PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พบถ้ำลึกลับมีผลึกยักษ์

วันที่ 19 ธ.ค.57 สุดอึ้ง...ถ้ำผลึกยักษ์ลึก 300 เมตร จากเซเลไนท์ อายุ 5 แสนปี
ในสมัยเด็กๆ ใครที่ชอบวิทยาศาสตร์ อาจเคยทดลองสร้างผลึกเกลือด้วยตนเอง โดยการต้มน้ำ แล้วค่อยๆ เติมเกลือไปเรื่อยๆ จนกว่าเกลือจะไม่ละลาย จากนั้น เอาเส้นด้ายหย่อนลงไป แล้วรอให้เย็น จะพบ ผลึกเกลือก้อนจิ๋วขนาดเล็กติดที่ปลายด้ายขึ้นมา
พ.ศ.2543 บริษัทเหมืองแร่ ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งกำลังขุดขยายเหมืองเงินของตนอยู่นั้น ก็ไปพบกับถ้ำใต้ดินที่ลึกลงไป 300 เมตร แต่ในถ้ำนี้มีน้ำท่วมจนมิด ด้วยความสงสัยว่าในถ้ำนี้มีอะไรอยู่ บริษัท จึงสูบน้ำออกจากถ้ำไปตลอดเวลาเป็นเวลานาน
เมื่อสูบน้ำออกไปจนหมดแล้ว คนงานเหมืองก็ต้องตื่นตะลึง !! .. เพราะภายในถ้ำแห่งนั้นมีแท่งผลึกใสขนาดยักษ์ แวววาว สูงเท่าตึก 3 ชั้น แทงทะลุออกมาจากถ้ำทุกทิศทุกทาง เป็นผลึกที่มีขนาดมหึมาที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยค้นพบมา
สภาพแวดล้อมภายในถ้ำนั้น สุดขีดสำหรับร่างกายมนุษย์มากๆ เพราะมันมีอุณหภูมิร้อนถึง 58 องศาเซลเซียส และมีความชื้นสัมพัทธ์เกือบ 100% ด้วยอุณหภูมิ และความชื้นระดับนี้ ร่างกายมนุษย์จะทนไม่ได้ คนงานเหมืองจะสามารถมีชีวิตอยู่ในถ้ำนี้ได้ไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น
เนื่องจากในถ้ำร้อนมาก จนภายในปอด เย็นกว่าอากาศในถ้ำ ความชื้นสูงของอากาศในถ้ำที่หายใจเข้าไป จะกลั่นตัวเป็นน้ำเหลวในปอด หากคนงานเหมืองไม่ร้อนจนตายไปเสียก่อน ก็จะเกิดน้ำท่วมปอดตายอยู่ดี
หลังจากค้นพบถ้ำผลึกยักษ์แห่งนี้ ก็มีความพยายามจะลงมาสำรวจกันหลายครั้ง โดยมีการสำรวจอย่างละเอียดครั้งแรกในปี พ.ศ.2549 โดยทีมสำรวจต้องสวมชุดชนิดพิเศษเพื่อให้อยู่รอดได้ในถ้ำนี้ โดย ชุดสวมใส่จะช่วยปรับอุณหภูมิ และรับมือกับความชื้นสูงของอากาศในถ้ำ แต่ ถึงแม้จะสวมชุดพิเศษนี้ก็ยังมีเวลาเพียงรอบละ 30 นาทีเท่านั้น
จากการสำรวจครั้งนั้นพบว่า ผลึกยักษ์เหล่านี้เป็นผลึก เซเลไนท์ (selenite) ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของยิบซั่ม ด้วยสภาวะที่เหมาะสมแบบอัศจรรย์ของถ้ำนี้ ผลึก เซเลไนท์ จึงก่อตัวเป็นผลึกขนาดมหึมาภายใน จากการตรวจสอบการเสื่อมสภาพของสารกำมันตรังสีพบว่า ผลึกเหล่านี้มีอายุมากถึงราว 5 แสนปี...แม่เจ้า !!
แต่เมื่อบริษัทเหมือง สูบน้ำออกจากถ้ำ ทำให้สภาพสมดุลถูกเปลี่ยนแปลง ผลึกยักษ์ก็เริ่มเสื่อมสภาพละลายลงทุกวัน
พ.ศ. 2554 ทีมสำรวจล่าสุด จึงได้ลงไปสำรวจเพิ่มเติมอีกครั้ง พบว่าแขนงของถ้ำแห่งนี้เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปได้ หากจะเข้าไปต้องทำลายผลึกที่กั้นขวางอยู่ พวกเขา จึงตัดสินใจปล่อยถ้ำไว้ให้คงสภาพเดิม และมีแนวคิดว่า หลังจากนี้ ควรสูบน้ำปล่อยกลับเข้าท่วมถ้ำ อย่างที่มันเคยเป็นเพื่อรักษาผลึกเหล่านี้ไว้ต่อไป
ในโลกเราใบนี้ ยังมีสิ่งแสนจะอัศจรรย์จากธรรมชาติมากมาย ที่มนุษย์เรายังค้นหาไม่พบ หรือ พบแล้วแต่ยังหาคำตอบที่ชัดเจนยังไม่ได้แน่ชัด แต่มนุษย์เองก็มีความสงสัยใคร่รู้ตลอดเวลา และตั้งคำถามถึงสิ่งเหล่านั้น
ล่าสุดหลังจาก NASA ส่งยานอวกาศและหุ่นยนต์ไปศึกษาที่ผิวของดาวอังคาร ก็พบว่าครั้งหนึ่งเคยมีภูเขาสูง มีหิมะตก และละลายออกมาเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ขังอยู่ที่พื้นผิวดาวอังคาร และพบก๊าซมีเทนหนาแน่นสูง ซึ่งก็าซชนิดนี้ ถ้ามีเบาบางก็เกิดจากสาเหตุทั่วๆ ไปได้ แต่ถ้าหนาแน่นสูงก็สันนิษฐานว่า เกิดจากซากสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก
แหล่งน้ำบนดาวอังคารที่พบ ปัจจุบันน้ำได้ระเหยออกไปหมดแล้ว เหลือแต่ตะกอนดิน และหิน ที่มีการเรียงตัวกันเป็นระเบียบเกินไป คล้ายชุมชนที่อยู่อาศัย เมื่อทดลองสกัด ฝุ่นดินและหินจุดนั้น และคำนวน พบว่าปริมาตร 2 ลูกบาตรเมตร จะสกัดน้้ำออกมาได้ 2 ขวด แต่ก็มีสารเคมีปนเปื้อนมาก มนุษย์ยังใช้ดื่มไม่ได้ทันที
เมื่อมีแหล่งน้ำ ก็ย่อมเคยมีก็าซออกซิเจน ที่หนาแน่นบนดาวอังคารมาก่อน แต่จากการคำนวนทางวิทยาศาสตร์พบว่า แหล่งน้ำ บนดาวอังคารนั้น ได้ระเหยแห้ง และมีการใช้ก๊าซออกซิเจนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่สัปดาห์ และทำให้ดาวอังคาร กลายเป็นฝุ่นสีแดงไปเมื่อประมาณ 4,000 - 4,500 ล้านปีที่แล้ว
และอะไรจะช่างแสนบังเอิญพอเหมาะพอเจาะกันเช่นนั้น เพราะโลกของเราก็เพิ่งดันมีกำเนิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 4,500 ล้านปีเช่นกัน ช่วงเวลาช่างใกล้เคียงกันอย่างน่าประหลาด และอยู่ในระบบสุริยะจักรวาลเดียวกันเสียอีกด้วย
แล้วอะไรทำให้น้ำ และ ก็าซบนดาวอังคาร หมดไปฉับพลันภายในไม่กี่สัปดาห์...มันคงจะหนีไม่พ้นความร้อนจากไฟ !! ...ไฟที่มีอุณหภูมิร้อนสุดขีดได้ทำลายดาวอังคาร และสิ่งมีชีวิตซึ่งไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร เสียจนยับเยิน และกลายเป็นดาวร้างเพียงในเวลาไม่กี่สัปดาห์
บนโลกมนุษย์เราทุกวันนี้ ประเทศมหาอำนาจ หลายสิบประเทศต่าง สะสมอาวุธนิวเคลียร์กันไว้กว่า 10,000 ลูก..แต่ละลูกมีอานุภาพร้ายแรงกว่าระเบิดที่อเมริกาทิ้งใส่ฮิโรชิมา และ นางาซากิ ของญี่ปุ่นราว 200 เท่า และตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่าเขาพร้อมทุกวินาที ที่จะกดปุ่มยิงใส่กัน ถ้าใครตัดสินใจเริ่มยิงก่อน
บัดนี้โลกมีอายุ 4,500 ล้านปี พอๆ กับเมื่อคราวดาวอังคารสูญสิ้นน้ำ และสิ่งมีชีวิตไปหมดสิ้น...หรือวัฎจักร จะหมุนเวียนกลับมาอีกครา !!
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/topsecretthai
"กติกา" โปรดงดความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้, งดนำข่าวลือเขาว่ามา , คำหยาบ , ป่วน , งดลิ้งใดๆ ทุกชนิด , งดข้อความจากแหล่งอื่น , งดภาพ , การให้ร้ายดูหมิ่นเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้..สามารถติดตามบทความยาวที่http://www.facebook.com/thailandcoup


ไม่มีความคิดเห็น: