเรื่องการใช้อาวุธมาสร้างสถานการณ์ ว่า ทางหน่วยงานความมั่นคง ได้ดูแลในเรื่องนี้อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว นับตั้งแต่ที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เกิดขึ้น โดยประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทางเจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้มีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่
------------
นายกฯ ลงใต้ เยี่ยมน้ำท่วม เปิดงานรำลึก 10 ปี สึนามิ

ภารกิจในช่วงบ่ายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เเละหัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ ภายหลังตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ที่จังหวัดนราธิวาส เเล้ว นายกรัฐมนตรี จะรับฟังรายงานสถานการณ์ความมั่นคงจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เเละในเวลา 15.00 น. จะเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดภูเก็ต เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดพังงา ที่อนุสรณ์สถานสึ

นามิ เรือ ต.813 ในเวลา 17.00 น. เพื่อเป็นประธานในพิธีรำลึก 10 ปี สึนามิ ซึ่งกำหนดการเบื้องต้นนั้น จะมีการกล่าวสุนทรพจน์จากผู้แทนฝ่ายต่าง ๆ เเละพิธีวางพวงมาลา โดย นายกรัฐมนตรี จะ
กล่าวคำไว้อาลัย พร้อมจุดเทียนเเสดงความรำลึก หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี จะเยี่ยมชมนิทรรศการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเเละสาธิตอุปกรณ์กู้ภัย
---------------------
พล.อ.ประวิตร ประชุมศูนย์แก้ปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการร่วม-ตรวจเข้มปีใหม่ทุกพื้นที่ หวัง ปชช.ให้ความร่วมมือ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์แก้ปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ ณ ศาลาว่าการกลาโหม โดยมี ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมและมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อม ผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบทางไกลด้วย โดย พล.อ.ประวิตร ได้รับฟังแผนและมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดที่สำคัญของภูมิภาค และได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เตรียมแผนงานและ

ปฏิบัติงานร่วมกัน โดยเฉพาะการเตรียมการในมาตรการป้องกันและการเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย ในการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน และสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมทั้งให้ความสำคัญในการตรวจค้นอาวุธสงคราม ยาเสพติดและการค้ามนุษย์ในทุกพื้นที่อย่างจริงจัง

ขณะเดียวกัน ก็ขอให้ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชนและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ได้ร่วมกันเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง และมีส่วนร่วมกันแก้ปัญหาในห้วงเทศกาลปีใหม่ร่วมกัน
////////////////
ปปช.

ประธาน ป.ป.ช. เผย เร่งสอบ ผอ.กองคลัง เทคโนพระจอมเกล้าฯ ยักยอก 1,600 ลบ. ส่วนสำนวนข้าว G to G เสร็จแล้ว ถก 20 ม.ค.

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการหารือกันถึงกรณีเงินส่วนกลางของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ถูกยักยอกสูญหาย จำนวน 1,600 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของมหาวิทยาลัยฯ กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร และเกี่ยวข้องกับผู้อำนวยการส่วนการคลัง สถาบันฯ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปรวบรวมข้อมูลในเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมกราคม 58 เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนอนุกรรมการไต่สวนฯ กรณีการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่มี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกนั้น ขณะนี้ได้รวบรวมสำนวนส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และนักการเมืองเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะสรุปเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ในวันที่ 20 มกราคม 58
---------------------
ป.ป.ช. ไม่พิจารณาคำร้องอดีตรัฐมนตรี 5 ราย ยื่นคัดค้านแต่งตั้ง นายภักดี เป็นอนุกรรมการไต่สวนคดี 2 ล้านล้าน เพราะได้ข้อยุติในชั้นวุฒิสภาแล้ว

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาตามคำร้องกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รวม 35 คน กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่น ในการร่วมกันมีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ.... (พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน) คัดค้านการแต่งตั้ง นายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นอนุกรรมการไต่สวนฯ โดยให้เหตุผลว่า นายภักดี ขาดคุณสมบัติความเป็น ป.ป.ช. ตั้งแต่ต้น เพราะไม่ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริษัท องค์การเภสัช-ไทยเมอริเออชีววัตถุ จำกัด ว่า ทาง ป.ป.ช. ก็ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวไปแล้วว่า กรณีการลาออกของ นายภักดี นั้นเคยมีคนยื่นต่อวุฒิสภาในการขอถอดถอน ซึ่งที่ประชุมวุฒิสภาได้มีมติไม่ให้ นายภักดี พ้นจากตำแหน่ง จึงถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ข้อยุติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอดูว่าผู้ถูกกล่าวหาจะร้องคัดค้านอนุกรรมการไต่สวนฯ ในกรณีอื่นอีกหรือไม่ หากไม่มีการร้องคัดค้าน คณะอนุกรรมการไต่สวนก็จะดำเนินการกรณีดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับผู้ถูกกล่าวหาที่ส่งหนังสือคัดค้าน นายภักดี มีทั้งหมด 5 คน อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี
----------------------
//////////////////////
กกต.

เลขาธิการ เผย กกต. กำหนด Road Map การทำงาน 3 ระยะ ทั้งก่อนและหลัง จนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ในช่วงระหว่างนี้ไปจนกว่าจะมีรัฐธรรมนูญแห่งราชอนาจักรไทยฉบับใหม่ คณะกรรมการการเลือกตั้งยังคงเดินหน้าทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติต่อไป โดยกำหนด Road Map ในการทำงาน 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 ก่อนมีรัฐธรรมนูญ เป็นระยะที่มุ่งสร้างความภาคภูมิใจในสถาบันพระมหากษัตริย์และความเป็นไทย ปลูกฝังความเป็นพลเมือง สร้างวิถีประชาธิปไตย ตลอดจนเตรียมความพร้อมในเรื่องการพัฒนา และแก้ไขกฎหมายก่อนมีรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นข้อมูลและเสนอสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) การพัฒนาระบบสืบสวนสอบสวนให้มีมาตรฐาน รวดเร็ว ส่วนระยะที่ 2 เมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้ว เป็นระยะที่ต้องเร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของ กกต. และระยะที่ 3 เข้าสู่การเลือกตั้ง มุ่งสร้างความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการเลือกตั้งและกระตุ้นให้ประชาชน เกิดจิตสำนึกในการเลือกตั้งที่สุจริตและเป็นธรรม
--------------
กกต. ยืนยัน ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ พร้อมปฏิเสธมีหนังสือทักท้วง ไม่เห็นด้วยจากอัยการ

นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวถึงแผนการทำงานทำงานของ กกต.ในปี 2558 ว่า กกต. ได้เตรียมแผนงานในกิจการทุกด้านไว้พร้อมแล้ว และสำนักงาน กกต. ยังเตรียมเสนอร่างประกอบรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องดูก่อนว่ารัฐธรรมนูญนั้นจะออกมาในรูปแบบอย่างไร ส่วนข้อเสนอสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. กรณีอำนาจการให้ใบแดง ได้ให้ความเห็นว่าควรจะให้อำนาจ กกต.ในการให้ใบเหลือง-ใบแดง ก่อนประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส่วน สปช. จะมีความเห็นอย่างไรก็ไม่สามารถไปก้าวล่วงในคำวินิจฉัยได้

ทั้งนี้ นายศุภชัย กล่าวถึงกรณีการหาผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 ว่า ขณะนี้ กกต. กำลังรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ พร้อมทั้งมีการปฎิเสธว่ายังไม่เห็นหนังสือแย้งจากความเห็นอัยการในเรื่องการฟ้องดังกล่าว เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ และยากที่จะดำเนินการฟ้องร้องได้ พร้อมยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของ กกต. หาก กกต.ไม่ฟ้อง ก็จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และเป็นคนผิดเสียเอง
-----------------
'ภุชงค์' เผย กกต. ทำหน้าที่ครบ 1 ปีแล้ว ยันไม่ย่อท้อต่อการทำงาน ขณะที่ได้ปรับขอบเขตงานเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า นับตั้งแต่ กกต. ชุดปัจจุบันซึ่งเป็นชุดที่ 4 ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2556 และทำพิธีรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งและเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2556 เพื่อไปทำหน้าที่สำคัญ ในการจัดการเลือกตั้งทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นนั้น โดยขณะนี้ได้ปฏิบัติหน้าที่รวมระยะเวลา 1 ปีเศษ ซึ่งที่ผ่านมา กกต. ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้งบนจุดเปลี่ยนของประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้ง

ของคนในชาติ อันเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการจัดการเลือกตั้ง แต่ กกต. และพนักงานของสำนักงาน กกต. ก็ไม่ย่อท้อพร้อมที่จะทำงาน ยืนหยัดเคียงคู่กับ กกต.ตลอดช่วงที่ผ่านมา สำนักงาน กกต. ได้ปรับขอบเขตของงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. คือ การทำหน้าที่ฝ่ายธุรการของคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยมาแล้ว เมื่อเดือนสิงหาคม-กันยายน 2557 ที่ผ่านมา จึงถือเป็นอีกบทบาทหนึ่งของคณะกรรมการการเลือกตั้งและสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่มีส่วนสำคัญ ในการสนับสนุนการปฏิรูปประเทศ
----------------
ศาลปกครองมีคำพิพากษายกฟ้องคดีพิพาท คดีละเมิดหน่วยงานทางปกครองฯ 

วันนี้ (26 ธ.ค.) ที่ศาลปกครอง มีคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง พิพากษายกฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ 1295/2556 คดีหมายเลขแดงที่ 2085/2557 ซึ่งเป็นคดีพิพาทระหว่าง พลตำรวจเอกวุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ (ผู้ฟ้องคดี) กับเลขานุการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันเกิดจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ

โดยผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า เลขานุการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ละเลยต่อหน้าที่ไม่เชิญให้ผู้ฟ้องคดีเข้าร่วมการประชุมตั้งแต่การประชุมครั้งที่ 3/2556 - ครั้งที่ 5/2556 กรณีผู้ฟ้องคดีได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ก.ตร. ซึ่งมีหน้าที่เข้าร่วมการประชุมเพื่อลงมติต่าง ๆ ของ ก.ตร. ซึ่งเมื่อผู้ถูกฟ้องคดีไม่เชิญให้ผู้ฟ้องคดีเข้าร่วมการประชุม ทั้งที่ผู้ฟ้องคดียังดำรงตำแหน่ง ก.ตร. ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมเพื่อทำหน้าที่ตามกฎหมายและต้องเสียค่าเบี้ยประชุมในการประชุมดังกล่าว

/////////////////////
คดีพงศ์พัฒน์

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย เตรียมออกคำสั่งให้ 9 ตำรวจ เอี่ยวบ่อนออนไลน์ออกจากราชการไว้ก่อน ชี้ ยังไม่มีประสานมอบตัว 

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างดำเนินการทำหนังสือคำสั่งให้นายตำรวจทั้ง 9 นาย ที่ถูกออกหมายจับในคดีปราบปรามโต๊ะพนันฟุตบอลออนไลน์อาบูบาก้า เมื่อปี 2552 เครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างรอผลการสอบสวน คาดว่าจะมีคำสั่งได้ภายใน 1-2 วันนี้ ประกอบด้วย

พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผู้กำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม
พ.ต.อ.อธิป แท่นนิล ผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการปราบปราม
พ.ต.ต.จักรพันธ์ ลีลานันทวงศ์ สารวัตรกองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม
ร.ต.อ.นิธิพัฒน์ กังรวมบุตร รองสารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ
พ.ต.อ.สุพัฒน์ ลิ้มอิ่ม ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ เมฆประยูร สารวัตรกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ
พ.ต.ท.วัฒนา ผลงานดี สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม
พ.ต.ท.พิพัฒน์ แฉวงราษฎร์ สารวัตรกลุ่มงานสนันสนุนคดีเทคโนโลยี ปอท.
ร.ต.อ.ศักรินทร์ เกษรเศียร รองสารวัตรกองกำกับการ 4 ปอท.

ทั้งนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า หลังออกหมายจับได้ทำหนังสือประสานไปยังผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานที่ผู้ต้อง
หาซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ 9 นายสังกัดอยู่ เพื่อให้ส่งตัวมาดำเนินการตามหมายจับในคดีอาญา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานเพื่อ
ขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด หลังจากนี้หากไม่เข้ามอบตัวเตรียมส่งชุดติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเตรียมพิจาณา
ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เพิ่มเติมในคดีนี้ด้วย

///////////////////
คดีความการเมือง

ศาลอาญา สั่ง ยกฟ้อง "กษิต ภิรมย์" ปราศรัยกล่าวหา "ทักษิณ" สั่งฆ่ามุสลิมภาคใต้ ชี้ เป็นการปราศรัยเพื่อปกป้องประโยชน์ของประเทศ

ศาลอาญา รัชดา อ่านคำพิพากษา ในคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายกษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ และ บ.ไทยเดย์ ดอทคอม และ บริษัทเอเอสทีวี ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณี เมื่อวันที่ 3 พ.ย./ 11 พ.ย. และ 29 พ.ย. 2551 นายกษิต ได้กล่าวปราศรัย ที่ทำเนียบรัฐบาล กล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ในหลายเรื่อง อาทิ โจทก์ เป็นคนไม่จงรักภักดี ต้องการล้มล้างสถาบัน สั่งเจ้าหน้าที่รัฐฆ่ามุสลิมภาคใต้ ฆ่าตัดตอนผู้ต้องหาคดียาเสพติด และต้องการเป็นประธานาธิบดี

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อความที่จำเลยปราศรัย เมื่อพิจารณาตามความรู้สึกของประชาชนแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ แต่จำเลยเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีชื่อเสียง และเป็นบุคคลสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ เห็นว่า การปราศรัยของจำเลยที่ 1 นั้น เป็นการปราศรัยเพื่อปกป้องประโยชน์ของประเทศ ปกป้องสถาบัน เป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต ยังรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
-------------------
ศาลอุทธรณ์ ยืนยกฟ้อง จตุพร หมิ่นประมาท อภิสิทธิ์ กล่าวหา เป็นรัฐบาลทรราช สั่งฆ่าประชาชน ปี 52  ชี้เป็นการแสดงความเห็นติชมด้วยความเป็นธรรม 

ศาลอาญา รัชดา นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดี ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์  ประธาน นปช. เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา

จากกรณี เมื่อวันที่  10 พ.ค.2552 จำเลยได้ปราศรัยด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อหน้าประชาชน จำนวนกว่าหมื่นคน ใส่ความ รัฐบาลนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ (ขณะนั้น) ทำนองว่า  เป็นรัฐบาลภายใต้ทรราชฟันน้ำนม รวมทั้งกล่าวหาว่า โจทก์เป็นคนสั่งทหารให้ไปยิงประชาชน เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดฆ่าประชาชน  คดีนี้ศาลชั่นต้นพิพากษายกฟ้อง โดยศาลอุทธรณ์พิเคราะห์จากพยานหลักฐานที่โจทก์ -จำเลย นำสืบ แล้วมีเหตุผลให้เชื่อได้ว่า มูลเหตุแห่งคดี ที่จำเลย พูดเพราะเชื่อว่า เป็นข้อเท็จจริง ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เพื่อป้องกันประโยชน์ของตนเอง  และพูดเพื่อแสดงความเห็นติชมด้วยความเป็นธรรม  ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง นั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน ยกฟ้อง โดยนายจตุพร กล่าวขอบคุณศาล ที่พิพากษายืนยกฟ้อง ขณะที่ทนายความของนายอภิสิทธิ์  กล่าวว่า เตรียมยื่นฎีกา ต่อไป เพราะ 1 ในองคณะผู้พิพากษา ได้ทำความเห็นแย้งมีความยาวกว่า 20 หน้า โดยมีความเห็นว่า ควรลงโทษจำคุกนายจตุพร โดยไม่รอลงอาญา
---------------------
ศาลอาญา ยังไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว 4 ชายชุดดำ ชี้พฤติการณ์ร้ายแรง คดีมีอัตราโทษสูง

นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ได้เดินทางมาศาลอาญา รัชดา เพื่อยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า 2.5 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราว นายกิตติศักดิ์ หรือ อ้วน สุ่มศรี อายุ 45 ปี, นายปรีชา หรือ ไก่เตี้ย อยู่เย็น อายุ 24 ปี, นายรณฤทธิ์ หรือ นะ สุริชา อายุ 33 ปี และ นายชำนาญ หรือ เล็ก ภาคีฉาย อายุ 45 ปี จำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 และข้อหาพกพาอาวุธไปในที่ชุมชนจากกรณีที่พวกจำเลยร่วมกันพาอาวุธ เครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด อาทิ เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79, ปืนเอ็ม 16, ปืนเอชเค 33 หรือ อาก้า ซึ่งนายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไปตามบริเวณแยกคอกวัว ถนนตะนาว, ถนนประชาธิปไตย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร โดยไม่มีเหตุจำเป็น ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา

ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่า ตามคำฟ้องและคำร้องฝากขังเป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรง และความไม่สงบในการชุมนุมด้วยอาวุธร้ายแรงของกลุ่มติดอาวุธชายชุดดำ ที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่บ้านเมือง พฤติการณ์นับว่ามีความร้ายแรง คดีมีอัตราโทษสูง ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง
//////////////////////
คนเดินทางกลับบ้าน

ประชาชนเตรียมตัวกลับบ้านช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ ขณะถนนพหลโยธินขาออกช่วงรังสิตรถยังเคลื่อนตัวตามปกติ

ความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซึ่งเป็นจุดบริการรถตู้โดยสารสายต่างจังหวัด อาทิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดนครนายก จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสระบุรี เป็นต้น เริ่มมีประชาชนทยอยมาใช้บริการเป็นจำนวนมากเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาศปีใหม่

ส่วนการจราจรบริเวณถนนพหลโยธินขาออกไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและจังหวัดสระบุรี จำนวนรถยังไม่หนาแน่นมากนักและยังสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ ส่วนขาไปทางจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดนครนายกยังคงเคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่ง ขณะที่ฝั่งขาเข้าถนนพหลโยธิน ดอนเมือง และสะพานใหม่ รถยังสามารถเคลื่อนตัวได้
----------------
รอง ผบช.น. ปล่อยแถวตำรวจอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่สถานีขนส่งหมอชิต พร้อมปิดถนนบริเวณวัดเสมียนนารีเที่ยงวันยัน 6 โมงเช้า

พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เป็นประธานปล่อยแถวเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศกิจ กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่สถานีขนส่งผู้

โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านจราจร บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต ให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลปีใหม่

โดย พล.ต.ต.นิพนธ์ ระบุว่า บริเวณโดยรอบสถานีขนส่งหมอชิต ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ จะมีปัญหาด้านการจราจร เพราะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา 6-7 แสนคน ในช่วงเทศกาล ประกอบกับ

ขณะนี้ถนนกำแพงเพชร 2 มีการก่อสร้างทางเชื่อมทางด่วนจึงทำให้ช่องจราจรลดลง

ทางตำรวจจึงร่วมกับสถานีขนส่งหมอชิต จัดระเบียบการจราจรโดยเฉพาะถนนกำแพงเพชร 6 ตั้งแต่แยกวัดเสมียนนารี จนถึง แยก ปตท. จะเปิดให้รถทั่วไปสัญจรในเวลา 06.00-12.00 น. เท่านั้น

และตั้งแต่ 12.00-06.00น. จะปิดถนน เพื่อให้รถทัวร์รับส่งผู้โดยสารเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 1 มกราคม 2558

นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนที่จะเดินทางมาขึ้นรถที่สถานีขนส่งหมอชิต ให้ใช้ถนนกำแพงเพชร หน้าตลาด อ.ต.ก. และกลับรถที่แยกโรงปูน และให้ใช้รถโดยสารสาธารณะที่มีบริการฟรีถึงเวลา 24.00

น.
-----------------------
บขส. เพิ่มเที่ยวรถเป็น 7 พันเที่ยวต่อวัน รองรับผู้โดยสารที่มีมากกว่า 1 แสนคน ในช่วงเทศกาลปีใหม่

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. เปิดเผยว่า ทางสถานีขนส่งหมอชิตได้มีการเตรียมรถเสริมไว้รองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วง

เทศกาลปีใหม่อีก 2,000 เที่ยว รวมเป็น 7,000 เที่ยวต่อวัน ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้กว่า 100,000 คนต่อวัน โดยคาดว่าในวันที่ 29-30 ธันวาคม จะมีผู้โดยสารมากที่สุดประมาณ 200,000 คน

พร้อมกันนี้ ได้จัดเตรียมสถานที่ไว้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่มารอขึ้นรถโดยสาร รวมถึงมีตำรวจและทหารคอยดูแลความปลอดภัย

ทั้งนี้ นายวุฒิชาติ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยระหว่างเดินทาง เพราะทางขนส่งได้ตรวจสารเสพติด แอลกอฮอล์พนักงานขับรถทุกคนก่อนปฏิบัติงาน และระหว่างทางยังมี

การตั้งด่านร่วมกับตำรวจเพื่อตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถ โดยรถแต่ละคันจะมีพนักงานขับรถอย่างน้อย 2 คน เพื่อสับเปลี่ยนการปฏิบัติหน้าที่ทุก ๆ 4 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนระวังบุคคลแอบอ้างนำตั๋วมาจำหน่ายในราคาสูง และหากทางขนส่งพบจะมีการเปรียบเทียบปรับในราคาใบละ 10,000 บาท และให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ

เป็นหลักในการเดินทางมา พร้อมเผื่อเวลาในการเดินทางอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
------------------
ตร. ชี้รถออกต่างจังหวัดยังคล่องตัวทุกเส้นทาง ยันดูแลทุกจุดเป็นพิเศษ-ไร้อุบัติเหตุ

พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผบก.กองบังคับการตำรวจทางหลวง เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การจราจรในเส้นทาง สายเหนือ สายอีสาน สายใต้ ที่ประชาชนจะเดินทางออกต่างจังหวัดช่วงปี

ใหม่ในช่วงนี้ ยังคล่องตัวในทุกเส้นทาง โดยยืนยันว่า จะดูแลในทุกเส้นทางเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ยังไม่มีอุบัติเหตุเกิดในเส้นทางดังกล่าวแต่อย่างใด

///////////////////

๑๐ ปีสึนามิ

ปภ.จัดงาน รำลึกครบรอบ 10 ปี ธรณีพิบัติภัยสึนามิ - ส่งเสริมชุมชนรับมือภัยพิบัติ

พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2548 กำหนดให้วันที่ 26 ธ.ค.ของทุกปีเป็นวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์ธรรีพิบัติภัยสึนามิในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งนับเป็นภัยพิบัติรุนแรงที่สุดของประเทศก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เนื่องในวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติประจำปี 2557 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ กระทรวงมหาดไทย จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรมวันป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ ในวันที่ 26 ธ.ค.57 ณ อนุสรณ์สึนามิ บ้านน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ความสูญเสียจากธรณีพิบัติภัยสึนามิ กระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงความสูญเสียจากภัยพิบัติและเกิดความตื่นตัวในการเตรียมพร้อมับมือภัยพิบัติ
///////////////////
โยกย้าย ตร.

ผบ.ตร. เลื่อนแต่งตั้งโยกย้าย ตร. ระดับสารวัตรถึงรองผู้การ ปี 57 ให้เสร็จ ภายใน 15 ม.ค. 58 ชี้พร้อมดูแลประชาชนช่วงปีใหม่ทุกด้าน

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ครั้งที่ 15/2557 ว่า การประชุมวันนี้ไม่มีวาระพิเศษใด ๆ มีเพียงการให้การพิจารณา
แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ตั้งแต่ระดับสารวัตรถึงรองผู้บังคับการ ประจำปี 2557 เลื่อนออกไปจากกำหนดเดิมที่ต้องแล้วเสร็จภายใน 31 ธันวาคม เป็นให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 มกราคม 2558

ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 90 แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบรายชื่อเล็กน้อยเท่านั้น

ซึ่งที่มีความล่าช้าไม่ได้มีสาเหตุมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แต่เป็นเพราะต้องมีการไกล่เกลี่ยกำลังพลให้เหมาะสมในทุกหน่วยงาน พร้อมยืนยันว่าการโยกย้ายครั้งนี้ไม่มีการวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง โดยพร้อมจะให้ความเป็นธรรมและเท่าเทียมต่อทุกคน

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีกับเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเครือข่าย โดยรูปแบบการดำเนินการจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อความถูกและเป็นธรรม โดยยังไม่ทราบว่าจะมีการออกหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่ ต้องดำเนินการตามพยานหลักฐานและตามข้อเท็จจริง ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ จะมีการประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อตรวจสอบป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ

สำหรับมาตรการดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ จะเน้นการอำนวยความสะดวกด้านจราจร และดูแลความปลอดภัยทุกพื้นที่ ซึ่งทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้ประสานนำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารช่วยดูแลความสงบเรียบร้อย

ไม่มีความคิดเห็น: