"ทีนิวส์"แถลงจุดยืนชัด!!!ฉะ"บิ๊กเนชั่น"พล่านหนักพาดพิง-ทำเสียหาย-ชี้"SLC"ซื้อNMGเป็นกลไกปกติ-ยึดกฎตลท.??
Cr:ทีนิวส์
วันนี้(6 ม.ค.) กองบรรณาธิการข่าว สำนักข่าวทีนิวส์ ได้ออกแถลงการณ์ กองบรรณาธิการข่าว สำนักข่าวทีนิวส์ ความว่า
Cr:ทีนิวส์
วันนี้(6 ม.ค.) กองบรรณาธิการข่าว สำนักข่าวทีนิวส์ ได้ออกแถลงการณ์ กองบรรณาธิการข่าว สำนักข่าวทีนิวส์ ความว่า
เรื่อง ยืนหยัดบนอุดมการณ์กับพันธมิตรที่ไว้วางใจ
๑. ตามที่ ปรากฏข่าวสารขึ้น เมื่อ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๗ ว่า บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติเข้าลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 13.50 บาท และรับทราบการเข้าลงทุนซื้อหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือNMG สัดส่วน 12.27% นอกจากนี้ ยังอนุมัติการทำบันทึกความเข้าใจในการร่วมลงทุนในกลุ่มบริษัท ทีนิวส์ กับนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม โดยจะทำการศึกษาข้อมูลเพื่อตัดสินใจการในการร่วมการลงทุน และกำหนดโครงสร้างของการร่วมทุนให้เสร็จภายใน ๑๒ สัปดาห์ ก่อนตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย
๒. ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลา หลังจาก ปรากฏข่าวสารขึ้น ก็นำไปสู่การ วิพากษ์วิจารณ์ และโต้ตอบ ของผู้บริหาร ของกลุ่ม บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตลอดจน กลุ่มบุคคล และ/หรือบุคคล ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ก็อยากแสดงตัว ว่าเป็นผู้รู้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลัง ในการดำเนินการดังกล่าว ซึ่งในการแสดงความคิดเห็น ของ กลุ่มบุคคล และ/หรือบุคคล นั้นมีส่วนพาดพิงสำนักข่าวทีนิวส์ ไปในทางที่ทำให้เกิดความเสียหายและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อสังคมจะด้วยเจตนาที่ดี แต่ปราศจากข้อมูลหรือมีเจตนาเพียงเพื่อต้องการอาศัยประเด็นนี้ในการสร้างกระแส ให้เกิดการยอมรับ และ/หรือความนิยม ต่อตนเอง และ/หรือองค์กรด้วยเจตนาที่ทุจริต
๓. จากกรณี ดังกล่าวนี้ กอง บก. สำนักข่าว ทีนิวส์ ขอชี้แจงไปยัง กลุ่มบุคคล และ/หรือบุคคล ที่มีความพยายามที่สื่อความหมาย โดยไม่สุจริต ตาม ข้อ ๒ และ ขอกราบเรียน ไปยังพี่น้องประชาชนคนไทย ทั้งใน และต่างประเทศ ที่ได้ติดตาม และให้กำลังใจใน การนำเสนอข่าวของ สำนักข่าว ทีนิวส์ ภายใต้ อุดมการณ์ " เพื่อปกป้อง สถาบันพระมหากษัตริย์ และ ต่อต้านทุนสามานย์ ทุกรูปแบบ " ดังนี้
๔. การที่บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ในการเข้าไป ลงทุนซื้อหุ้นบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ถือว่าเป็นไปตามกลไกปกติของการซื้อขาย และ/หรือการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งก็อยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตัวบทกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
๕. ในส่วนของสำนักข่าวทีนิวส์นั้นตามที่ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยว่ากรรมการอนุมัติการทำบันทึกความเข้าใจในการร่วมลงทุนในกลุ่มบริษัท ทีนิวส์ กับนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม โดยจะทำการศึกษาข้อมูลเพื่อตัดสินใจการในการร่วมการลงทุน และกำหนดโครงสร้างของการร่วมทุนให้เสร็จภายใน ๑๒ สัปดาห์ ก่อนตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายนั้นเป็นความจริง และเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดความร่วมมือดังกล่าวกับ SLC คือ ก่อนหน้านั้น สำนักข่าวทีนิวส์ ก็ติดตามศึกษาดูรายละเอียด การบริหารงานของ SLC ต่อสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ก็ไม่ปรากฏข้อมูลที่บ่งชี้ ถึงพฤติกรรม ของทุนในการเข้าแทรกแซงการบริหารงาน ของ สถานี และ/หรือ กองบก. แต่อย่างใด และภายใต้เงื่อนไงการลงทุนระหว่างสำนักข่าวทีนิวส์และ SLC นั้นยังได้มีข้อตกลงที่ให้นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม บริหารและกองบก.สามารถบริหารจัดการตามอุดมการณ์ต่อไป นอกจากนั้นเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ SLC ตัดสินใจเข้าลงทุนร่วมกับสำนักข่าวทีนิวส์ ก็คือโอกาสในทางธุรกิจ ที่จะเกิดขึ้นตามทิศทางการเจริญเติบโตของสำนักข่าวทีนิวส์ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีแนวโน้มที่ดีมาโดยตลอด และในกรณีการร่วมทุนดังกล่าว ก็จะยิ่งส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตของธุรกิจนั้นดียิ่งขึ้น และนำไปสู่การพัฒนา องค์กรและบุคลากรให้ยั่งยืนต่อไป
๖. ซึ่งก่อนหน้านั้นนายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ในฐานะเจ้าของกิจการได้แจ้งถึงแนวทางดังกล่าวให้กับกองบก.ทราบล่วงหน้ามาตั้งเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๗ (หลังจากที่ คสช.อนุญาตให้เรากลับมาออกอากาศได้อีกครั้ง) เนื่องจากก่อนหน้านี้ต้องประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจในระหว่างที่สถานีโทรทัศน์ทีนิวส์ทีวี ไม่สามารถออกอากาศได้ และเมื่อออกได้อีกครั้งเราก็ต้องเจอกับปัญหาใหญ่ทั้งในส่วนของทางด้านเทคนิคและคู่แข่งทางการตลาด ในกลุ่มของดิจิตอลทีวีอีก 24 ช่อง ส่งผลให้การบริหารการขายโฆษณา ไม่เป็นไปตามเป้าและต้องประสบปัญหาการขาดทุนประจำเดือนอีกครั้ง ซึ่งเราก็ได้ร่วมกันหารือในเรื่องนี้อย่างละเอียดและรอบด้าน ซึ่งก็ได้รับการยืนยันจากนายสนธิญาณ ว่าการร่วมทุนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานภายใต้ อุดมการณ์ที่ผ่านมาแต่อย่างใด ในด้านกลับกันจะเป็นการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงนำไปสู่การทำบันทึกความเข้าใจ ระหว่างกัน
๗. นอกเหนือจากความคาดหวังว่าการร่วมทุนนั้นจะส่งผลให้สำนักข่าวทีนิวส์ได้ทำงานให้เกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ตาม ข้อ ๖ แล้วนั้น และอีกประการสำคัญก็คือสำนักข่าวทีนิวส์ ประสบสภาวะขาดทุนหลังจาก ถูก คสช. ให้ระงับการออกอากาศชั่วคราว เป็นระยะเวลา ประมาณ ๒ เดือน และเราก็ไม่มีนายทุน และ/หรือ พรรคการเมืองที่สนับสนุนจึงทำให้นายสนธิญาณและกองบก.ไม่สามารถแบกรับภาระ และนำไปสู่การพัฒนาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตามรายละเอียด การดำเนินกิจการที่ผ่านมาดังนี้
๒๕๕๐ เริ่มต้นดำเนินธุรกรรมทางด้านข่าวสาร ในรูปแบบของการให้บริการ ข่าวด่วน ผ่านระบบ SMS ซึ่งถือได้ว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
๒๕๕๒ วิกฤตการเมือง “สงกรานต์เลือด ” เข้าสู่ การนำเสนอข่าวทางโทรทัศน์ “เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก” ทาง ช่อง๑๑ เพื่อเปิดโปงและตอบโต้ระบอบทักษิณ และขบวนการล้มเจ้า
๒๕๕๓ วิกฤตการเมือง “ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ” ทาง ช่อง ๑๑ และ เพื่อเปิดโปง แผนการพาคนมาตาย และขบวนการล้มเจ้า
๒๕๕๓ เปิดสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทีนิวส์ทีวี ภายใต้ อุดมการณ์ “ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และต่อต้านทุนสามานย์ ทุกรูปแบบ ”
๒๕๕๔ หลัง เปลี่ยนผ่านรัฐบาลสำนักข่าวทีนิวส์ถูกสั่งให้ระงับการออกอากาศทาง ช่อง ๑๑ ซึ่งก็ได้นำคดี ขึ้นสู่ศาลปกครอง และสำนักข่าวทีนิวส์ ก็ได้รับการคุ้มครองให้ออกอากาศได้จนสิ้นสุดสัญญา (ยังอยู่ในสภาวะขาดทุนประจำเดือน)
๒๕๕๕ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทีนิวส์ทีวี เดินหน้านำเสนอข่าวสารภายใต้อุดมการณ์ที่ชัดเจน “ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อต้านทุนสามานย์เผด็จการทักษิณ ” จนได้รับการยอมรับจากสังคมและผู้ชมทั้งในและต่างประเทศ ( ยังอยู่ในสภาวะขาดทุนประจำเดือน แต่ลดจำนวน การขาดทุนประจำเดือนลง )
๒๕๕๖ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมทีนิวส์ทีวี ก้าวสู่การเป็นอันดับ ๑ ของสถานีข่าวโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม โดยผลสำรวจของเอซี นีลเส็น ( พ้นจากสภาวะการขาดทุนประจำเดือน ซึ่งรายได้ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมากจากการขายโฆษณา )
๒๕๕๗ หลัง คสช. เข้าควบคุมอำนาจ และระงับการออกอากาศชั่วคราว เป็นระยะเวลา ร่วม ๒ เดือน ( พฤษภาคม – กรกฎาคม ๒๕๕๗) ส่งผลให้ สำนักข่าวทีนิวส์ แต่เดิมที่มีรายได้จากการขายโฆษณา ต้องประสบปัญหาขาดรายได้และเมื่อกลับมาออกอากาศอีกครั้ง ก็มีการเปลี่ยนระบบการออกอากาศ จึงทำให้ส่งผลกระทบกับการรับชมเป็นอย่างมาก จึงส่งผลให้ผลประกอบการตั้งแต่กรกฎาคม – ธันวาคม ๒๕๕๗ รวมระยะเวลา กว่า ๖ เดือน ที่ สำนักข่าว ทีนิวส์ ต้องรับภาระการขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องรวมกว่า ๕๐ ล้านบาท
๘. หากสำนักข่าวทีนิวส์ ยังคงเดินหน้าเพื่อรอระยะเวลาให้ผลประกอบการทางธุรกิจดีขึ้นนั้นก็ต้องใช้ระยะเวลา ซึ่งก็อาจจะเป็นการนำพาเจ้าหน้าที่ และเพื่อนร่วมอุดมการณ์กว่า ๒๐๐ ชีวิต และอีกหลายครอบครัวสุ่มเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบหากสำนักข่าวทีนิวส์ต้องปิดตัวลง และ ถึงแม้ไม่ถึงขั้นที่จะปิดตัวลง ก็ อาจจะส่งผลกระทบกับคุณภาพของการทำงาน ดังนั้น ตามที่ได้ เรียนมาทั้งหมด คือเหตุผลของการตัดสินใจ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวสารดังกล่าว
๙. สำนักข่าวทีนิวส์ขอยืนยันว่า จะนำเสนอข่าวสารภายใต้อุดมการณ์เช่นเดิมไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้ระยะเวลา จะเป็นเครื่องพิสูจน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น